สาร Antioxidants ที่ช่วยชะลอวัย การเกิดริ้วรอย ป้องกัน Collagen และ Elastin ไม่ให้ถูกทำร้ายจากมลภาวะและแสงแดด 1 Alpha-lipoic Acid 2 Vitamin E 3 Vitamin C 4 Resveratrol 5 Green Tea extract 6 Curcumin 7 Turmeric 8 CoQ10

ผักบุ้ง : แนะนำ curel intensive moisture cream ถ้ามีปัญหาแบบผิวแห้งมากๆ ต้องลองตัวนี้เลยค่า #curel #ผิวแห้ง #มอยส์เจอร์ไรเซอร์

ต้านโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงสามารถเป็นโรคปัสสาวะอักเสบได้มากกว่าผู้ชายเพียงเพราะว่า ผู้หญิงมีการกลั้นฉี่และกินน้ำน้อย ซึ่งเวลาเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบมักจะมีอาการเจ็บ แสบขัด เวลาปัสสาวะ ยับยั้งเชื้ออีโคไล (ท้องร่วง) แครนเบอรรี่ ช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E.coli) หรือเชื้อที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงรุนแรง ผู้หญิงที่ได้รับสารสกัดจากแครนเบอร์รีอย่างต่อเนื่องพบว่าช่วยยับยั้งการยึดเกาะตัวของเชื้ออีโคไลได้ เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับสารสกัดจากแครนเบอร์รี เสริมสร้างภูมิต้านทาน แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซีสูง จึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพและยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย และช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บที่มากับอากาศได้ดี ลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ การบริโภคแครนเบอร์รี่ว่าสามารถช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมากและอื่น ๆ โดยสารประกอบฟลาโวนอยด์ (Proanthocyanidins) จะเป็นตัวเหนี่ยวนำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสาร Proanthocyanidins สามารถยับยั้งกลไกการเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากและทำลายเซลล์มะเร็งรังไข่ได้ เมื่อร่วมกับยารักษามะเร็งรังไข่จะไปช่วยเสริมฤทธิ์ยาในการลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง การรับประทานแครนเบอร์รี่สามารถช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมได้ Proanthocyanidins ที่พบได้มากในผลแครนเบอร์รี่สามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของยีนมะเร็งและนำไปสู่การตายของเซลล์มะเร็งปอด ผิวเรียบเนียนกระจ่างใส วิตามินซีที่อยู่ในแครนเบอร์รี่ช่วยให้ผิวพรรณของเราดูเรียบเนียน และกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากจะมีวิตามินซีในสารสกัดแครนเบอร์รี่ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่เป็นตัวแอนตีออกซิแดนท์ (Antioxidant) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดความเสียหายในเซลล์ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของริ้วรอยที่ดูแก่ก่อนวัย โดยมีการศึกษาวิจัยพบว่า การได้รับวิตามินอีที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันและซ่อมแซมการสึกหรอของเส้นผม ผิว และเล็บได้ และยังช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของผิวช่วยชะลอความแก่ และยังสร้างความชุ่มชื่นไม่แห้งกร้านให้ผิวอีกด้วย

✅ ทุกคนควรมี : กันแดด / AOX / มอย (เสริมชั้นผิว) ✅ ผิวหมองเป็นฝ้า : + whitening / ผลัดเซลล์ / retinoids ✅ ผิวแก่ มีริ้วรอย : + retinoids / HSA / defensin ✅ ผิวระคายเคือง : + ปลอบประโลม / เสริม microbiome

มีคนถามเข้ามาทาง inbox บ่อยมากๆ ว่าต้องการแก้ฝ้ากระ แบบรวดเร็วทำอย่างไร โดยไม่ต้องไปเลเซอร์ ส่วนใช้สกินแคร์ก็ออกฤทธิ์ช้าเหลือเกิน บางอันก็รู้สึกแล้วใช้ไม่ได้ผล ส่วนตัวแอดมีปัญหาฝ้า จุดด่างดำที่แก้ไม่ได้เหมือนกัน แต่ไม่อยากไปเลเซอร์ เพราะว่าอยากให้อายุเยอะกว่านี้อีกหน่อย เริ่มเร็วไปก็อาจทำให้ผิวในระยะยาวอ่อนแอได้ นอกจากแอดจะมองหาสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวหน้าแอดแล้ว รองพื้นกับคอนซีลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพปกปิดได้สูง ก็เป็นอีกวิธีที่แอดเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน นี้คือรองพื้นกับคอนซีลเลอร์ ที่แอดเลือกใช้ โดยแบ่งเป็นช่วงที่งบน้อย และช่วงที่งบเยอะ ใน 4 ตัวนี้ ตัวที่ recommend สุดๆ คือ Laroche uvidea anthlios BB cream 02 anti-UV & anti-fine particles รองพื้นเนื้อดี ทาแล้วเนียนกริบ สมูทเป็นเนื้อเดียวกัน ที่สำคัญสำหรับผิวผสมอย่างแอด ไม่มันเกินไป ไม่แห้งเกินไป ให้หน้าโกลว์ๆกำลังพอดี และอีกตัวคือ Nar Soft Matte complete concealer ปกปิดดีสุดๆๆ เลย ฝ้าที่เด่นๆ ตรงโหนกแก้ม ทาตัวนี้แล้วกลบด้วยรองพื้นของดิออร์หรือลาโรช ลืมไปเลยว่าเคยมีฝ้า ^^

มีวิตามินตัวไหน แนะนำเกี่ยวกับสิวบ้างเอ่ย

พอดีไปพบ สารตัวนี้เป็นเอสเซ้นส์วางขายอยู่ที่ร้านญี่ปุ่น และมีข้อความว่า เข้มข้นกว่าวิตามินซี 125 เท่าเลยอยากทราบข้อมูลที่ถูกตัองว่าเป็นอย่างไรครับ / ขอบคุณครับ

จากงานวิจัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น ในรายการ honmadekka TV รายการยอดนิยมของญี่ปุ่น ทางช่องFUJI television แนะนำว่าอุณหภูมิที่เหมาะสม คือ อยู่ในช่วง 35-38 องศา การใช้น้ำที่ร้อนเกินไป หรือเย็นเกิน เป็นการทำลายเกราะป้องกันผิว และกระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบ ที่มา รายการ honmadekka TV

สาร Anti-Aging หน้าที่หลักๆ ที่ช่วยกระตุ้นให้การสร้าง Collagen และยังช่วยชะลอการเสี่อมสภาพของ Collagen ไม่ให้เกิดพวกริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า หรือชะลอวัยให้กับผิว 1.Peptides 2.Vitamin A (retinoids) 3.Vitamin C 4.DefenAge