ดื่มกาแฟอะไรดี? 7 กาแฟยอดฮิตแต่ละชนิดมีน้ำตาลเท่าไร

เมื่อพูดถึง “กาแฟ” ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากมาย จนเรียกได้ว่าต้องดื่มกันทุกวันเลยทีเดียว ชีวิตขาดกาแฟไม่ได้เลย เพราะด้วยความหอมและรสชาติที่มีเอกลักษณ์ก็ทำให้ใครหลายคนหลงใหลและเลือกที่จะดื่มกาแฟกันได้ไม่ยากเลย ปัจจุบันนี้ก็มีกาแฟสำเร็จรูปออกมามากมาย ล้วนมีกลิ่นหอมเย้ายวน กับรสชาติที่แสนกลมกล่อม ทำให้ยากต่อการอดใจดื่มกาแฟ ในบทความนี้จึงอยากจะชวนมาดูกันหน่อยว่ากาแฟสำเร็จรูปแบรนด์ยอดฮิตหลาย ๆ แบรนด์ จริง ๆ แล้วมีน้ำตาลเท่าไหร่ และให้พลังงานมากแค่ไหน เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อกัน อีกทั้งกาแฟเซเว่น กาแฟยอดฮิตมีอะไรบ้างในปี 2023 ชอยซ์ได้รวบรวมมาให้แล้ว อ่านได้ที่นี่เลย

 

ทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย

• ประโยชน์ของกาแฟ

• กาแฟช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?

• ประเภทของกาแฟ แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

• ส่วนประกอบตัวร้ายในกาแฟ

• 7 กาแฟยอดฮิตใน 7-11 แต่ละชนิดมีน้ำตาลเท่าไร

• Birdy Black Zero

• เพรียว ออริจินัล

• Nescafe Latte

• CHAME Sye Coffee Pack Coffee Mix Powder

• Arabus RTD Coffee Caramel Macchiato

• KOPIKO Lucky Day

• คาราบาว เอสเปรสโซ

 

---

 

ประโยชน์ของกาแฟ

สิ่งที่ทำให้กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมนั้น ไม่ได้มาจากกลิ่นหรือรสชาติของกาแฟเท่านั้น แต่ยังมาจากประโยชน์ที่ผู้ดื่มจะได้รับจากกาแฟด้วย โดยคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟเป็นสิ่งที่สามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้สามารถสร้างความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเหตุผลที่ใครหลาย ๆ คน ขาดการดื่มกาแฟในยามเช้าไม่ได้นั่นเอง

 

นอกจากนั้นแล้วในกาแฟยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากมาย โดยสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหลายก็สามารถช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ และช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคมะเร็ง หรือว่าโรคหัวใจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามการดื่มกาแฟก็ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ดื่มแล้วได้รับคุณประโยชน์จากกาแฟอย่างแท้จริง  เพราะกาแฟบางชนิดก็มีน้ำตาลและครีมเทียมในปริมาณมาก ซึ่งอาจเป็นส่วนผสมตัวร้ายที่ทำลายสุขภาพได้เช่นกัน

 

กาแฟช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?

หลายคนอาจสงสัยว่ากาแฟช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยหรอ? จริง ๆ แล้วกาแฟอาจไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้โดยตรง เพราะการลดน้ำหนัก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการกิน และการออกกำลังกาย เป็นต้น แต่การดื่มกาแฟจะมีกรดคลอโรจีนิค (Chlorogenic acid) เป็นสารสำคัญที่พบมากในกาแฟ สารนี้มีประโยชน์ในการเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย ช่วยลดการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต และลดการสะสมไขมัน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการสะสมไขมันในตับด้วย จึงมีผลช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังคงต้องคุมปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วยเช่นกัน และหากทานกาแฟเพื่อช่วยลดไขมัน ควรทานเป็นกาแฟดำเท่านั้น หากทานกาแฟสูตรผสมที่เพิ่มความอร่อยแล้ว อาจมีส่วนประกอบตัวร้ายในกาแฟแฝงอยู่ จะยิ่งทำให้อ้วนยิ่งกว่าเดิม

 

ประเภทของกาแฟ แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร

กาแฟที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบมาก ๆ โดยกาแฟแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งประเภทของกาแฟหลัก ๆ จะมีดังต่อไปนี้

• เอสเปรสโซ่ (Espresso) เป็นกาแฟดำที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลเลย รสชาติจึงมีความเข้มข้นมากกว่ากาแฟชนิดอื่น ๆ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟแบบเข้ม ๆ

• คาปูชิโน่ (Cappuccino) เป็นกาแฟดำที่เพิ่มส่วนผสมของน้ำและฟองนมเข้าไป เพื่อที่จะทำให้กาแฟมีรสชาติที่ละมุนมากยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นรสชาติของกาแฟก็ยังมีความเข้มข้นอยู่

• มอคค่า (Mocha) เป็นกาแฟดำที่เพิ่มส่วนผสมของนมและดาร์กช็อกโกแลตเข้าไปด้วย รสชาติที่ออกมาจึงมีความหอมนัวและมีกลิ่นของช็อกโกแลตแทรกมาด้วย

• ลาเต้ (Latte) เป็นกาแฟดำที่ผสมนมและคาราเมลเข้าไปด้วย รสชาติที่ได้จึงความหอมละมุนเป็นอย่างมาก แถมยังดื่มง่ายเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกาแฟแบบเข้ม ๆ หรือคนที่เพิ่งหัดดื่มกาแฟ

• อเมริกาโน่ (Americano) เป็นกาแฟดำผสมกับน้ำ ความเข้มข้นของกาแฟแม้จะไม่เท่ากับเอสเปรสโซ่แต่ก็ถือว่าเข้มใช้ได้เลย

 

ส่วนประกอบตัวร้ายในกาแฟ

ภายในกาแฟมีส่วนประกอบหลาย ๆ อย่างที่ไม่ได้มีแค่ข้อดีเท่านั้น แต่กาแฟบางประเภทก็มีส่วนประกอบบางอย่างที่หากดื่มมากเกินไปก็อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟที่มีส่วนผสมของครีมเทียมและน้ำตาลในปริมาณที่สูง แน่นอนว่าส่วนผสมเหล่านี้ช่วยให้กาแฟมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้นก็จริงแต่ก็แลกมาด้วยผลเสียต่อร่างกายที่จะตามมาในภายหลัง เช่น ทำให้ฟันผุ หน้าหย่อนคล้อย เป็นสิว น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ระดับไขมันในเลือดสูงขึ้น และหากทานเป็นประจำก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาในอนาคตได้

 

 7 กาแฟยอดฮิตใน 7-11 แต่ละชนิดมีน้ำตาลเท่าไร

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าปัจจุบันนี้มีกาแฟสำเร็จรูปยอดฮิตอยู่หลากหลายแบรนด์เลย  แต่ละแบรนด์นอกจากที่จะมีรสชาติและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันแล้ว ปริมาณน้ำตาลรวมถึงพลังงานที่จะได้รับจากกาแฟก็ไม่เท่ากันด้วย มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละแบรนด์กาแฟ 7-11 เป็นอย่างไรกันบ้าง

 

 1. Birdy Black Zero

กาแฟสำเร็จรูปจากแบรนด์ดัง กาแฟเซเว่นที่คร่ำหวอดมานานในวงการกาแฟ โดยผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีความหอมของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่ผ่านการคั่วบดมาเป็นอย่างดี ทำให้รสชาติของกาแฟมีความเด่นชัด เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่เป็นคอกาแฟดำ

พลังงาน : 10 Kcal

จุดเด่น

• ไม่มีน้ำตาล ไม่มีครีมเทียม

• มีความหอมของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100%

• ราคาถูก หาซื้อง่าย

• ช่วยเผาผลาญไขมัน

รูปแบบ : เป็นกาแฟกระป๋อง

ราคา/ขนาด : 15 บาท/180 มล.

 

 

2. เพรียว ออริจินัล

กาแฟเซเว่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีให้เลือกหลากหลายสูตรทั้งสูตรออริจินัล สูตรกลูตาไธโอน และสูตรพลัส สำหรับสูตรออริจินัลจะเหมาะมากกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือต้องการที่จะลดน้ำหนัก  มีส่วนผสมสำคัญอย่างโครเมียม ที่ช่วยลดความอยากอาหารได้ เนื่องจากสารนี้จะมีผลต่อระบบประสาทและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบควบคุมความอยากอาหาร จึงทำให้ความอยากกินอาหารต่าง ๆ ลดลง

พลังงาน : 50 Kcal ต่อ 1 ซอง

จุดเด่น

• กาแฟสำเร็จรูปช่วยคุมหิว

• ไม่มีน้ำตาล ไม่มีคอเลสเตอรอล

• มีสารที่ช่วยลดความอยากอาหาร

รูปแบบ : เป็นกาแฟซองชงน้ำร้อน

ราคา/ขนาด : 60 บาท (ปริมาณ 7 ซอง/ห่อ ซองละ 12 กรัม)

 

 3. Nescafe Latte

Nescafe Latte เป็นกาแฟลาเต้สำเร็จรูป กาแฟเซเว่นยอดนิยมของทางเนสกาแฟเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยรสชาติที่กลมกล่อม ดื่มง่าย และกลิ่นที่หอมละมุน ทำให้ใคร ๆ ที่ดื่มก็หลงใหลในรสชาติของกาแฟนี้ได้ไม่ยากเลย ความอร่อยนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าอาจจะต้องแลกมาด้วยการมีส่วนผสมของไขมันรวม 4% คอเลสเตอรอล 3% และคาร์โบไฮเดรต 4% ดังนั้นกาแฟนี้ไม่สามารถช่วยคุมน้ำหนัก หรือลดไขมันใด ๆ ได้ จึงควรทานเพียงเล็กน้อยในประมาณที่เหมาะสม

พลังงาน : 80 Kcal (มีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 3.9%)

จุดเด่น

• รสชาติอร่อย กลมกล่อม หอมมัน ทานง่าย

• ช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ด้วยมีรสชาติละมุนใจ

• หาซื้อง่าย ราคาย่อมเยาว์

รูปแบบ : เป็นกาแฟกระป๋อง

ราคา/ขนาด : 15 บาท /180 มล.

 

 

4. CHAME Sye Coffee Pack Coffee Mix Powder

แม้จะเป็นกาแฟซอง แต่ก็มีรสชาติกลมกล่อม กลิ่นกาแฟชัด แถมยังดื่มง่าย ใครที่เพิ่งหัดดื่มกาแฟก็สามารถทานได้ อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงร่างกายอย่างสารสกัดชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนเปปไทด์ สารสกัดจากถั่วขาว และตังกุย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ที่ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของร่างกายได้

พลังงาน : 60 Kcal ต่อ 1 ซอง

จุดเด่น

• รสชาติทานง่าย กลมกล่อม

• มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงร่างกาย เช่น คอลลาเจนเปปไทด์ สารสกัดจากถั่วขาว และตังกุย

• มีสารโครเมียมที่ช่วยลดความอยากอาหาร

• มีไฟเบอร์ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

• ไขมันชนิดทรานส์ 0% ไม่เติมน้ำตาลทราย

รูปแบบ : เป็นกาแฟซองชงน้ำร้อน

ราคา/ขนาด : 49 บาท (ปริมาณ 4 ซอง/ห่อ  ซองละ 15 กรัม)

 

 5. Arabus RTD Coffee Caramel Macchiato

Arabus RTD Coffee Caramel Macchiato กาแฟสำเร็จรูปของดัชมิลล์ เป็นกาแฟยอดฮิตที่หลายคนดื่มแล้วติดใจ แถมยังมาพร้อมกับสารอาหารที่ครบถ้วนจากนมโคที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี

พลังงาน : 150 Kcal (มีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 7%)

จุดเด่น

• รสชาติทานง่าย กลมกล่อม มีความหอมของเมล็ดกาแฟคั่วเข้มข้น

• หอมอบอวนด้วยคาราเมล ไซรับ

• มีความหอมมันและได้รับประโยชน์จากนมโค

รูปแบบ : เป็นกาแฟแก้ว

ราคา/ขนาด : 39 บาท/ 200 มล.

 

 6. KOPIKO Lucky Day

KOPIKO Lucky Day เป็นแบรนด์ลูกอมกาแฟในตำนาน เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน แบรนด์นี้เขามีกาแฟสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งตัว เป็นที่ถูกใจของใครหลาย ๆ คนแน่นอน โดยเฉพาะสายหวานที่ชอบกาแฟดื่มง่าย ด้วยรสชาติที่ทำออกมาจะยังมีกลิ่นของกาแฟแต่ไม่ได้เข้มข้นมากจนเกินไป ผสมเข้ากับครีมและนม ทำให้กาแฟมีความหอมละมุนเข้ากันแบบสุด ๆ

พลังงาน : 120 Kcal (มีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่  14 กรัม)

จุดเด่น

• รสชาติกลมกล่อม มีความหอมหวาน

• รสชาติไม่เข้มข้นมาก เหมาะกับคนชอบกาแฟคั่วอ่อน-กลาง

• เป็นกาแฟที่ทานง่าย เหมาะกับคนเริ่มทานกาแฟ

รูปแบบ : เป็นกาแฟขวด

ราคา/ขนาด : 39 บาท/ 180 มล.

 

 

 7.  คาราบาว เอสเปรสโซ

กาแฟเซเว่นคาราบาว เอสเปรสโซ เป็นกาแฟสำเร็จรูปอีกหนึ่งตัวที่อยากแนะนำ และถือว่าเป็นตัวที่หลายคนให้ความสนใจกันด้วย เพราะรสชาติของกาแฟทำออกมาได้ดี มีความเข้มข้น กลมกล่อม ได้กลิ่นกาแฟอย่างชัดเจน

พลังงาน : 100 Kcal (มีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่  17 กรัม)

จุดเด่น

• รสชาติกลมกล่อม มีความหอมกาแฟคั่วเข้ม

• ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและคลายความง่วง

• รสชาติหอม มัน นัว

รูปแบบ : เป็นกาแฟกระป๋อง

ราคา/ขนาด : 20 บาท/ 180 มล.

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คงจะช่วยทำให้เข้าใจกันได้มากขึ้นแล้วว่ากาแฟมีประโยชน์และมีโทษอย่างไรบ้าง รวมถึงแบรนด์กาแฟแต่ละแบรนด์ที่ทำกาแฟสำเร็จรูปออกมาขายนั้นมีการใส่ส่วนผสมของน้ำตาลไปมากน้อยขนาดไหน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ใช้ในการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อนั่นเอง แม้กาแฟจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำตาล และครีมเทียม ในปริมาณมาก ๆ ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน ชอยซ์เลยอยากให้ทุกคนเช็กให้ชัวร์ก่อนดื่มกาแฟ ว่ากาแฟแบบไหนควรดื่มเป็นบางครั้ง หรือจะเลือกกาแฟแบรนด์ไหนเพื่อดื่มเป็นประจำดี ที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ คงได้คำตอบกันแล้วในบทความนี้

 

---

 

Reference

• Chlorogenic acid exhibits anti-obesity property
• 9 Unique Benefits of Coffee
• Effects of Chromium Picolinate on Food Intake and Satiety
• 7 Reasons You Should Never Drink Coffee Creamer