เติมวิตามินซีให้ผิวอยู่ทุกวัน แต่รู้มั้ยว่าทำไมถึงควรมีวิตามินซีในรูทีน (ที่นอกจากกินเป็นวิตามินเสริม ทาบนผิวก็เริ่ดมากเลยนะ) วันนี้ Choicechecker จะมาสับความรู้ สรุปเป็นคัมภีร์วิตามินซีให้อ่านกัน (อ่านแล้วใช้ถูกแน่นอน) รวมทุกสิ่งที่ต้องรู้ก่อนใช้ ‘เซรั่มวิตามินซี’ ถ้าพลาดแล้วอาจจะทำให้สิ่งที่ทาไปเสียเปล่า ไม่ได้ผลแถมยังเสียเงินฟรี! (ตามไปอ่านคัมภีร์วิตามิน A)
เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจเลย
ส่วนผสมผิวสวยเจ้าแม่แห่งวงการ Antioxidant กินเข้าไปก็ดี ทาบนผิวก็เริ่ด~
วิตามินซีบริสุทธิ์ หรือ L-Ascorbic Acid (จะเจอชื่อนี้ได้ในรายการส่วนผสมหลังกล่อง) เป็นส่วนผสมที่มีงานวิจัยเยอะสุดๆ ไม่ได้เยอะอย่างเดียว น่าเชื่อถือมากด้วย
เพราะงานวิจัยทำโดยผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายไม่ใช่แค่ผู้ผลิตส่วนผสม มีงานทดลองจริงบนผิวมนุษย์มานานแล้ว หลายงานก็ทดสอบกันนานหลายสิบปี เก็บผลอย่างชัดเจน มีงานวิจัยรับรองประสิทธิภาพตรงกันหลายฉบับ!
สรุป L-Ascorbic Acid คือวิตามินซีที่น่าเชื่อถือที่สุด เหมาะกับทุกช่วงที่ต้องการสารต้านอนุมูลอิสระไว้ในรูทีน ตั้งแต่วัยรุ่น-คนสูงวัยก็ควรได้ใช้ เพราะประสิทธิภาพดีกับผิวหลายด้าน
1 ป้องกันผิวเหี่ยวแก่ - ต้านอนุมูลอิสระ
2 อัพผิวกระจ่างใสขึ้น - ลดการสร้างเม็ดสีผิว
3 ฟื้นฟูผิวลดริ้วรอย - กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
วิธีใช้วิตามินซี & ความเรื่องเยอะของวิตามินซี(บริสุทธิ์)!
วิตามินซีน่าใช้ ข้อดีเพียบ เห็นแล้วอยากพุ่งตัวไปซื้อมาทาเดี๋ยวนี้เลย แต่ข้อเสียของนางก็โหดไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ความไม่สเถียร เป็นส่วนผสมที่เล่นตัวเก่งสุดๆ เสื่อมประสิทธิภาพง่าย ไม่ชอบน้ำ ไม่ชอบโลหะ ไอออน ไม่ชอบอากาศ ไม่ชอบแสง ทำสูตรยากกว่าจะออกมาเสถียรจนใช้งานได้ แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องเวลาสินค้าวางขายบนเชฟล์นานไม่ได้ ลูกค้าซื้อไปก็ต้องรีบใช้ให้หมดหลังเปิด หรือบางเจ้าก็ทำแพคเกจจิ้งอลังการงบบานเบอะเพื่อแยกวิตามินซีออกจากเนื้อผลิตภัณฑ์ ทำให้สกินแคร์วิตามินซีมีราคาสูงงง ถึงเงื่อนไขในการใช้จะเยอะ แต่ถ้ารู้ไว้จะทำให้คุณใช้วิตามินซีได้ดีขึ้น ดึงประสิทธิภาพของนางออกมาใช้อย่างคุ้มค่าทุกหยด! ได้ผลลัพธ์ตรงกับที่ต้องการ
-ไม่ชอบน้ำ เซรั่มวิตามินซีที่ดีควรมีเบสเป็นน้ำมัน ทำให้ไม่เสียง่าย เช่นเบสเป็น Glycol, Silicone
-ไม่ชอบโลหะ ไม่ชอบไอออน ควรมีสาร Chelating Agents เป็นสารจับพวกไอออน โลหะหนัก เช่น Disodium EDTA
-ไม่ชอบอากาศ ไม่ชอบแสง เลือกแพคเกจจิ้งที่ทึบแน่น กันแสงยูวี กันอากาศเข้าได้ดี
-ไม่เสถียร ควรมีสาร Stabilizers เป็นสารเพิ่มความคงตัวและช่วยทำให้วิตามินซีที่ Oxidized ไปแล้ว(เสื่อมฤทธิ์)เปลี่ยนกลับมาใช้งานได้อีก เช่น วิตามิน E, Ferrulic Acid
-การซึมเข้าผิวก็ไม่ง่าย ต้องพึ่งพาการทำสูตรที่ดีหรือมีเทคโนโลยีช่วยให้โมเลกุลเล็กลงจะได้ซึมง่ายขึ้น
-ชอบความเป็นกรด คงตัวที่ค่า pH 3.5 ในเซรั่มวิตามินซีจะมีสารปรับค่า pH ให้เป็นกรด เช่น Citric Acid เวลาที่ทาไปผิวก็จะปรับสภาพให้มีความเป็นกรด
วิตามินซีถึงจะทำงานได้ ทำให้รู้สึกแสบตอนใช้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ(ถ้าใช้กระดาษลิตมัสวัดแล้วไม่เป็นกรด แสดงว่าเซรั่มวิตามินซีตัวนั้นบ้ง)
ความเข้มข้นของ L-Ascorbic Acid ที่เห็นผลตามงานวิจัยอยู่ที่ 5-20%
ดึงประสิทธิภาพสูงสุด ต้องไม่เสียแรงทาเปล่าๆ ไม่เสียตังฟรี!
1.ทาวิตามินซีแล้วควรทาครีมกันแดดด้วยเสมอ เซรั่มวิตามินซีส่วนใหญ่จะมีสารปรับค่า pH บนผิวให้เป็นกรดสูง(เพราะวิตามินซีจะทำงานไม่ได้ถ้าไม่เป็นกรด)
เช่น Citirc Acid สารพวกนี้อาจจะกัดกร่อนผิวได้ถ้าเจอแสงแดดกระตุ้น ทำให้ผิวเบิร์นแดงคล้ำขึ้น แต่ถ้าทาครีมกันแดดก็จบ ใช้ได้ไม่มีปัญหา
2.ทาเซรั่มวิตามินซีตอนเช้าแล้วควรทาครีมกันแดดให้เพียงพอ จะช่วยเสริมการทำงานในการปกป้องผิวจากความเสียหายของรังสี UV ได้ (ครีมกันแดดแนะนำให้เลือกที่น่าเชื่อถือและปกป้องผิวดีๆ)
3.เก็บเซรั่มวิตามินซีไว้ในที่แห้งและเย็น อากาศบ้านเราส่วนใหญ่ร้อนอบอ้าว ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆเก็บในตู้เย็นชั้นธรรมดาก็ได้
4.คอยเช็คเนื้อเซรั่มเสมอ หลังเปิดใช้ให้คอยดูความผิดปกติของเนื้อเซรั่ม ถ้ามีการเปลี่ยนสีเข้มผิดปกติ หรือมีตะกอนก็ไม่ควรใช้ต่อ เซรั่มตัวนั้นอาจเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว
1.ไม่ควรใช้วิตามินซีร่วมกับเรตินอยด์หรือส่วนผสมกลุ่มวิตามินเอ ผลลัพธ์จะหักล้างกัน เพราะค่า pH ต่างกัน ใช้ได้เฉพาะกับวิตซีที่เป็นเบส อย่าง AA2G เท่านั้น
2.ไม่ควรใช้วิตามินซีร่วมกับกรดผลัดเซลล์ผิว AHA/BHA
3.เก็บขวดวิตามินซีให้มิดชิด อย่าวางตากแดด อย่าอยู่ในที่ร้อนๆ
4.ห้ามเปิดฝาขวดทิ้งไว้ เปิดใช้แล้วรีบปิดพยายามอย่าให้อากาศเข้าขวด เดี๋ยววิตามินบูด
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วท้อ…พอแล้ววิตามินซงวิตามินซี ถ้ามันจะใช้ยากนักไม่ทาก็ได้!
หยุดดูทางนี้ก่อนค่ะ ทางเลือกที่เกิดมาเพื่อแก้ไขความรุงรังของวิตามินซีบริสุทธิ์แบบเดิมๆ เสถียรกว่า ใช้แล้วแสบผิวน้อยกว่า ราคาถูกกว่า ใช้ง่ายไม่ยุ่งยากนั่นก็คือ อนุพันธ์วิตามินซี
ลูกหลานของวิตามินซี ที่เกิดจากการที่นักวิจัยจับวิตามินซีบริสุทธิ์มาเล่นแร่แปรธาตุจนได้เป็น รูปฟอร์มแบบใหม่ของวิตามินซีที่มีความเสถียรมากขึ้น เรียกรวมๆว่า อนุพันธ์วิตามินซี / Vitamin C Derivatives ออกลูกออกหลานมาอีกหลากหลายชนิด
ความแตกต่างของวิตามินซีบริสุทธิ์ VS อนุพันธ์วิตามินซี คือ ประสิทธิภาพที่ไม่ดีเท่าวิตามินซีตัวแม่ เข้มข้นน้อยกว่า งานวิจัยรับรองยังมีน้อย ยังไม่ได้ทดสอบบนผิวมนุษย์จริง สรุปก็คืองานวิจัยของอนุพันธ์วิตามินซียังไม่น่าเชื่อถือเท่าวิตามินซีบริสุทธิ์นั่นเอง
■ เซรั่มวิตามินซีที่คนพูดถึงมากที่สุด - รีวิว Mesoestatic AOX Ferulic (30ml /฿4,690)
ตำแหน่งนี้ขอยกให้เซรั่มบุฟเฟต์สารลดอนุมูลอิสระสุดปัง 15% วิตามิน C + 0.5% Ferulic Acid + 1.5% Pro-Tech Cell Complex ช่วยอัพประสิทธิภาพวิตามินซีให้ไปสุดทุกด้าน
ตามไปช้อป: คลิกที่นี่
■ เซรั่มวิตามินซีที่คุ้มค่าที่สุด - รีวิว Rohto Melano CC Essence (20ml / ฿480)
เซรั่มเมลาโนซีซี เจ้าเดียวกับบริษัท Hadalabo เพราะงั้นไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพจ้า เหมาะกับสายประหยัด รักแพคเกจจิ้งที่กันแสงกันอากาศได้ดี ส่วนผสมก็ดูดีมีวิตามิน C บริสุทธิ์ + Tetrahexyldecyl Ascorbate(THD) + วิตามิน E แต่ข้อเสียคือแบรนด์ไม่ยอมบอก % ความเข้มข้นมา มีแอลกอฮอล์เยอะ และมีน้ำหอม แต่ก็เป็นตัวที่หาซื้อง่าย ราคาน่ารัก
ตามไปช้อป: คลิกที่นี่
■ เซรั่มวิตามินซีที่เข้มข้นที่สุด - รีวิว Timeless Skin Care 20% Vitamin C Plus E Ferulic Acid Serum (30ml / ฿790)
อย่างที่บอกว่าความเข้มข้นสูงสุดของ L-Ascorbic Acid ตามงานวิจัยคือ 20% (เกินกว่านี้ไม่จำเป็น) เราก็เลยเลือกเซรั่มของ Timeless Skin Care ตัวนี้เป็นเหมือน dupe ของ SkinCeuticals เลยเพราะมีทั้ง วิตามิน C + Ferulic Acid + วิตามิน E แต่ให้ความเข้มข้นวิตามินซีมาสูงกว่า ไม่เหมาะกับคนผิวบอบบางแพ้ง่าย
ตามไปช้อป: คลิกที่นี่
■ เซรั่มวิตามินซีในตำนาน - รีวิว Kiehl’s Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate 12.5% Vitamin C (50ml / ฿3,200)
จะไม่ให้เป็นตำนานได้ยังไงก็วางขายมากว่า 17 ปี เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2005 ทุกวันนี้ยังสินค้าขายดีของคีลส์อยู่เลย เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น 10.5% วิตามิน C + 2% Ascorbyl Glucoside(AA2G) + ไฮยาลูรอน เนื้อเหนียวเกาะผิว มีน้ำหอม ขวดใหญ่จุใจแต่ต้องรีบใช้ให้ทันก่อนวิตามินซีหมดอายุนะ
ตามไปช้อป: คลิกที่นี่
■ ครีมวิตามินซีสำหรับผิวแพ้ง่าย - รีวิว Mad Hippie Triple C Night Cream (60ml / ฿1,680)
ไนท์ครีม Mad Hippie ตัวนี้ละมุนผิวมาก เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มใช้วิตามินซีหรือผิวแพ้ง่ายไม่อยากเสี่ยงกับเซรั่มเข้มข้น ส่วนผสมหลักเป็นอนุพันธ์วิตามินซี 3 ชนิด Tetrahexyldecyl Ascorbate(THD) + Magnesium Ascorbyl Phosphate(MAP) + Ascorbyl Glucoside(AA2G) แต่ละตัวมีความอ่อนโยนและเสถียรดี
ตามไปช้อป: คลิกที่นี่
■ เซรั่มวิตามินซีสำหรับผิวเป็นสิว - รีวิว Clinique Fresh Pressed Daily Booster with Pure Vitamin C 10% (Set / ฿2,290)
เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับช่วงที่เป็นสิว ไม่ต้องกังวลกับการอุดตันหรือวิตามินซีในขวดจะเสื่อมประสิทธิภาพตอนไหน เพราะแพคเกจจิ้งวิตามินซีคลีนิกซ์เค้าล้ำตลอด มีผงวิตามินฟรีซดรายแยกมาให้ใช้ผสมในเซรั่ม/ครีมที่ใช้อยู่ แค่ผสมเบาๆก็ได้ใช้วิตามิน C 10% คั้นสดพร้อมเสิร์ฟในปริมาณกำลังดี
ตามไปช้อป: คลิกที่นี่
👩⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩⚕️
ข้อมูลอ้างอิงงานวิจัยเกี่ยวกับวิตามินซี
ความคิดเห็น