8 พฤติกรรมทำร้ายสมอง!! เลิกได้เลิก

โดย Admin_ChoiceChecker03 23/02/2024

 

เพราะ “สมอง” เป็นอีกหนึ่งอวัยวะในร่างกายที่เปรียบได้ดั่งทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะสมองทำหน้าที่ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ความจำ การสั่งการต่าง ๆ หากสมองได้รับการกระทบกระเทือนหรือขาดการบำรุงที่ดี ก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น โรคความจำเสื่อม แขนขาชา การคิดวิเคราะห์ช้า จึงไม่ควรมองข้ามการดูแลสุขภาพของสมองเป็นอันขาดเลยล่ะ

 

เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจเลย

 


 

สายใช้ชีวิตสุดโต่ง ไม่มีลิมิต ชีวิตเกินร้อย!! ห้ามพลาดบทความนี้ของ ChoiceChecker  เพราะเราจะพาทุกคนมาเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อสุขภาพสมองที่แข็งแรงกัน ด้วยสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพสมองนิดๆ หน่อยๆ ก็ช่วยได้เยอะ

 

8 พฤติกรรมทำร้ายสมอง และวิธีดูแลสุขภาพสมองง่ายๆ แค่ปรับพฤติกรรม

1.   การพักผ่อนไม่เพียงพอ

การนอนหลับก็คือ การปล่อยให้ร่างกายได้พักฟื้น ซ่อมแซมตัวเอง ดุจการชาร์จแบตพลังชีวิต ซึ่งในช่วงที่หลับสนิทหรือที่หลายคนเรียกว่าการหลับลึกนั้น ร่างกายจะผลิตโกรทฮอร์โมนออกมา เพื่อช่วยซ่อมแซมและบำรุงผิวพรรณ สมอง รวมทั้งการทำงานของอวัยวะทุกส่วนในร่างกายเลย

หากนอนหลับไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะไม่ได้ซ่อมแซมตัวเองเต็มที่ ส่งผลเสียต่อสมอง และยังทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมไปด้วย

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

เพื่อให้เริ่มเช้าวันใหม่อย่างสดชื่น สมองปลอดโปร่ง และร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดี ChoiceChecker ขอบอกเลยว่าทุกคนควรปรับเวลาการนอน ให้นอนได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จะสัมผัสได้เลยว่าสมองเราได้รีเฟรช ความจำเริ่มดีขึ้น แถมไม่อ่อนเพลียระหว่างวันอีกด้วย

 

2.   การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ (จริงรวมหมดเลยนะ ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า เวป หรืออะไรก็ตามที่เราสูบเข้าไป) เป็นพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพตนเองไม่พอ ยังทำร้ายสุขภาพของคนรอบข้างอีกด้วย เนื่องจากสารนิโคตินที่อยู่ในบุหรี่ จะเข้าไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย หลอดเลือดต่าง ๆ รวมทั้งหลอดเลือดสมองอีกด้วย ทำให้นำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ สมองขาดการบำรุง ไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจึงเกิดผลเสียในอนาคตได้

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

หากต้องการดูแลสุขภาพสมอง ควรงดการสูบบุหรี่และเลี่ยงการรับกลิ่นบุหรี่จากคนรอบตัวจะดีกับสุขภาพสมองที่ดีที่สุด ใครที่รู้ตัวว่าเป็นสายสูบแบบเสพติด ChoiceChecker ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ค่อยๆ ลดความถี่ ลดจำนวนการสูบลง จนค่อยๆ เลิกไปได้เลยจะดีมากๆ สู้ๆ เพื่อสุขภาพของเราและคนรอบตัวกันนะค้าา

 

3.   อยู่คนเดียวมากเกินไป

ใครเสพติดความเหงาต้องเบรคตัวเองลงนิดนึง เพราะการอยู่คนเดียวมากไป สมองจะจดจำและสั่งการให้เราเริ่มออกห่างจากสังคมภายนอกโดยไม่รู้ตัว ทำให้ความสัมพันธ์ในสังคมลดลง อีกทั้งการคิดทบทวนเรื่องราวเงียบ ๆ คนเดียวมากไป ไม่มีที่ระบาย ไม่มีเพื่อนคุย ทำให้เกิดความเครียดสะสม และมีผลเสียต่อสมองมาก ๆ แถมยังทำให้ฟุ้งซ่านอีกด้วยน้าาา

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

ลองออกไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง หากิจกรรมทำร่วมกับคนรอบตัว รวมทั้งควรพาตัวเองออกไปเจอสังคมภายนอกที่แปลกใหม่บ้าง จะถือเป็นอีกวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ได้ผ่อนคลายและยังดีกับสุขภาพสมองอีกด้วย ส่วนใครที่อินโทรเวิร์ตจ๋าๆ ไม่ชอบสุงสิงกับคนเยอะ แนะนำว่าลองหาเพื่อนสนิท คนในครอบครัว หรือคนที่เรารักแค่สักหนึ่งคน มาทำกิจกรรม ไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง ไปดื่มกาแฟพูดคุยกันบ้าง ก็ช่วยให้สมองเราผ่อนคลายลงจากความเครียดได้ด้วยนะ

 

4.   ขยับตัวน้อย

สายออฟฟิศนั่งแช่นานๆ ได้ยินคำนี้ถึงกับสะดุ้ง รีบดีดตัวลุกจากเก้าอี้ทันที ไม่น่าเชื่อเลยว่าการขยับร่างกายน้อยเกินไป จะเป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพมากกว่าที่คิด เพราะหลายคนต่างมีความเชื่อว่าการพักผ่อนที่ดี คือ การนอนนิ่ง ๆ ให้ร่างกายได้พัก ขยับร่างกายให้น้อยที่สุด เพื่อเป็นการเซฟพลังงานอีกด้วย

แต่หารู้ไม่ว่า…การขยับร่างกายผลมีต่อสมอง เพราะสมองเป็นอวัยวะสั่งการการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อไม่มีการสั่งการใด ๆ เลย ทำให้สมองไม่ถูกใช้งาน มีโอกาสเกิดโรคสมองฝ่อ ความจำเสื่อมได้ในอนาคตได้

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

การเปลี่ยนอริยาบถบ่อย ๆ และการออกกำลังกาย นอกจากจะเป็นการบริหารร่างกายแล้ว ยังเป็นการบริหารสมองอีกด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วันนั่นเอง อีกเคล็ดลับที่ทำแล้วเวิร์คมากคือลงทุนกับ Smartwatch ใส่นาฬิกาให้นางช่วยเตือนให้เราขยับตัวทุกชั่วโมง นอกจากช่วยให้สมองทำงานแล้วยังช่วยลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้อีก คุ้มสุดๆ

 

5.   กินเยอะเกินไป

การกินอาหารมากเกินไปเป็นอีกนิสัยหนึ่งที่สามารถทำร้ายสมองของคุณได้แบบไม่รู้ตัว แม้ว่าคุณจะทานอาหารเพื่อสุขภาพก็ตาม อีกทั้งการกินมากเกินไปยังทำให้สูญเสียความจำ และการรับรู้ชาติในผู้สูงอายุได้อีกด้วย ใครนัดไปร้านบุฟเฟ่ต์กันบ่อยๆ ต้องมีเบรคกันบ้างแล้วแหละ

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

ควรทานอาหารให้พออิ่ม ไม่ทานจนแน่นท้องเกินไป ไม่ทานอาหารรสชาติจัดจ้านเกินไป โดยยึดหลักการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย สำหรับอาหารที่ควรเน้นเพราะมีส่วนช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทได้นั้น จะประกอบไปด้วย

  • คาร์โบไฮเดรต ที่ได้จากข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต และธัญพืชต่าง ๆ เป็นแหล่งของวิตามินบีรวม ช่วยบำรุงสมอง
  • โปรตีน ที่ได้มาจากเนื้อสัตว์ นม และไข่ ซึ่งมีวิตามินบี 5, 6 และ 12 ช่วยในการผลิตสารเคมีในสมอง
  • วิตามิน ที่ได้มาจากผักใบเขียวต่าง ๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง และป้องกันไม่ให้สมองถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
  • แร่ธาตุ ที่ได้มาจากผักและผลไม้ ประกอบด้วยแมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม และอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท
  • ไขมันดี จากอะโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว เป็นต้น จะอุดมด้วยโอเมก้า 3, 6 และ 9 มีส่วนช่วยในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทได้

 

6. กินอาหารขยะมากเกินไป

ชีวิตที่เร่งรีบเร่งด่วน แต่พยายามอย่างเร่งด่วนกับอาหารที่เรากินมากเกินไปนะ เพราะการกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสมองมากเกินไป ได้รับโปรตีนหรือสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อสมองอย่างไม่เพียงต่อความต้องการของร่างกาย  ส่งผลให้ขาดการบำรุงและการซ่อมแซมเซลล์สมองได้

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

ดังนั้นไม่ว่าจะทานอาหารแบบไหน ขอแค่ยึดหลักการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงการทานอาหารขยะ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้คุณมีสมองที่ปลอดโปร่งและสุขภาพดียิ่งขึ้นได้ หรือใครสายแอดวานซ์ เรามีลิสต์ 3 อันดับอาหารขยะทำลายสมองที่ควรหลีกเลี่ยงนั้น มีดังนี้

  • อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตขัดสี ซึ่งเป็นอาหารที่หลายคนทานบ่อย แต่ไม่รู้ว่าทำลายสมองได้ เช่น ขนมปังขาว ข้าวขัดสีหรือข้าวขาว น้ำตาลทรายสีขาว ฯลฯ การทานอาหารจำพวกนี้ จะมีน้ำตาลสูง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ โดยเฉพาะสมองนั่นเอง
  • ปลาหรืออาหารทะเลที่มีสารปรอทสูง ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าการทานปลา เป็นหนึ่งในการเพิ่มโปรตีนให้ร่างกาย โดยที่มีไขมันต่ำมาก แต่ปลาบางชนิดก็มีสารปรอทสูงมาก เช่น ปลาทูน่า ปลาอินทรีย์ และปลาฉลาม ฯลฯ การทานปลาเหล่านี้เป็นประจำทุกวัน ทำให้สารปรอทสะสมในร่างกายเยอะ จะทำลายสมองและสุขภาพได้ จึงไม่ควรทานปลาเหล่านี้บ่อย ๆ นะสาว
  • อาหารสำเร็จรูป ซึ่งที่ ChoiceChecker เห็นทานกันบ่อยมาก ๆ ในตอนนี้ คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะการกินบะหมี่กึ่งฯ จะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมเยอะมาก มีผลเสียต่อไตและสมองในระยะยาวแน่นอนน แงงงง

 

7.   เครียดมากเกินไป

ความเครียด สุขภาพจิตย่ำแย่ สมองก็ทำงานหนัก สมองล้า ทำเอาหลาย ๆ คนต้องเผชิญกับสภาวะสมองตื้อ คิดอะไรไม่ออกกันเลยทีเดียว

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

ลองหากิจกรรมคลายเครียดทำบ่อย ๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยลดความเครียดได้ หากมีจิตใจที่แจ่มใส ระบบภายในต่าง ๆ ของร่างกาย ก็จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพขึ้น สมองก็จะปลอดโปร่ง ความคิด ความจำก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยน้าา หรือใครที่จัดการความเครียดตัวเองไม่ไหว การไปพบจิตแพทย์ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีเลย การป่วยทางใจก็ไม่ต่างกับการป่วยกาย ถ้าไม่ไหวจริงๆ การไปพบผู้เชี่ยวชาญขอคำแนะนำก็เป้นตัวช่วยที่ดีเลยนะคะ

 

8.   ไม่ใส่ใจปัญหาสุขภาพ

ไม่ตรวจ ไม่รู้ = ไม่เป็นไร ใครที่คิดแบบนี้ต้องพ้ากกก!! เพราะเมื่อปัญหาสุขภาพเกิดขึ้นมาแล้ว จากการไม่ใส่ใจสุขภาพในอดีต ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน หรือกลายเป็นโรคประจำตัวระยะยาว เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีในปัจจุบัน ใส่ใจปัญหาเล็กๆ น้อยๆ จะได้รีบแก้ไขให้สุขภาพเรายังปกติ เพราะถ้ารอให้อาการหนักหน่วงเกินไปอาจจะสายเกินแก้ได้น้าา

วิธีปรับพฤติกรรมดูแลสมอง:

ควรหันมาใส่ใจบำรุงร่างกายด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกาย ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการอยู่เสมอ ทานยาและปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้น และยังช่วยให้สุขภาพสมองและสุขภาพกายแข็งแรงยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

8 พฤติกรรมทำร้ายสมอง!! เลิกได้เลิก

 

จบกันไปแล้วกับ 8 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำร้ายสมอง เลิกได้ก็ควรเลิก และวิธีดูแลสุขภาพที่ ChoiceChecker นำมาฝากทุกคนในวันนี้ ชอยซ์ขอบอกเลยว่า ทุกคนควรเริ่มใส่ใจสุขภาพของตนเอง ยิ่งเริ่มได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะถือว่าเรายังมีต้นทุนสุขภาพที่ดีอยู่ เพียงปรับพฤติกรรมดูแลสุขภาพ เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายเท่านั้น ซึ่งทำได้ไม่ยากเลย แต่หากใครที่มีโรคประจำตัวแล้ว การหันมาดูแลสุขภาพตอนนี้ก็ยังไม่สาย สามารถช่วยให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้น แถมยังช่วยป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เพิ่มในอนาคตได้ด้วยนะค้าาา

👩‍⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩‍⚕️


 

Reference

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


กดเลื่อนนาฬิกาปลุกบ่อยๆตัวดีเลยค่ะ
06/05/2024 22:23
มีประโยชน์ทุกข้อเลยนะคะ
23/03/2024 06:30
ขอบคุณข้อมูลมีประโยชน์มากเลยคะ
14/03/2024 16:21
ดีมีประโยชน์ต้องปฏิบัติให้ได้
13/03/2024 20:15
ทำเกือบทุกอย่างเลย ต้องเลิกแล้วค่ะ
02/03/2024 01:59
ข้อมูลคุณภาพ สุดดๆค่ะ
27/02/2024 18:09
ข้อมูลดี มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ
27/02/2024 15:30
ตามๆเลยค่ะ
27/02/2024 11:40
ข้อมูลดีมากเลยค่ะ น่าสนใจมาก
27/02/2024 09:32
ข้อมูลดีมากเลยค่ะ มีประโยชน์มากค่ะ
26/02/2024 23:50