อยากผิวขาวใสแนะนำหน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิว เซรั่มช่วยบำรุงผิวตัวใหม่ของเรา ผลิตที่ใต้หวัน บอกเลยว่า ใช้ดีมากกก ☺️ ช่วงก่อน ผิวหน้าเราโทรมและคล้ำมาก จนเพื่อนต้องร้องทักเลยค่ะ เราเป็นคนผิวแพ้ง่าย หน้ามัน ดูหมองคล้ำ รูขุมขนใหญ่ เพื่อนเลยแนะนำให้ใช้ตัวนี้ เราเลยลองใช้ค่ะ เพราะปกติเราไม่ค่อยใช้เซรั่มหรือครีมอื่นๆ ที่ไม่เคยใช้เพราะ หน้าเราแพ้ง่ายมากกก คุณสมบัติ ✅บำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส ✅มีส่วนผสมของL-Ascorbic Acid ช่วยลดรอยคล้ำได้ ✅มีส่วนผสมของ Vitamin E ✅มีส่วนผสมของ FRSAB ✅ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ✅ทำให้ผิวไบร์ท ไม่มีส่วนผสมของ ❎ปิโตรเลียมออยล์ ❎แอลกอฮอล์ ❎สีสังเคราะห์ วิธีใช้ แค่ทาเซรั่มเพียง2-3หยด หลังทาครีมบำรุงขั้นตอนสุดท้าย ทุกวันเช้า-เย็น หลังจากที่ใช้เซรั่มมา 1 เดือน เรารู้สึกหน้าใสขึ้น หน้าดูฉ่ำๆ หน้าเราปกติทาแป้งไม่ติดหน้า แต่พอได้ใช้เซรั่มตัวนี้แล้ว ตอนนี้ทาแป้งติดหน้ามากขึ้น แบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ ที่สำคัญหน้าเราไม่แพ้ค่ะ เย้ๆ ใครแพ้ง่ายและหน้าหมองคล้ำแนะนำตัวนี้เลยค่ะ ใช้เอง รีวิวเอง ของเขาดีจริงๆค่ะ ถ้าใครสนใจเซรั่มตัวนี้ สามารถ พิมพ์ชื่อ Dr.May ตาม Facebook Shopee Lazada เอยมีหมดค่ะ หาซื้อง่ายมากๆ

ผลไม้ที่ทานได้ในช่วงลดน้ำหนักมีอะไรบ้างคะ

แนำนำโลชั่นทาผิวขาวที่หาซื้อง่ายตามเซเว่นหน่อยค่ะ อยากได้ผลลัพธ์ผิวขาวชุ่มชื่น

Pigmentation Issue ที่ช่วยเรื่องกระ จุดด่างดำ รอยคล้ำ ที่ส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนเมลาโทนิน และ คอร์ติซอลไม่ให้กลายเป็นจุดด่างดำบนผิว ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ แลดูไม่สดใส 1.Hydroquinone 2.Kojic Acid 3.Niacinamide 4.Vitamin C 5.Arbutin 6.Tranexamic Acid 7.Thiamidol 8.Azelaic Acid

ส่วนตัวผมแล้ว เป็นคนที่มีสิวมาตั้งแต่ 7ปีแล้ว มีสิวหนองอักเสบมาก สิวแพ้สาร ตอนนี้สิวหนองก็ยังพอมีขึ้นให้เห็นตลอดไม่หายไป รักษามา5ปีก็ไม่หาย เคยหมดไปเกือบแสนเป็นร้อยกว่าครีม ก็ไม่หาย(เพราะรักษาผิดวิธีมาตลอด) เมื่อก่อนเป็นคนหนึ่งไม่กล้าออกไปไหนเลย จนได้เข้ากรุ๊ปหนึ่งในเฟสคือรักษาสิวมา6เดือนละหายไปเลยแต่ความแข็งแรงของผิวก็ยังไม่มากพอให้สิวยังมีขึ้นบ้าง(ตอนนี้ก็เป็นพวกหนอง บางอันก็อักเสบแบบไม่เคยหายสนิท) ตอนนี้รักษาคู่กับริ้วรอย รูขุขนกว้างผิวดูคล้ำแก่ ซึ่งเรามีทริคที่จะแนะนำคือให้ตั้งคำถาม 5 ข้อดังนี้ในการทำความรู้จักผิวตัวเอง และเลือกใช้ให้ถูกต้อง 1 ตอนนี้เรามีอายุ 23 ขวบแล้ว 2 สภาพผิวมันมาก 3 กังวลเรื่องรูขุมขนกว๊างกว้าง (เคยแพ้สารเป็นสิวมาก่อนละทิ้งหลุม 3-4 หลุม (แอบมีริ้วรอยเล็กน้อย) ตอนนี้บางครั้งสิวหนองก็แอบขึ้น) และหน้าแอบหมองในบางวัน 4 งบประมาณณ infinity 5 skincare ที่มีตอนนี้ (ใช้สลับปรับเปลี่ยนแทน) 1 คลีนเซอร์/คลีนซิ่ง 1.1 Cetaphil สูตรใหม่ (ใช้เป็นหลัก) 1.2 Honeymoon cleansing make up remover 2 โทนเนอร์ 2.1 Celimax 2.2 Paula’s Choice BHA 2% 2.3 Laor (ตัวใหม่ขออุ๊บ เพราะยังไม่เปิดตัว) 3 เซรั่ม 3.1 Herbitage Vitamin C 3.2 Hya The ordinary 4 ผลัดเซลล์ผิว\ยา 4.1 8% AHA gel Exfoliate Paul’s Choice 4.2 Post-peel 1% Retinol concentrate (ใช้เป็นหลัก) 4.3 RC1 จากร.พ.สมิติเวช 5 เพิ่มเติ่ม 5.1 เจลแต้มสิว Clindamycin 5.2 ลิปมัน 5.2.1 Mentolathum 6 sunscreen 6.1 Laroche posay Shaka 6.2 Qalon (ตัวใหม่ขออุ๊ยไว้ก่อน) 7 ครีมขนาดทดลอง (ไม่รู้จะได้ใช้ไหมมีเยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้เราซื้อโปรที่ทุกคนเคยซื้อของแบรนด์นี้) 7.1 T’else Kombucha Teatox cream 8 มอยส์ 8.1 Happy to the skin 8.2 Mesoestetic ตัวสลิปปิ้งมาสก์ 9.อาหารเสริม 9.1 สารสกัดจากมะกอกของแบรนด์ ๆ หนึ่งที่โรงบาลสมิติเวชกำลังทำวิจัยในคน ปล.มีแค่นี้น่าจะไม่มีแล้วครับ ดูเหมือนเยอะแต่จริง ๆ น้อยมาก คือใช้แค่ คลีนเซอร์(เดี๋ยวนี้ไม่ดับเบิลแล้ว) , เซรั่ม (ที่ตรงปัญหาผิว) ,มอยส์ ,และกันแดดแค่นี้และ

เราสามารถเปลี่ยนไปเรื่อยๆได้ไหมคะ ส่วนใหญ่ใช้เป็นครีมซอง มีหลายแบรนด์มากค่ะ

ทริคนี้เราได้จากน้องธัน พรหมพิริยะแห่งห้องเรียนชาว Skindex มาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ปรับใช้กัน 📍 1.ล้างหน้าให้สะอาดทำการ double cleansing 2.ทาครีมกันแดดให้ดีในปริมาณที่เหมาะสมและเติมระหว่างวัน (เลือกตัวที่spfไม่แกงแบรนด์ที่น่าเชื่อถือได้) 3.ทาสกินแคร์ที่ช่วยเรื่องต่อต้านอนุมูลอิสระ antioxidant 4.ดูแลความชุ่มชื้นสมดุลน้ำและน้ำมันบนผิวให้บาลานซ์ ใช้ม้อยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว (ส่วนตัวใช้Amt emulsion ดูแลเรื่องสมดุลของผิวและใช้ม้อยเจอร์ในเครือ neopharm ที่มีงานวิจัยว่าช่วยเรื่องความแข็งแรงของผิว) สกินแคร์ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวแนะนำแบรนด์ Physiogel Zeroid Dermartology dr.different curel Cerave Eucerin Kamedis Curecode 5.มีการผลัดเซลล์ผิวที่พอดีไม่มากไปและไม่น้อยเกินไป เป็นสิวผิวมัน=BHA,LHA ผิวอ่อนแอ=PHA ผิวไม่มีปัญหาอะไรแต่อยากได้ความใส=AHA 6.ใช้สกินแคร์ที่ช่วยเรื่องลดการอักเสบ anti inflammatory ควรมีอยู่ไว้ในรูทีนเสมอบางทีเราอาจจะไม่ได้เห็นว่าผิวตัวเองแดงหรือระคายเคือง แต่ในแต่ละวันที่เราออกข้างนอกย่อมทำให้ผิวถูกทำร้ายอยู่แล้วจากแสงแดด ฝุ่น และมลภาวะอยู่แล้ว อาจจะทำให้มีการอักเสบใต้ผิวที่มองไม่เห็นได้ ถ้าดูแลทำได้เบสิคตามนี้ผิวดีขึ้นแน่นอน!

ใครเป็นเหมือนกันบ้าง? ไม่ชอบพกเครื่องสำอางหลายชิ้น เยอะสิ่งไปหมด ทั้งรกกระเป๋า ทั้งไม่ประหยัดเวลา อยากจะขอพกแท่งเดียวจบ ครบ ทั้งแก้ม ปาก ตา มันมีจริงไหมนะ ⁉️ มาทางนี้จ้า Olio E Osso (โอลี โอ อี ออสโซ) Color Blam เป็นบาร์มอเนกประสงค์ใช้ได้กับ ตา ปาก แก้ม ในแท่งเดียว (โอ้โห อโฮนิวเวิร์ลมากกก) เด็ดไม่เด็ด tก็ตัวนี้หล่ะจ้ะที่โด่งดังในหมู่ดาราเซเOลบริตี้ฮอลลีวู้ดอย่างมาก เรียกได้ว่าใครยังไม่มี ไม่รีบไปหาตำระวังจะเอ้าท์เด้ออออ สาววว . ไม่ต้องกลัวซ้ำไม่จำเจแน่ เพราะเขามีให้เลือกมากถึง 8 สี แต่วันนี้ขอมาแง้มให้ดู 5 สีเด็ดๆก่อนแล้วกัน แต่ละสีขอบอกตรงนี้ว่าเลิศ ควรค่าแก่การมีไว้มาก ไม่เชื่อ ก็ต้องลองเท่านั้นจ้ะ - No.2 French Melon (สีอมชมพูๆ แบบสดใส) - No.3 Crimson (ชมพูตุ่น สุดปัง) - No.4 Berry (สีออม่วงเบอร์รี่ ผิวสุขภาพดี) - No.8 Persimmon (สีออกส้ม) - No.14 Dusty Rose (สีออกนู้ดตุ่นๆ ) ยุคนี้สมัยนี้ ก็ต้องยกให้ตัวนี้นางไม่ยอมใครเหมือนกันทำมาดีเวอร์ 100% Natural เลยค่ะ สารสกัดมีทั้ง 1. Olive Oil คืนความชุ่มชื้น 2. Shea Nut บำรุง ให้ความชุ่มชื้นอยู่นาน 3. Natural Beeswax ป้องกัน การสูญเสียความชุ่มชื้น . เห็นแค่นี้หัวใจจะวาย อิฉันจับเงินในกระเป๋าที่สั่นแทบไม่ไหว รีบไปจับจองก่อนใครเพราะ Olio E Osso เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อ 15 ธค. ที่ผ่านมา (หึ่ยย ลองไปจับสิยังอุ่นๆอยู่เลย) #OlioeOssoThailand #OlioeOsso #ลิปโอลีโอ #ใหม่แกะกล่อง