อาหารเสริมแต่ละชนิด ควรทานเวลาไหน

โดย Admin_ChoiceChecker03 26/04/2024

 

เคยสงสัยว่าทำไมอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุมีวิธีการทานไม่เหมือนกัน?

ตอบ อาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุมีวิธีการทานที่แตกต่างกันเนื่องเกี่ยวข้องกับลักษณะเฉพาะของแต่ละชนิด รวมถึงวิธีการที่ร่างกายดูดซึมและใช้สารอาหารเหล่านั้น นี้คือ 3  เหตุผลหลักที่ชอยซ์นำมาสรุปไว้!

 

ทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย

 


 

  1. ลักษณะการละลายของวิตามินและแร่ธาตุ: วิตามินบางชนิดละลายในน้ำ (เช่น วิตามินซีและวิตามินบีกลุ่ม) ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายและขับออกทางปัสสาวะหากมีปริมาณเกินความต้องการ ในขณะที่วิตามินที่ละลายในไขมัน (เช่น วิตามิน A, D, E, K) ต้องมีไขมันเพื่อช่วยในการดูดซึมและสามารถสะสมในร่างกายได้
  2. ผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร: วิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารหากทานตอนท้องว่าง เช่น วิตามินซี และดี ซึ่งควรรับประทานพร้อมอาหารเพื่อลดอาการระคายเคือง
  3. การทำปฏิกิริยากับสารอื่นๆ: บางครั้งอาหารเสริมต้องทานควบคู่กับสารอาหารอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือลดการขัดขวางการดูดซึม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์เหล่านี้สำคัญมากในการกำหนดเวลาและวิธีการทานที่เหมาะสม

 

วิตามินบีรวม

มีความสำคัญในการบำรุงระบบประสาท  สร้างพลังงานให้กับร่างกาย สังเคราะห์เอนไซม์และฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ควรทานพร้อมอาหาร เพราะสารที่หลั่งตอนย่อยอาหารจะสามารถช่วยทำให้การดูดซึมวิตามินบีได้ดียิ่งขึ้น
  • ควรทานในตอนเช้าหรือช่วงกลางวัน เพราะวิตามินบางชนิดเช่น B6 และ B12 มีผลกระตุ้นต่อระบบประสาท อาจรบกวนการคุณภาพการนอน

 

วิตามินซี ( Ascorbic Acid) 

มีประสิทธิภาพในการช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน สังเคราะห์คอลลาเจนซึ่งเป็นสารสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ บำรุงหลอดเลือด และเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ควรทานในปริมาณที่น้อยแต่บ่อยครั้ง เช่น แบ่งรับประทานวันละหลายครั้ง เพื่อช่วยให้วิตามินซีดูดซึมได้เต็มที่
  • ทานวิตามินซีร่วมกับผักหรือผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิ้ล, แบล็กเบอร์รี่, และแพร์ สามารถช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีได้ เนื่องจากไฟเบอร์ช่วยชะลอการปลดปล่อยน้ำตาลในร่างกาย ทำให้วิตามินซีถูกดูดซึมอย่างต่อเนื่องและไม่ถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว

 

วิตามิน D

เป็นวิตามินที่สำคัญในการสนับสนุนเพื่อเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากลำไส้ เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน กล้ามเนื้อ และบำรุงระบบภูมิคุ้มกัน

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ควรทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันดีสูง เช่น น้ำมันปลา อะโวคาโด หรือน้ำมันมะกอก เนื่องจากวิตามิน D เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน การทานควบคู่กับไขมันช่วยให้ดูดซึมวิตามินได้ดียิ่งขึ้น
  • ทานร่วมกับวิตามิน K และแมกนีเซียม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้ดีขึ้น โดยวิตามิน K ช่วยให้แคลเซียมจัดเก็บในกระดูกแทนที่จะสะสมในหลอดเลือด และแมกนีเซียมช่วยเสริมการทำงานของวิตามิน D ในการดูดซึมแคลเซียม

 

แคลเซียม

ป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการสร้างและรักษากระดูกและฟัน มีบทบาทในการส่งสัญญาณประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • พิจารณาจากชนิดของแคลเซียม เช่น แคลเซียมซิเตรตอาจทานได้ทั้งตอนท้องว่างและพร้อมอาหาร แต่แคลเซียมคาร์บอเนตควรทานพร้อมอาหารเพื่อเพิ่มการดูดซึม
  • ทานร่วมกับวิตามิน D และวิตามินเค โดยวิตามินดีจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ และวิตามินเคช่วยให้แคลเซียมนั้นถูกใช้ในการสร้างกระดูก ลดความเสี่ยงของการสะสมแคลเซียมในหลอดเลือด

 

วิตามิน A

บำรุงสายตา ช่วยในการเห็นในเวลากลางคืน นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงผิวพรรณและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ทานพร้อมอาหารที่มีไขมัน เพื่อเสริมสร้างการดูดซึมของวิตามิน A ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น น้ำมันปลา อะโวคาโด หรือน้ำมันมะกอก

 

วิตามิน E (Tocopherol)

เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ บำรุงผิว และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ทานพร้อมอาหารที่มีไขมัน เพื่อเสริมสร้างการดูดซึมของวิตามิน E ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น น้ำมันปลา อะโวคาโด หรือน้ำมันมะกอก
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ลดการดูดซึม โดยไปส่งผลต่อตับ ทำให้ตับไม่สามารถเปลี่ยนวิตามินเป็นรูปแบบที่ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์ได้

 

เคยสงสัยว่าทำไมอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุมีวิธีการทานไม่เหมือนกัน?

 

วิตามิน K

เป็นวิตามินสำคัญที่ช่วยในกระบวนการแข็งตัวของเลือด และช่วยเก็บแคลเซียมไว้ในกระดูก

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ทานพร้อมอาหารที่มีไขมัน เพื่อเสริมสร้างการดูดซึมของวิตามิน K ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น น้ำมันปลา อะโวคาโด หรือน้ำมันมะกอก
  • การบริโภควิตามิน E ในระดับสูงอาจแทรกแซงการดูดซึมของวิตามิน K ได้ เนื่องจากทั้งสองชนิดใช้เส้นทางการดูดซึมเดียวกันในลำไส้และต้องการโปรตีนพาหะเฉพาะเพื่อช่วยในการขนส่งผ่านเยื่อเซลล์

 

คอลลาเจน (Collagen)

ช่วยในการรักษาโครงสร้างของผิวหนัง ผม และข้อต่อ รวมทั้งช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง การทานตอนท้องว่างอาจช่วยให้ดูดซึมได้ดีกว่า
  •  
  • ทานพร้อมวิตามิน C เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย

โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10)

ช่วยในการผลิตพลังงานภายในเซลล์ ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจและอวัยวะสำคัญอื่นๆ

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ทานพร้อมอาหารและแบ่งการทานออกเป็นสองมื้อ เช่น ตอนเช้าและเย็น เพื่อรักษาระดับในร่างกายให้คงที่
  • ควรเลือกทานแบบแคปซูลนิ่ร่างกายจะดูดซึมไปใช้งานได้ดีกว่าแบบเม็ดแข็ง

 

แอสต้าแซนทีน (Astaxanthin)

ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ บำรุงหลอดเลือดและหัวใจ และบำรุงผิวด้วย รวมถึงการปกป้องเซลล์จากความเสียหายจากรังสียูวีและการอักเสบอื่นๆ ในร่างกาย

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ทานพร้อมอาหารที่มีไขมัน เพราะ Astaxanthin เป็นสารที่ละลายในไขมันเช่น อะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, หรือปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 จะช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารนี้ในร่างกาย
  • แบ่งการทานเป็นสองมื้อ โดยทั่วไปแนะนำให้ทานในเวลาเช้าและเย็น เพื่อรักษาระดับสารนี้ในร่างกายให้คงที่
  • หลีกเลี่ยงการทานพร้อมแคลเซียมและเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดอาจขัดขวางการดูดซึมของแร่ธาตุอื่นๆ เช่น เหล็กและแคลเซียม ดังนั้นควรทาน astaxanthin ห่างจากอาหารเสริมเหล่านี้

 

สังกะสี (Zinc)

เป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การแบ่งเซลล์ การสร้างโปรตีน และการรักษาระดับเอนไซม์ต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพผิว ผม และเล็บ

วิธีการรับประทานที่ทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

  • ทานตอนท้องว่างหรือพร้อมอาหาร แม้ว่าสังกะสีจะดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่อทานตอนท้องว่าง แต่สำหรับบางคนอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้อง เช่น รู้สึกแสบหรือเสียด ในกรณีนี้ควรทานพร้อมอาหารเพื่อลดอาการระคายเคือง
  • หลีกเลี่ยงการทานร่วมกับธาตุเหล็กและแคลเซียม เพราะสังกะสีจะไปขัดขวางการดูดซึมของธาตุเหล็กและแคลเซียมได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการทานสังกะสีร่วมกับอาหารหรืออาหารเสริมที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและแคลเซียม
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีโฟเลตสูง เช่น ธัญพืช, ถั่ว, และเมล็ดพืช เพราะจะลดการดูดซึมสังกะสี

 

เคยสงสัยว่าทำไมอาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุมีวิธีการทานไม่เหมือนกัน?

 

👩‍⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩‍⚕️

 


 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


ดีมีประโยชน์จะเอาไปใช้นะคะ
06/05/2024 13:24
ข้อมูลดีมากๆเลยค่ะ
06/05/2024 11:58
มีแต่ข้อมูลดีมีประโยชน์ต้องนำไปใช้
05/05/2024 09:41
ดีงามมากๆค่ะ
27/04/2024 23:59