ไฟเบอร์หรือเรียกอีกอย่างว่า กากใยอาหาร ไม่ได้แค่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายเท่านั้น มีหลายคนเข้าใจผิดว่าอุจจาระไม่ออก ถึงค่อยทานไฟเบอร์ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เท่านั้น ร่างกายต้องการไฟเบอร์ในทุกวันในปริมาณที่มากเพียงพอ ไฟเบอร์มีความสำคัญเท่ากับสารอาหารหลัก 5 อย่างเลยทีเดียว (โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ) ปริมาณไฟเบอร์ที่ Thai RDA แนะนำให้ได้รับประทานคือ 25 กรัมต่อวัน (ส่วนสารอาหารอื่นๆที่ควรได้รับต่อวัน อ่านต่อที่นี่) ขาดไฟเบอร์เมื่อใด ก็จะสังเกตเห็นความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้น แท้จริงแล้วไฟเบอร์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง วันนี้เจ้มิ้นจะมาเล่าให้ฟัง
เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย
จุดเด่นของไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร คือเค้าเป็นสารที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่เลยสามารถขัดขวางสิ่งอื่นๆ ไฟเบอร์บางชนิดมีความพิเศษโดยสามารถดูดน้ำเข้าหาตัวยิ่งทำให้โครงสร้างพองขยายขนาดขึ้นไปอีก
1. ไฟเบอร์เป็นอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ได้แก่ Lactobacillus และ Bifidobacterium
จุลินทรีย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ดังนั้นน้องเค้าจะมีชีวิตอยู่ได้ก็ต้องมีอาหารให้กิน อาหารชั้นดีคือไฟเบอร์นั่นเองเมื่อใดที่ร่างกายได้รับไฟเบอร์เพียงเพียงพ ก็ทำให้จุลินทรีย์ได้กินอาหารดีๆไปด้วย ก็จะเติบโตได้ดี การย่อยและการดูดซึมสารอาหารดีขึ้น ปัญหาท้องผูกลดน้อยลง ปัญหาท้องเสียแทบไม่มี ในทางกลับกันถ้าเจ้าจุลินทรีย์ไม่ได้รับอาหาร น้องเค้าก็จะค่อยตายๆลงไป ทำให้สภาพแวดล้อมของลำไส้แถวนั้นเสื่อมโทรมลงไปด้วย การย่อยและการดูดซึมอาหารก็จะไม่ค่อยปกติ สารอาหารดูดซึมไปใช้ได้น้อยลง เชื้อโรคอันตรายบุกเกิดการอักเสบ การบีบตัวของลำไส้ไม่ปกติเดี๋ยวท้องเสีย เดี๋ยวท้องผูกแปรปรวนไปหมด และปัญหาอื่นๆที่จะเกิดตามมาอีกมากมาย
2. ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นช้ากว่าปกติ ป้องกันโรคเบาหวาน
หลังจากการทานอาหารทุกครั้ง ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วกว่าปกติแล้วค่อยๆลดกลับมาอยู๋ในระดับปกติ จะเห็นว่าเวลาไปตรวจสุขภาพเขาจะให้อดอาหารนั่นเอง แต่ถ้าใครเป็นคนกินตลอดเวลา ระดับน้ำตาลก็เพิ่มขึ้นแล้วค้างสูงไว้อยู่แบบนั้นเลยทำให้เพิ่มโอกาสเป็นโรคเบาหวาน แต่เจ้าไฟเบอร์มีความสามารถในการดักจับน้ำตาลไว้กับตัวเองกีดกันไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายๆบริเวณลำไส้เล็ก ระดับน้ำตาลในเลือดหลังทานอาหารก็จะขึ้นช้าเมื่อเทียบกับคนไม่ชอบกินไฟเบอร์เลย สามารถช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้
3. ลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด ป้องกันโรคไขมันในเลือดสูง
จากอาหารการกินในยุคปัจจุบันเชื่อว่าหลายคนคงกังวลเรื่องระดับคอเรสเตอรอลในเลือดสูง รู้หรือไม่ว่าเจ้าไฟเบอร์ป้องกันระดับคอเรสเตอรอลสูงได้ เพราะน้องเค้าเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่กีดกันการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ระหว่างที่ลำไส้กำลังบีบตัวเคลื่อนที่ไปข้างหน้าไฟเบอร์ก็จะดูดจับคอเลสเตอรอลและน้ำดีไปพร้อมกันกลายเป็นก้อนอุจจาระขับออกจากร่างกาย
4. ลดน้ำหนัก ป้องกันการกินมากจนเกินเหตุ
เวลาทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงมันจะต้องใช้เวลาเคี้ยวนานเมื่อเทียบกับการทานคาร์โบไฮเดรต ไขมันและเนื้อสัตว์ ร่างกายของเรานั่นฉลาดมาก เวลาเราเคี้ยวนานเมื่อใดร่างกายเราก็จะส่งสัญญาณบอกสมองว่า “เริ่มอิ่มแล้ว เริ่มจะกินไม่ไหวแล้ว ควรพอได้แล้ว” มันก็จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ความอยากทานอาหารลดน้อยถอยลงไป นอกจากนั้นไฟเบอร์ยังมีคุณสมบัติที่ดูดน้ำเข้าหาตัวทำให้ตัวเองพองเต็มลำไส้ กระตุ้นให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ดังนั้นไฟเบอร์เลยมีประสิทธิภาพช่วยลดน้ำหนักและป้องกันไม่ให้อยากอาหารได้ ถ้าไม่เชื่อลองกินถั่วสัก 5-6 เม็ดตอนที่คุณหิวๆ คุณจะรู้สึกอิ่มขึ้นมาทันที
เทคนิคการกินยังไงให้สุขภาพดี? เจ้เคยแนะนำไปแล้วว่าก่อนทานอาหารทุกครั้งควรเริ่มด้วยสลัด หรือเมนูที่เต็มไปด้วยกากใยอาหารก่อน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้กินมากจนเกินไป และลดการดูดซึมของพวกน้ำตาล คอเรสเตอรอลได้ อยากอ่านฉบับเต็ม อ่านต่อที่นี่
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีคนอายุยืนที่สุดในโลกและยังเป็นผู้สูงอายุที่เดินเหินคล่องแคล่วช่วยเหลือตนเองได้ ประชากรส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นปัจจุบันเป็นผู้สูงอายุนับเป็นอัตราส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด เคยสงสัยไหมว่าคนญี่ปุ่นเค้ากินอะไรกันถึงมีสุขภาพดี รวม 8 วัตถุดิบไฟเบอร์สูงที่คนญี่ปุ่นนิยม แต่ก็สามารถหาทานที่ไทยได้
หลายคนที่เคยมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นอาจจะเถียงว่าไม่ค่อยเห็นวัตถุดิบเหล่านี้เลยเวลาไปกินราเมน โอมากาเซะ ทงคัสซึ แต่จริงๆแล้วถ้าใครเคยกินพวกเทโชกุ (อาหารเซ็ทเมนู) ในพวกร้านโอโตยะ จะเห็นเมนูนัทโต๊ะ เต้าหู้ขาว สลัดบล๊อคโคลี่ ข้าวอบเห็ดหอมบ่อยมากๆ หรือเคยเข้าซุปเปอร์มาเก็ตที่ญี่ปุ่นก็จะเห็นวัตถุดิบเหล่านี้ตั้งวางเรียงราย เพราะวัตถุดิบเหล่านี้สำหรับคนญี่ปุ่นเขาถือเป็นของที่ต้องมี ของที่ต้องทาน ปริมาณไฟเบอร์สูงด้วยดีกับร่างกายแทบทุกส่วน
ถั่วเหลือง: น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง เต้าหวยน้ำขิง ถั่วเหลืองอบ
เห็ดหูหนู: ยำเห็ดหูหนู เห็ดหูหนูผัด เห็ดหูหนูผัดวุ้นเส้น ผัดขิงเห็ดหูหนู
ถั่วลันเตา: ผัดถั่วลันเตากุ้งสด ข้าวอบถั่วลันเตา
ถั่วแดง: ถั่วแดงต้มน้ำตาล โมจิถั่วแดง ขนมปังถั่วแดง ซาลาเปาไส้ถั่วแดง (ไม่ควรหวานมาก)
อะโวคาโด: สลัดอะโวคาโด ยำอะโวคาโด อะโวคาโดสมูตตี้ แซนวิชอะโวคาโด
บล็อคโคลี่: ผัดบล็อคโคลี่กุ้ง บล็อคโคลี่ผัดน้ำมันหอย บล็อคโคลี่อบชีส ไข่ตุ๋นบล็อคโคลี่
เห็ดหอม: ข้าวผัดเห็ดหอม เห็ดหอมผัดน้ำมันหอย ตุ๋นมะระเห็ดหอม ผัดวุ้นเส้นใส่เห็ดหอม
👩⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩⚕️
ความคิดเห็น