คอลลาเจนผง Vs คอลลาเจนเม็ด VS คอลลาเจนธรรมชาติ แบบไหนดีกว่ากัน?

โดย Admin_ChoiceChecker02 28/05/2022

ยังต้องกินอาหารเสริมคอลลาเจนเสริมอีกมั้ย ในเมื่ออาหารปกติที่เรากินอยู่ก็มีคอลลาเจนหนิ? แล้วที่ว่ามีอ่ะมีอยู่เท่าไหร่ เพียงพอมั้ย? คอลลาเจนผง คอลลาเจนเม็ด ยังจำเป็นอยู่รึป่าว? มาหาคำตอบทั้งหมดนี้ได้ที่นี่ค่ะ

 

เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจเลย


 

คอลลาเจน สำคัญยังไง?

ในผิวเรามีคอลลาเจนอยู่ตั้ง 75-80% แต่ยิ่งอายุมากขึ้น คอลลาเจนยิ่งลดลงไวเกินต้าน ทำให้หลายคนพยายามหาคอลลาเจนมากิน ก็ในเมื่อร่ายกายขาดไปเราก็กินอาหารเสริมเติมเข้าไปสิ!

 

ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น งานวิจัยเกี่ยวกับการกินอาหารเสริมคอลลาเจนในปัจจุบันผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ กินแล้วผิวดูสุขภาพดีขึ้น กินแล้วดีกับผิวเพิ่มความชุ่มชื้นได้แทบจะไม่เจอผลข้างเคียงการจากการกินคอลลาเจนเสริม ยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่า กินคอลลาเจนแล้วร่างกายเอาไปสร้างคอลลาเจนได้จริงมั้ย และส่วนใหญ่ก็เป็นงานวิจัยที่ทำโดยผู้ผลิตคอลลาเจนเองทำให้อาจมีความเอนเอียง(Bias) ไม่ได้น่าเชื่อถือที่สุด ยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปค่ะ ดังนั้น การกินอาหารเสริมคอลลาเจนไม่ได้แย่ ไม่อันตราย ทานได้ แต่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น จะกินหรือไม่กินก็ได้

 

คอลลาเจน ช่วยอะไรบ้าง?

✔️ช่วยยึดโยงส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น โครงสร้างผิว ยึดกระดูกข้อต่อ

✔️ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เพิ่มความผิวเด้ง ผิวฟู

✔️คอลลาเจนในผิวมีมากเพียงพอ จะช่วยทำให้ริ้วรอยดูจางลง

✔️ลดการเปราะแตกของเล็บ

 

คอลลาเจนธรรมชาติอยู่ในสารอาหารแบบไหน?

อาหารเสริมคอลลาเจนราคาค่อนข้างแพง งั้นเรากินจากอาหารแทนได้มั้ยในเมื่อร่างกายเราก็สร้างคอลลาเจนได้เองตามธรรมชาติอยู่แล้ว ร่างกายเรามีกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจนได้เองตั้งแต่เกิดจนตาย เพราะคอลลาเจนเป็นโครงสร้างสำคัญของส่วนต่างๆในร่างกาย ช่วยยึดโยงสิ่งต่างๆ ยึดโครงสร้างผิว ยึดกระดูกด้วยข้อต่อต่างๆ และนี่คือลิสต์สารอาหารที่ต้องกินเพื่อให้ร่างกายเอาไปใช้ในการสร้างคอลลาเจนได้

 

-โปรตีน/กรดอะมิโนจำเป็น

กรดอะมิโนมีอยู่ 20 ชนิด แทบทั้งหมดในร่างกายเราสร้างเองได้ แต่มีอยู่ 9 ชนิดที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ (เรียกว่ากรดอะมิโนจำเป็น) ต้องมาจากการกินเข้าไป เพื่อใช้ในการสร้างโปรตีนหรือคอลลาเจน

ของกินที่มีโปรตีน/กรดอะมิโนสูง: เนื้อสัตว์ ปลา ไข่(ในไข่ขาวมีโพรลีน กรดอะมิโนสร้างคอลลาเจน) ผลิตภัณฑ์นม กะหล่ำปลี เห็ด หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วเหลือง(มีกรดอะมิโนจำที่ช่วยยับยั้งเอนไซม์ทำลายคอลลาเจนด้วย)

 

-คอลลาเจน: หนังหมู หนังไก่ เจลาติน โปรตีนจากถั่ว โปรตีนจากเห็ด ปลา(หนังปลาและกระดูกปลาเป็นส่วนที่มีโปรตีนเยอะสุด)

แต่น้ำซุปต้มกระดูกอาจจะไม่ใช่แหล่งคอลลาเจนที่เยอะอย่างที่หลายคนเข้าใจค่ะ

แต่มันก็ยังมีแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส กรดอะมิโน และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย

เอ็นเนื้อ 1 กรัม มีคอลลาเจน 49.8 มก.

ไส้หมู 1 กรัม มีคอลลาเจน 30.8 มก.

หนังปลายอดจาก มีคอลลาเจน 76.6 มก.

 

-วิตามินซี: พบในผลไม้รสเปรี้ยว ส้ม มะนาว มะขามป้อม พริกหยวก

-สังกะสี: พบในเนื้อวัว เนื้อแกะ หมู หอย ถั่วชิกพี ถั่วเลนทิล ถั่ว นม ชีส ถั่วและเมล็ดพืชต่างๆ

-ทองแดง: พบในเนื้ออวัยวะ ผงโกโก้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ งา และถั่วเลนทิล

-โพลีแซกคาไรด์: พบในผักหลากสี มันต่างๆ มันหวาน มันเทศ มันมือเสือ ฟักทอง

-โอเมก้า 3: ถั่วเปลือกแข็ง นมจากพืช อัลมอนด์ เมล็ดแฟล็กซ์ เมล็ดเจีย

-Folic Acid: ผักใบเขียวเข้ม

-Sulfur Taurine: กระเทียม อาหารทะเล กุ้ง หอยนางรม ปลา เนื้อวัว เนื้อหมู ทูน่า ตับหมู เนื้อไก่ โยเกิร์ต

สาหร่ายทะเล สาหร่ายแดง และนมวัว (การกินอาหารในชีวิตประจำวันทั่วไป ก็ได้ ทอรีนจากอาหารประมาณ 40– 400 มิลลิกรัม ไม่รวมในผักอีก)

-วิตามินเอ: อาหารสีส้ม เหลือง ฟักทอง แครอท ผลไม้สีส้ม

 

รีวิวอาหารเสริมคอลลาเจน

 

สรุปวัตถุดิบที่ใช้สร้างคอลลาเจน ประกอบด้วย

เท่ากับโปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็น เช่น โพรลีน ไกลซีน + วิตามินซี + โพลีแซกคาไรด์(น้ำตาลโมเลกุลสายโซ่) + Zinc + ทองแดง + โอเมก้า 3 (เป็นตัวช่วยให้เส้นใยคอลลาเจนแข็งแรง) + Folic Acid + Sulfur Taurine (ช่วยในการสร้างคอลลาเจนใหม่และป้องกันการสลายของคอลลาเจน) + วิตามินเอ และต้องกินน้ำตามเยอะๆ

 

สารอาหารพวกนี้จะถักทอกรดอะมิโน 3 ชนิดออกมาเป็นเส้นใยคอลลาเจนเอาไปใช้ในส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าจะกินแค่คอลลาเจนเพียวๆจากอาหารเสริม หรือเลือกกินแต่อาหารที่มีคอลลาเจนสูง แล้วหวังว่าร่างกายเราจะสร้างคอลลาเจนให้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ

 

คอลลาเจนธรรมชาติ VS คอลลาเจนเสริม

สรุปแล้วเราควรกิน คอลลาเจนธรรมชาติจากอาหาร หรือ คอลลาเจนจากอาหารเสริม กันแน่?

อาหารที่มีเจลาตินสูงอย่าง ขาหมู ก็มีคอลลาเจนเยอะนี่ กินเข้าไปก็ได้คอลลาเจนเหมือนกัน แต่ประเด็นคือ อาหารพวกนี้มีของแถมมาตามมาด้วย ไม่ว่าจะคลอเรสเตอรอล ไขมัน น้ำตาล ปริมาณคอลลาเจนที่ร่างกายต้องการต่อวันคือ 2,500-10,000 มก. กว่าจะกินจากอาหารให้ได้เท่านี้ก็เมื่อยกรามไม่ไหว วิธีกินที่หวังผลให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ดีที่สุด ในสไตล์ choicechecker คือ การกินอาหารมื้อปกติให้หลากหลาย ไม่เมนูกินซ้ำๆควบคู่ไปกับการกินคอลลาเจนเสริม ช่วยให้ร่างกายมีวัตถุดิบเพียงพอในการผลิตคอลลาเจนใช้เอง

 

คอลลาเจนเม็ด คอลลาเจนผง คอลลาเจนธรรมขาติ แตกต่าง

 

คอลลาเจนธรรมชาติ VS คอลลาเจนผง VS คอลลาเจนเม็ด

■ คอลลาเจนธรรมชาติ

ข้อดี: ราคาถูก คอลลาเจนธรรมชาติแทรกตัวอยู่ในอาหารที่เราต้องกินอยู่แล้ว แค่กินมื้ออาหารปกติก็ได้คอลลาเจนและสารอาหารอื่นๆที่จำเป็นในการสังเคราะห์คอลลาเจนด้วย

ข้อด้อย: ได้ปริมาณคอลลาเจนน้อย กว่าจะกินจากอาหารให้ถึงปริมาณที่แนะนำต่อวันอาจได้ไขมัน แป้ง หรือน้ำตาลสูงเกิน และดูดซึมช้ากว่าอาหารเสริมที่มีการแตกตัว(Hydrolysed)ให้ร่างกายดูดซึมง่าย

 

■ คอลลาเจนแบบผง

ข้อดี: ประสิทธิภาพในการดูดซึมดีกว่าแบบเม็ด คอลลาเจนละลายในน้ำ แบบผงต้องชงกินพร้อมน้ำอยู่แล้วเท่ากับได้น้ำเข้าไปช่วยในการดูดซึมด้วย

ข้อด้อย: มีปัญหาเรื่องกลิ่นคาว สำหรับบางคนที่เซ้นซิทีฟเรื่องกลิ่นอาจจะกินไม่ไหว และมีพิธีรีตรองในการกินตรงที่ต้องผสมกับน้ำหรือผสมในอาหาร/เครื่องดื่ม ไม่ได้กินง่ายเหมือนแบบเม็ด
 

■ คอลลาเจนแบบเม็ด

ข้อดี: กินง่ายมาก หมดปัญหาเรื่องกลิ่นคาว สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นคาวของคอลลาเจนผงให้กินแบบนี้แทนค่ะ แต่ควรกินน้ำตามเยอะๆนะ

ข้อด้อย: ดูดซึมช้ากว่าเพราะต้องเอาไปแตกตัวก่อน และต้องมีการแบ่งกินหลายเม็ดหลายโดส บางยี่ห้อ 3-6 เม็ดต่อวัน มีโอกาสเสี่ยงอาจจะลืมกินได้ไม่ครบโดส(คนขี้ลืมกินแบบผงจบกว่า)

 

แนะนำ 3 คอลลาเจนผงแบรนด์ดังที่พลาดไม่ได้

รีวิวคอลลาเจน

 

■ Meji Amino Collagen + CoQ10 & Rich Extract (196g / ฿1,590)

คอลลาเจนจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่สกัดมาจากปลา ซึ่งก็จะได้คอลลาเจน type 1 และ 2 ที่ดูหวังผลเรื่องผิวพรรณได้ และปลาญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว คอลลาเจนเมจิแบบผงตัวนี้ได้คอลลาเจนเปปไทด์จากปลา 5,424 มก. + วิตามินซีประมาณส้ม 1 ลูก + โคคิวเท็น + เซราไมด์จากสารสกัดจมูกข้าว มาครบทั้งคอลลาเจนและผู้ช่วยดูดซึม เป็นตัวที่ดูหวังผลได้นะ ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ ผสมกับอะไรกินก็ได้

แนะนำให้ทานวิตามินซีเสริมขนาด 500 มก. ตามไปด้วยค่ะ

ปริมาณ: กินวันละ 7 กรัม 2 ช้อนโต๊ะไม่มีช้อนตวงมาให้ / กินได้ 28 วัน

ทางไปชอป: คลิกที่นี่

 

■ Shiseido The Collagen W Powder (126g / ¥3,753)

มาที่คอลลาเจนชิเซโด้กันบ้าง แบรนด์ไฮเอนชื่อดังที่หลายคนรู้จักเค้าทำคอลลาเจนเปปไทด์ชนิดดูดซึมไว สกัดจากปลาทะเล ตัวนี้ไม่หวาน แคลอรี่ต่ำ ชงผสมเครื่องดื่มที่ชอบได้เลย ซองเล็กๆเหมาะกับการเริ่มกินคอลลาเจนช่วงแรกๆ ได้คอลลาเจนประมาณ 5,000 กรัมตามมาตรฐาน

ปริมาณ: กินวันละ 6 กรัม มีช้อนตวงมาให้ / กินได้ 21 วัน

แนะนำให้ทานวิตามินซีเสริมขนาด 500-1,000 มก. ตามไปด้วยค่ะ

ทางไปชอป: คลิกที่นี่

 

■ Vital Proteins Collagen Peptides (284g / €28.75)

เปลี่ยนมาที่คอลลาเจนอเมริกากันบ้าง อเมริกาชอบใช้คอลลาเจนจากวัว(เพราะเค้าเป็นประเทศอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่) แต่คอลลาเจนยี่ห้อนี้เคลมว่าเค้าใช้คอลลาเจนสกัดจากวัวกินหญ้า ไก่ที่เลี้ยงนอกกรง จากปลาที่ตกได้ในธรรมชาติ และจากเยื่อหุ้มเปลือกไข่ ใดๆคือเป็นคอลลาเจนที่ไม่ทรมานสัตว์ ให้คอลลาเจน Type 1, 2, 3, 5, 10 ได้รับการรับรองจาก NSF และ ConsumerLab ตัวนี้ไม่ปรุงแต่งรสชาติ

ปริมาณ: กินวันละ 7.8 กรัม มีช้อนตวงมาให้ / กินได้ 28 วัน

แนะนำให้ทานวิตามินซีเสริมขนาด 500-1,000 มก. และทานอาหารเพื่อเติมสารอาหารอื่นๆด้วยค่ะ

ทางไปชอป: คลิกที่นี่

 

แนะนำ 3 คอลลาเจนเม็ด แบรนด์ดังที่พลาดไม่ได้

 

 

■ DHC Supplement Collagen (180 Capsules / ฿550)

แน่นอนว่าแบรนด์ฝั่งญี่ปุ่นเค้าจะใช้คอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเลกัน สกัดคอลลาเจนได้ดีแถมวิตามิน DHC ตัวนี้ยังมีวิตามิน B1 & B2 มาให้ด้วย ซองนึงสำหรับ 60 วันค่ะต้องกินวันละ 3 เม็ด กินหลังอาหาร 3 มื้อได้เลย

ปริมาณ: กินวันละ 3 เม็ด / กินได้ 60 วัน

แนะนำให้ทานวิตามินซีเสริมขนาด 500-1,000 มก. ตามไปด้วยค่ะ

ทางไปชอป: คลิกที่นี่

 

■ FANCL Deep Charge Collagen 30 Days (180 Capsules / ¥1,330)

อีกหนึ่งคอลลาเจนจากแบรนด์ไฮเอนญี่ปุ่นที่ใช้คอลลาเจนสูตรเฉพาะที่เรียกว่า HTC Collagen เป็นคอลลาเจนที่เคลมว่าย่อยโมเลกุลให้เล็กจนร่างกายดูดซึมง่าย เสริมด้วยวิตามิน C และสารสกัด Rose bud มาช่วยเสริมการดูดซึม เม็ดนึงมีคอลลาเจน 1,000 มก. กินครบโดส 6 เม็ดก็จะได้ 6,000 มก.ต่อวัน

ปริมาณ: กินวันละ 6 เม็ด / กินได้ 30 วัน

แนะนำให้ทานวิตามินซีเสริมขนาด 500-1,000 มก. ตามไปด้วยค่ะ

ทางไปชอป: คลิกที่นี่

 

■ NeoCell Super Collagen+C Type 1&3 (250 Capsules / ฿1800)

กลับมาที่คอลลาเจนอเมริกากันอีกรอบ สกัดจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าอีกเหมือนเดิม ตัวนี้เป็นคอลลาเจน type 1 และ 3 บวกวิตามินซีประมาณส้ม 1 ลูก เป็นสูตรคีโต กินวันละ 6 เม็ด รวมแล้วก็จะได้คอลลาเจนประมาณ 6,000 มก. ซึ่งก็ค่อนข้างเข้มข้นกว่าแบรนด์อื่นนะ

ปริมาณ: กินวันละ 6 เม็ด / กินได้ 41 วัน

แนะนำให้ทานวิตามินซีเสริมขนาด 500-1,000 มก. ตามไปด้วยค่ะ

ทางไปชอป: คลิกที่นี่

 

👩‍⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩‍⚕️



งานวิจัยอ้างอิง

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


ดีจังเลยค่ะ
17/03/2024 23:52
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
23/11/2023 05:24
ขอบคุณที่มาแชร์กันค่า
15/08/2022 06:59
บทความดีมากๆเลยค่ะ
13/08/2022 15:12
น่าสนใจมากค่ะ
14/06/2022 11:20
ชอบแบบเม็ดค่ะ ทานง่ายที่สุดในโลกกก <3
13/06/2022 03:02
ชอบคอลลาเจนแบบผงค่ะ
12/06/2022 11:40
ชอบแบบผงผสมรสผลไม้ค่ะ ทานง่ายสดชื่น
04/06/2022 07:58
ชอบแบบผงค่ะ ปัจจุบันมีรสต่างๆให้เลือก ทานง่ายขึ้นเยอะ
30/05/2022 09:01
คอลลาเจนประโยชน์เยอะ อายุมากต้องกินนะครับ
29/05/2022 07:04
ชอบคอลลาเจนผงมากกว่าเพราะไม่ชอบกินแบบเม็ด
29/05/2022 06:56
มีแต่ข้อมูลที่มีประโยชน์ทั้งนั่นจะเอาไปลองใช้
29/05/2022 06:53
สาระดีมีประโยชน์ ชอบจ้า
29/05/2022 05:08