เรียนก็เหนื่อย งานก็ยุ่ง เรื่องเที่ยวไม่มีขาด แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาคิดเรื่องกินอาหารให้บาลานซ์ได้ล่ะ มื้อนี้กินผักพอรึยังนะ วันนี้กินแป้งเยอะไปมั้ยเนี่ย และหลายๆ ครั้งมันก็กำหนดไม่ได้เนอะว่าจะได้กินอะไร… ‘การทานวิตามินเสริม’ ก็อาจจะเป็นตัวช่วยที่ดีได้นะคะ แน่นอนล่ะว่ามันช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ และที่สำคัญยังช่วยเสริมสารอาหารในส่วนที่ร่างกายขาดไปได้ แต่ๆๆ ถ้าคุณมั่นใจว่าในอาหารที่กินมีสารอาหารและวิตามินครบอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหาซื้อวิตามินมากินเพิ่มนะคะ เพราะถึงยังไงวิตามินที่ได้จากการกินอาหารโดยตรงคือเลิศที่สุดละ~
มาดูกันว่า วิตามินสำหรับคนเป็นสิวหรือคนที่ไม่อยากเป็นสิว (กินกันไว้ดีกว่าแก้!) มีอะไรบ้างนะ
วิตามิน B : แก๊งวิตามินบีตัวสำคัญๆ ที่ช่วยเรื่องสิวได้แก่ วิตามินบี1 บี2 บี5 บี6 เค้าทำงานเผาเผลาญไขมัน คุมมันบนหน้าให้สมดุล (น้ำมันพวกนี้คือของโปรดของสิวทั้งหลาย) และฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง สิวก็เกิดได้ยากขึ้นค่ะ
ปริมาณควรได้รับต่อวันเป็นอย่างน้อย :
วิตามิน C : งานบำรุงผิวต้องยกให้เค้า ด้วยคุณสมบัติ Antioxidant ของนาง ช่วยร่างกายต่อสู้กับอนุมูลอิสระตัวร้ายที่ก่อสิวและทำลายเซลล์ต่างๆ งานลดการอักเสบก็เก่ง ช่วยลดการสร้างเม็ดสีที่ทำให้เห็นเป็นรอยสิว รอยสิวก็ดูจางลง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมาเติมริ้วรอยและหลุมสิว ผิวเรียบเนียนกระชับขึ้น
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : อย่างน้อย 45 มก แต่ไม่ควรเกิน 2,000 มก
ซิงค์ (Zinc) : แร่ธาตุสุดปั๊วะที่มีประโยชน์กับผิวมากมาย ใช้รักษาโรคผิวหนังรวมทั้งปัญหาสิวได้ด้วย นางเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระตัวนึงเหมือนกัน ช่วยควบคุมฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเกิดสิว โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชาย Testosterone (ผู้หญิงเราก็มีฮอร์โมนตัวนี้อยู่น้า) ช่วยคุมการผลิตไขมันบนหน้า ลดการอักเสบนางก็ทำได้ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียก่อสิวได้ด้วยค่ะ เก่งครบเครื่องเรื่องปราบสิวสุดอะไรสุด!
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน : ไม่ควรเกิน 40 มก
ตัวอย่างอาหารที่มีวิตามินตามที่ว่ามา (ปริมาณวิตามินที่ได้รับคิดเป็นมิลลิกรัม ต่ออาหาร 100 กรัมนะคะ)
อย่าลืมว่า...การกินอาหารเพื่อรับวิตามินเนี่ย ต้องระวังของแถมที่ตามมาด้วยนะจ๊ะ เช่น กินส้มให้ได้วิตามินซี แต่กว่าจะได้ถึงปริมาณที่ต้องการก็ต้องรับน้ำตาลไปไม่รู้เท่าไหร่ หรือกินหอยนางรมเพิ่ม Zinc ก็อย่าลืมว่ามันอุดมไปด้วยคอลเลสเตอรอลจุกๆ เลยนะ
ดังนั้นไม่ว่าจะกินอาหารหรือวิตามินเสริมก็ตามแต่ ต้องระวังและบาลานซ์ให้ดีก่อนกินนะคะ เราเป็นห่วง~
ถ้าอาหารที่กินในแต่ละวันมีวิตามินและแร่ธาตุไม่พอจริงๆ ก็ลองดูอาหารเสริมเหล่านี้เป็นทางเลือกกันค่ะ
**คำเตือนอ่านฉลากให้ดี ที่สำคัญเด็ก/คนที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังตั้งท้อง ต้องปรึกษาหมอหรือเภสัชกรด้วยนะ**
■ Blackmores Exec B’S (60 เม็ด / ฿550)
วิตามิน blackmore แบรนด์ดังจากแดนจิงโจ้ที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ความน่าสนใจของตัวนี้คือเค้ารวมวิตามิน B, C และ zinc ตอบโจทย์คนเป็นสิวได้ในเม็ดเดียว~
ใน 1 เม็ดประกอบด้วย : Ascorbic Acid หรือวิตามินซี (180 มก), วิตามินบี1 (7.5 มก), บี2 (8.5 มก), บี3 (60 มก), บี5 (20 มก), บี6 (10 มก), บี12 (10 มก), Zinc Sulfate (180 มก) และอื่นๆ
■ Mega We Care Nat C (60 เม็ด / ฿545)
ถึงคิวแบรนด์วิตามินสัญชาติไทยที่ส่งออกไปทั่วโลกกันบ้าง ตัวนี้เป็นวิตามินซีขนาด 1,000 มก/เม็ด เราแนะนำว่าลองแบ่งทานครั้งละ 500 มก 2 เวลาจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีขึ้นนะคะ
ใน 1 เม็ดประกอบด้วย : Ascorbic Acid (400 มก), Sodium Ascorbate (350 มก), Calcium Ascorbate, Bioflavonoids, Rutin, Hesperidin, Rosa Canina, Malpighiapunicifolia (12.5 มก)
■ VISTRA Zinc 15mg (45 เม็ด / ฿215)
อีกหนึ่งแบรนด์อาหารเสริมของไทยที่ฮอตฮิตไม่แพ้แบรนด์อื่นๆ เค้าขึ้นชื่อเรื่องการใช่สารสกัดจากธรรมชาติ ตัวนี้เป็น zinc ขนาด 15 มก/แคปซูล นอกจากเก่งเรื่องสิวแล้วก็ขึ้นชื่อเรื่องบำรุงสุขภาพคุณผู้ชายได้ด้วยล่ะ
ใน 1 เม็ดประกอบด้วย : Zinc Amino Acid Chelate 20% (66.67 มก) และอื่นๆ
วิตามินที่ได้จากการกินมันกำหนดไม่ได้อ่ะเนอะว่าอยากให้มันไปทำงานตรงไหน เพราะงั้นถึงควรจะมีสกินแคร์ดีๆ ทาควบคู่กันไปด้วย ถึงจะช่วยให้สิวหายไวขึ้นชัวร์ๆ แบบตรงจุด!
■ The Labatorian Agnéss The All-Rounded Acne Solution (15 ml / ฿589)
เซรั่มสำหรับผิวเป็นสิวทุกประเภท ช่วยลดอาการอักเสบ สิวก็จะหายไวขึ้น คุมความมันบนหน้าให้สมดุล เติมความชุ่มชื้นฟื้นฟูหเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ให้แข็งแรง อุดมไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยนไม่ระคายเคือง ไม่ทำให้อาการสิวที่เป็นอยู่แย่ลง ได้ผิวเรียบเนียนใส สิวไม่กลับมาเป็นซ้ำง่ายๆ อีกต่อไป
ความคิดเห็น