เพื่อนๆ ทานโปรตีนแบบชงกันอยู่มั้ยคะ มีตัวไหนแนะนำบ้างเอ่ย

อดีตเคยเป็นสิวหนัก ส่วนหนึ่งเพราะชอบแกะเกา ตอนหลังใช้สกินแคร์ดูแลผิว รอยสิว-รอยแดงจางลงดีมากๆ แต่สังเกตว่ารอยสิวเก่าที่ค่อนข้างลึกแทบไม่หาย จางลงไปนิดเดียว เลยอยากรู้ว่ามีหัตถการอะไรแนะนำบ้างไหมครับ หรือมีสกินแคร์ตัวดีแนะนำด้วยก็ได้นะครับ ขอบคุณครับ

พี่คะ ๆ คือมีลิปมันหรืออะไรที่บำรุงปากให้ชุ่มชื่นที่ไม่อุดตันบริเวณของปากมั้ยคะ ปกติใช้ปิโตรเลียมเจลปกติ รู้สึกว่าสิวอุดตันขึ้นขอบปาก แต่พอเลิกใช้มันก็ไม่ผุด

1.รวม Key Ingredients ที่เป็นสาร Pigmentation Issue เรื่องกระ จุดด่างดำ รอยคล้ำต่างๆ ในสกินแคร์ 📌Pigmentation Issue ที่ช่วยเรื่องกระ จุดด่างดำ รอยคล้ำ ที่ส่งผลต่อสมดุลฮอร์โมนเมลาโทนิน และ คอร์ติซอลไม่ให้กลายเป็นจุดด่างดำบนผิว ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ แลดูไม่สดใส 1.Hydroquinone (จ่ายโดยแพทย์เท่านั้น) 2.Kojic Acid 3.Niacinamide 4.Vitamin C 5.Arbutin 6.Tranexamic Acid 7.Thiamidol 8.Azelaic Acid 2.รวม Key Ingredients ที่เป็นสาร Antioxidants ในสกินแคร์ 📌สาร Antioxidants ที่ช่วยชะลอวัย การเกิดริ้วรอย ป้องกัน Collagen และ Elastin ไม่ให้ถูกทำร้ายจากมลภาวะและแสงแดด 1 Alpha-lipoic Acid 2 Vitamin E 3 Vitamin C 4 Resveratrol 5 Green Tea extract 6 Curcumin 7 Turmeric 8 CoQ10 3.รวมสาร Anti-Aging ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย มีริ้วรอย ทำให้หน้าดูเด็กลง 📌สาร Anti-Aging หน้าที่หลักๆ ที่ช่วยกระตุ้นให้การสร้าง Collagen และยังช่วยชะลอการเสี่อมสภาพของ Collagen ไม่ให้เกิดพวกริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า หรือชะลอวัยให้กับผิว 1.Peptides 2.Vitamin A (retinoids) 3.Vitamin C 4.DefenAge 5.Growth factor 4.รวมสาร Hydration ที่เติมน้ำให้ผิว ให้ผิวดูอิ่มฟู 📌สาร Hydration ที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องความชุ่มชื้นให้กับทุกสภาพผิว พร้อมช่วยปรับสมดุลของผิวช่วยเสริมความชุ่มชื้น ใช้แล้วเน้นเรื่องความกระจ่างใส & สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว 1.Aloe Vera Extract 2.Glycerin 2.Hyaluronic Acid 3.Urea 4.Squalane 5.สาร Anti-Inflammatories ช่วยปลอบประโลมผิวลดการอักเสบของผิว 📌ส่วนผสมในสกินแคร์ช่วยต่อต้านการอักเสบ สยบรอยแดงและอาการระคายเคือง ปกป้องไม่ให้ผิวพัง 1.Centella asiatica extract (หรือ Cica) 2.Aloe vera 3.Chamomile 4.Azelaic Acid 5.Green Tea extract 6.Feverfew 7.Licorice extract 8.CoQ10 ( Coenzyme Q10 หรือ Ubiquinol ) 9.Niacinamide 10.Oats 11.Zinc 12.Pycnogenol 13.Allantoin 14.Palmitamide MEA 15.Panthenol 16.Betaine 6.ส่วนผสมที่ช่วยคุมสิว Anti-Acne ลดการสร้างน้ำมัน ฆ่าเชื้อสิว และช่วยผลัดเซลล์ผิวให้เนียนใส กระชับรูขุมขน ให้ผิวดู glow และสงบ 1.Niacinamide 2.Salicylic Acid (BHA) , (LHA) 3.Vitamin A (Retinoid) , Retinol / retinal / retinyl ester / Bakuchiol (กรดอนุพันฑ์วิตามินเอ) 4.Retinsphere 5.AHA,PHA 6.Benzoyl Peroxide 7.Sulfur 8.Selenium sulfide 9.Tea tree oil 10.Zinc 🌤และที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็น Key Ingredients เป็น Active ที่ไว้หวังผลเรื่องนั้น ๆ โดยเฉพาะ และยังมีอีกหลายตัวที่ยังไม่ได้กล่าวไว้ ควรเลือกใช้ให้ถูกใน % ที่หวังผลได้ ทุกตัวสามารถใช้พร้อมกันได้ ก่อนใช้ควรเช็คให้ดีว่าส่วนผสมซ้ำซ้อนรึเปล่า ถึงกระนั้นประสิทธิภาพความแข็งแรงของผิวก็สำคัญเช่นกันบางคนใช้พร้อมกันไม่ได้คือใช้แล้วหน้าลอก แห้งแดงด้วยเหตุนี้ก็ควรแก้ปัญหาผิวในส่วนตรงนั้นให้หายไปก่อนทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะใช้ Treatment ที่กล่าวไปข้างต้นนั้นต้องอย่าลืม Basic รูทีนหลักดังนี้ 1. คลีนเซอร์ ล้างหน้าให้ถูกวิธีโดยผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน เช้าเย็นก็เพียงพอ (ถ้าหน้ามันระหว่างวันให้ซับเบา ๆ) 2.มอยเจอร์ไรเซอร์ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว เป็นตัวที่ขาดไม่ได้เพราะเป็นสิ่งที่ผิวเราต้องการความชุ่มชื่นตลอดเวลา 3.กันแดด ขาดไม่ได้เลย ถ้ารักษาสิวอยู่ ไม่ทากันแดด จะทำให้หน้าบาง ไหม้ ลอก เกิดริ้วรอยได้ ต้องทา2ข้อนิ้ว เป็นประจำทุกวันแม้แต่อยู่ในบ้านก็ตาม (เจอแดดแรงให้ทาทุก ๆ 2 ชั่วโมง) สกินแคร์ที่ดีคือการลดสเต็ปลง (Less is more) ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะใช้ตัวไหนเราควรเข้าใจสภาพผิวของเราก่อน และเข้าใจปัญหาผิวของตนเอง อีกทั้งควรเข้าใจไลฟ์สไตล์ของตนเอง จากนั้นเข้าใจงบประมาณของตนเอง แล้วสุดท้ายค่อยเลือกซื้อสกินแคร์มาใช้ หน้าเด้งอยู่ในมือเรา หลักสำคัญคือต้องทำข้างในให้งามก่อน ข้างในดีเมื่อไหร่ ข้างนอกก็ดีเมื่อนั้น แถมยังปลอดภัย ไม่ต้องกังวลกับผลข้างเคียงที่จะตามมาทีหลังอีกด้วย 🙏 #อ่านส่วนผสมสกินแคร์ #ลดฝ้า #ลดกระ #กันแดด #skincare #beauty #makeup #cosmetics #skin #beautiful #skincareroutine #instabeauty #picoftheday #beautyroutine #beautycare #beautyblogger #spa #naturalbeauty #relax #สกินแคร์ #บทความแนะนำ #ครีมบำรุงผิว #เซรั่ม #HowtoPerfect #ไว้รีวิวห้ามขายของโว้ยยย #ใช้ดีบอกต่อ #รีวิวสกินแคร์ #รีวิวเซเว่น #ส่งต่อสกินแคร์ #howtobeauty

รีวิวเซรั่มลดผมบาง และรีวิวแชมพูลดผมร่วง ในรูทีนแก้ผมบางของผักบุ้ง ปลายปีก่อนผักบุ้งมีโอกาสตรวจสุขภาพผมกับผู้เชี่ยวชาญค่ะ ปรากฎว่าเรามีปัญหา #ผมบาง บางจุดคือผมหลุดเห็นเป็นวงกว้างจนตกใจ ฮือออ ปกติเป็นคน #ผมเส้นเล็ก อยู่แล้ว ทำให้ดูผมน้อยไม่ค่อยหนา #ผมร่วงง่าย ไม่มีวอลลุ่ม นี่ก็หาวิธีแก้มาเรื่อยๆ ลองมาหมด แชมพูสูตรผมบาง แชมพูแห้ง โทนิคปลูกผมบลาๆ จนมาลงตัวที่เซ็ทนี้ที่ตอบโจทย์เราที่สุด แล้วมันเวิร์คยังไง? จะแชร์ให้ดูค่ะ . รูทีนแก้ผมบางสไตล์ผักบุ้ง 3 ไอเทมที่ผักใช้จัดการ 1. แชมพู Curel Intensive Moisture Care Shampoo (420ml / ฿500) 2. คอนดิชันเนอร์ Curel Intensive Moisture Care Conditioner (420ml / ฿500) 3. เซรั่มลดผมบาง J Hair Premium Concentrate Serum (30ml / ฿2,880) . อัพเดทผลลัพธ์หลังใช้มา 15 วันหลังจากเริ่มใช้รูทีนนี้อย่างจริงจัง ขอรีวิวรวมๆเลยนะคะทั้งเซรั่มและแชมพู รู้สึกได้ว่าสุขภาพหนังศีรษะสะอาดขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือตรงลูกผมที่ขอบหน้าผากมันขึ้นมาจนต้องไปหารูปเก่ามาเช็คเทียบกัน นี่เซอร์ไพรซ์นะ ส่วนผมบางๆที่กระหม่อมกลางหัวยังเห็นผลไม่ชัด แต่เราใช้ต่อได้ไม่รีบค่ะ ของแบบนี้ต้องใช้เวลา อีก 45 วันจะมาอัพเดตเพิ่มเติมนะคะ โดยรวมผักบุ้งรู้สึกแฮปปี้กับไอเท็มเซ็ทนี้มาก โดยเฉพาะเซรั่มเจแอร์ รู้สึกผมแข็งแรงขึ้น เห็นผลดีแต่อ่อนโยน ตอนแรกที่เริ่มใช้ เพราะเพื่อนที่รู้จักให้มาลอง แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ เริ่มติดใจเอง ไม่เหมือนเซรั่มอื่นๆ ที่เคยใช้กลิ่นไม่แรง และเห็นผลชัดเจน ไม่หลอกกัน #รีวิวเซรั่มลดผมบาง #รีวิวแชมพูลดผมร่วง

สาร Hydration ที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องความชุ่มชื้นให้กับทุกสภาพผิว พร้อมช่วยปรับสมดุลของผิวช่วยเสริมความชุ่มชื้น ใช้แล้วเน้นเรื่องความกระจ่างใส & สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว 1.Aloe Vera Extract 2.Glycerin 2.Hyaluronic Acid 3.Urea 4.Squalane

เวลาเราอ่านส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด หากทางผู้ผลิตเค้าไม่ได้ระบุว่าเป็นประเภทไหน ไฮบริดหรือไม่ เราจะสามารถสังเกตได้จากอะไร หรือต้องเน้นที่สารประกอบตัวไหนได้บ้างคะ เพื่อบ่งชี้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นกันแดดแบบ Chemical Sunscreen หรือ Physical Sunscreen ??

เราเป็นคนผิวบาง ไวต่อแดด แพ้แดด เป็นภูมิแพ้ทำให้ใต้ตาดำ อันนี้เข้าใจว่าแก้ไม่หาย สภาพผิวแห้งขาดน้ำ เริ่มมีริ้วรอยก่อนวัยอันควร รูขุมขนเริ่มไม่กระชับ อยากให้ช่วยป้ายยาสกินแคร์ถูกและดีให้ทีค่ะ

มารู้จักไฮโดรควิโนน กันต่อค่ะ สารตัวนี้ไม่ใช่สารใหม่ เป็นสารที่มีมานานแล้ว สารที่ช่วยเรื่องฝ้ากระ จุดด่างดำ ผิวกระจ่างใส แล้วเห็นผลตัวหลักๆที่มักนำมาเล่นในสกินแคร์ก็มีไม่เท่าไร ซึ่งได้แก่ เรตินอยด์/ วิตามินซี /สารผลัดเซลล์ผิว AHA/BHA / albutin / tranexamic acid แอดผ่านมาหมดทุกตัวแล้วค่ะ 555+ แต่ที่นี้ ตัวที่เห็นผลเวิร์คสุดๆ ตัวนึง คงหนีไม่พ้นไฮโดรควิโนน (hydroquinone) โชคร้ายที่สารตัวนี้ ไม่ได้เอามาใส่ง่ายๆในสกินแคร์ . กลไกการออกฤทธิ์ของมัน> มันยับยั้ง L-DOPA ไม่ให้เปลี่ยนเป็นเมลาโทนิน (กล่าวง่ายๆ คือการออกฤทธฺิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี) . ไฮโครควิโนน มีข้อบ่งใช้เรื่องอะไร > ฝ้าแดด ฝ้าฮอร์โมน ฝ้าตามอายุ ผิวคล้ำหลังการออกแดด เป็นต้น . ปริมาณที่อนุญาตให้ใช้ > 2-4% ต้องมีใบสั่งแพทย์ ถ้า 2% บางที่ก็ซื้อเองได้เลยค่ะ แล้วแต่ประเทศ . วิธีการใช้ > สำหรับพวกผลิตภัณฑ์แบบทา แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องวันละ 1-2 ต่อเนื่อง 3-6 เดือน ถ้า 3 เดือน ไม่ดีขึ้นแนะนำให้หยุด และที่สำคัญต้องใช้คู่กับกันแดด . การแนะนำการใช้> มีหลายการศึกษาแนะนำว่าสามารถใช้ร่วมกับเรตินอยด์หรือสเตียรอยด์ได้ ก็จะได้ผลดีขึ้น และต้องใช้ไฮโดรควิโนนถึง 35-45% สำหรับพวกผลิตภัณฑ์แบบทา ถึงดูดซึมเข้ากระแสเลือด . ดูดซึมเข้ากระแสเลือดแล้วยังไง? อธิบายง่ายๆ พอสารดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดมันก็จะถูกนำไปใช้ภายในร่างกาย ก็จะเห็นผลที่รวดเร็วกว่า ดังนั้นจะเห็นว่า อะไรที่ฉีดเข้าเส้นเลือดมักเห็นผลรวดเร็วกว่าการกินและการกินก็เห็นผลรวดเร็วกว่าการทา . ดังนั้นพวกผลิตภัณฑ์แบบทา (สกินแคร์ด้วย) มักใช้เพื่อหวังผลการออกฤทธิ์เฉพาะที่ เช่นทาที่ผิวหนัง ก็หวังผลเฉาพะที่ผิวให้ความชุ่มชื้น แต่สารที่ใส่ในผลิตภัณฑ์แบบทา นี้จะหวังผลได้ขนาดไหน ยังขึ้นอยู่กับสารอื่นๆในสูตรที่ใช้ในการพาสารเหล่านั้นแทรกซึมผ่านผิวไปออกฤทธิ์ด้วยค่ะ จึงไม่แปลกว่า ถ้าอยากให้เห็นผลดีๆ ต้องใส่สารในปริมาณสูง เพื่อหวังว่าเมื่อมันทะลุผ่านผิวแล้วยังเหลือสารเหล่านั้นอยู่บ้าง หรือดูดซึมเข้ากระแสเลือด (อันนี้จะไม่เห็นในสกินแคร์ สกินแคร์ใส่ไม่ได้แบบนั้น โดน อย. เล่นแน่นวล) หรือหลายที่ก็ใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย เพื่อดันสารผ่านเข้าผิวไปออกฤทธิ์ . ผู้หญิงตั้งครรภ์ทาได้ไหม? categoryC แอดมองว่าไม่เป็นไร เพราะไม่ได้ความเข้มข้นสูงจนซึมผ่านเข้ากระแสเลือดค่ะ . ดังนั้นเวลาจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไร แอดแนะนำว่าให้ดูข้อมูล แล้วเลือกให้เหมาะกับตัวเอง . Ref: เพื่อใครอยากอ่านเพิ่มเติมค่า https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK539693/ https://ccpe.pharmacycouncil.org/showfile.php?file=390