อากาศร้อน ๆ แบบนี้การทานของหวาน ๆ เย็น ๆ ให้สดชื่นคลายร้อนกันก็คงเป็นเรื่องที่ทำให้ใจฟูไม่น้อย แต่หากมีพฤติกรรมเช่นนี้บ่อย ๆ คงไม่ดีแน่ หลาย ๆ คนเลยหลีกเลี่ยง พยายามลดน้ำตาล และงดขนม แล้วหันมาทานผลไม้แทน
แต่เดี๋ยวก่อนคุณอาจตกม้าตายได้ เพราะผลไม้ที่ทานแล้วหวานฉ่ำบาดใจ ให้ความรู้สึกสดชื่นนั้น อาจมีค่าน้ำตาลสูงปรี๊ด จนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงแบบไม่รู้ตัวได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นแม้จะทานผลไม้ ก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องน้ำตาล เด็ดขาด!
ทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย
ดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index : GI) คือ ค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของอาหารที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต ว่ามีผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดได้รวดเร็วแค่ไหน โดยเปรียบเทียบกับน้ำตาลกลูโคสบริสุทธิ์ (dextrose) ที่มีค่า GI เท่ากับ 100 ซึ่งค่า GI จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน คือ
1.ดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low GI): 0 - 55
2.ดัชนีน้ำตาลปานกลาง (Medium GI): 56 - 69
3.ดัชนีน้ำตาลสูง (High GI): 70 - 100
ถึงแม้ผลไม้จะเป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่ผลไม้บางชนิดก็มีปริมาณน้ำตาลสูงปรี๊ด ทานมากไปก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่ป่วยโรคเบาหวาน มาดูกันว่า 8 ผลไม้หวานฉ่ำ น้ำตาลสูงงง มีอะไรบ้าง?
ทุเรียน เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ เนื้อในมีสีเหลืองดูน่ากิน มีทั้งแบบทุเรียนสดและนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด มีกลิ่นหอมเย้ายวนใจคนรักทุเรียนสุด ๆ แต่เดี๋ยวก่อน! หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าทุเรียนที่ชื่นชอบนั้น มีน้ำตาลสูงมาก ซึ่งทุเรียน 100 กรัม มีค่าน้ำตาลสูงถึงประมาณ 21 กรัมเลยล่ะ จึงไม่ควรทานเยอะเกินไปนั่นเอง
มะม่วงสุก ผลไม้เมืองร้อนยอดฮิตที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ นิยมทานทั้งแบบสุกและแบบดิบ ยิ่งมาพร้อมกับข้าวเหนียวมูนและกะทิฉ่ำ ๆ ยิ่งฟินน ทั้งนี้หลายคนอาจจะคิดว่ามะม่วงดิบน้ำตาลน่าจะน้อยกว่ามะม่วงสุก แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองแบบนี้มีปริมาณน้ำตาลสูงใกล้เคียงกันมาก
และหากมีการนำมะม่วงสุกไปทานคู่กับข้าวเหนียวมูน ก็จะยิ่งมีปริมาณน้ำตาลสูงเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งมะม่วงสุก 100 กรัม จะมีค่าน้ำตาลสูงถึงประมาณ 14 กรัม
ลำไย ผลไม้ที่รสชาติดี หวานจัด และเนื้อแน่น ๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ยอดฮิตสุด ๆ ยิ่งหน้าร้อน หลายคนยิ่งเลิฟเลย จะเห็นได้จากกระแสน้ำลำไยสดที่ขายดีเทน้ำเทท่า เพราะร้อน ๆ อย่างนี้หากได้ดื่มน้ำลำไยเย็น ๆ พร้อมกับเคี้ยวเนื้อนุ่ม ๆ เรียกได้ว่าสดชื่นดีเกินต้าน
แต่ที่น่าเป็นห่วงเลย คือ ในเนื้อลำไย 100 กรัม มีค่าน้ำตาลสูงมากถึง 18 กรัม ชอยซ์ขอแนะนำให้ทานลำใยในปริมาณที่พอดี ไม่เยอะจนเกินไป เพราะนอกจากจะมีน้ำตาลสูงแล้ว ยังทำให้เป็นร้อนในได้อีกด้วย
ขนุน ผลไม้สารพัดประโยชน์ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติหวานฉ่ำถูกปากคนไทย เรียกได้ว่าเป็นผลไม้หน้าร้อนที่อร่อย อีกทั้งยังดีต่อร่างกาย แต่หากทานในปริมาณมากเกินไปก็อาจเกิดผลเสียต่อร่างกาย จากการได้รับน้ำตาลสูงนั่นเอง ซึ่งขนุน 100 กรัม มีค่าน้ำตาลอยู่ประมาณ 21 กรัม จะเห็นได้ว่ามีน้ำตาลสูงไม่ต่างจากทุเรียนเลย จึงไม่ควรทานเยอะนั่นเอง
เงาะ ผลไม้เมืองร้อนรสชาติดี หอม และหวานฉ่ำ เป็นผลไม้สุดโปรดของใครหลายคน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรทานเยอะจนเกินไป เนื่องจากเงาะ 100 กรัม มีค่าน้ำตาลสูงถึงประมาณ 17.9 กรัมเลยล่ะ เพราะฉะนั้นจึงควรทานเงาะไม่เกินวันละ 4-6 ลูก ถือเป็นปริมาณที่กำลังพอดี
ลิ้นจี่ ผลไม้รสชาติอร่อย เปลือกแดง เนื้อขาวน่าทาน รสชาติหอมหวาน บางสายพันธุ์อมเปรี้ยวนิด ๆ ใครได้ทานก็ชื่นใจ โดยลิ้นจี่ 100 กรัม มีค่าน้ำตาลอยู่ประมาณ 17.9 กรัม จะเห็นได้ว่าค่อนข้างมีน้ำตาลเยอะเลยทีเดียว จึงไม่ควรทานเยอะ ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้
กล้วย ผลไม้ยอดฮิตเมืองไทย หาทานได้ทั้งปี รสชาติหอมหวานอร่อย หากท่านใดที่ชอบทานกล้วยในปริมาณมากนั้น ต้องระวังเรื่องสุขภาพด้วย เนื่องจากกล้วยมีค่าน้ำตาลสูงปรี๊ดเช่นกัน
ใครว่าการทานผลไม้แล้วจะอ้วน? เสมอไป วันนี้ ChoiceChecker ก็ไม่พลาดที่จะมาบอกต่อ ผลไม้เฮลตี้น้ำตาลต่ำ ทานได้ไม่อ้วน อร่อย และดีต่อสุขภาพเช่นกัน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้เลย
แก้วมังกร ผลไม้อร่อยรสชาติดี หวานอร่อย อุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย มีสรรพคุณหลัก ๆ คือ ช่วยลดน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งแก้วมังกร 100 กรัม มีค่าน้ำตาลอยู่ประมาณ 8.1-9.8 กรัมเท่านั้น
แคนตาลูป ผลไม้เนื้อสีส้มสวย รสชาติอร่อย หอมหวาน ใครทานก็ติดใจ แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โนแคนตาลูป 100 กรัม จะมีค่าน้ำตาลอยู่ประมาณ 5.8-6.1 กรัม
แตงไทย ผลไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นทั้งของคาว และของหวาน รสชาติหวานกำลังดี กลิ่นหอม เนื้อนิ่ม มีเนื้อส้มอมเหลืองน่าทาน เป็นผลไม้สุดโปรดของหลาย ๆ คน ที่หาทานได้ง่าย แถมยังราคาย่อมเยาสุด ๆ ที่สำคัญเลยคือแตงไทย 100 กรัม มีค่าน้ำตาลต่ำอยู่ประมาณ 5.5-6.4 กรัมเอง
สตรอว์เบอร์รี่ ผลไม้เมืองหนาวรสชาติหวานอมเปรี้ยว ทานแล้วรู้สึกสดชื่นมีแรง เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยสุด ๆ มีสารไลโคปีนและสารบีทาเลน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเป็นผลไม้ยอดฮิต อีกทั้งสตรอว์เบอร์รี่ 100 กรัม จะมีค่าน้ำตาลอยู่เพียง 3.8 กรัมเท่านั้น
ส้มเช้ง ผลไม้รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ กระตุ้นความสดชื่นในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ได้ดีสุด ๆ ซึ่งส้มเช้ง 100 กรัม มีค่าน้ำตาลอยู่ประมาณ 7.4 กรัม
ฝรั่ง ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามีวิตามินซีสูง มีสรรพคุณมากมาย ทั้งช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดน้ำหนักได้ มีรสชาติหวานกรอบ อร่อย ทานแล้วจะรู้สึกสดชื่น โดยในส่วนน้ำตาลนั้นฝรั่ง 100 กรัม จะมีค่าน้ำตาลอยู่แค่ประมาณ 5.5-6.4 กรัม
ส้มโอ ผลไม้ยอดนิยมให้แคลอรี่ต่ำ รสชาติหวานอมเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมสดชื่น ซึ่งส้มโอ 100 กรัม จะมีค่าน้ำตาลอยู่ประมาณ 7.1-9.8 กรัม
ผู้ป่วยเบาหวานทานผลไม้ได้ แต่ต้องทานปริมาณที่เหมาะสม เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งมีทริกการเลือกทานผลไม้ดังนี้
ทั้งนี้ปริมาณน้ำตาลในผลไม้แต่ละลูกอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ความสุก และวิธีการเก็บรักษา
ชอยซ์ของเน้นย้ำเลยว่า ให้ทานผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม เลือกทานผลไม้หลากหลายชนิด เน้นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ควบคู่กับการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับรองเลยว่าจะมีสุขภาพดี และห่างไกลเบาหวานได้แน่นอนค่าา
References:
ความคิดเห็น