เทรนด์ที่กำลังมาแรงของสกินแคร์ยุคนี้จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก Microbiome หรือไม่ก็ Probiotic บ้างล่ะ ได้ยินแว๊บๆ ว่ามันคือแบคทีเรียหรือยีสต์ แล้วเราจะกล้าเอาตัวอะไรพวกเนี้ยมาปล่อยบนผิวจริงๆ หรอคะ? ปลอดภัยแน่ป่าว พวกเราจะไม่เป็นไรใช่มั้ย?
‘ผิว’ เป็นเกราะปกป้องอวัยวะในร่างกายจากการบุกรุกของเชื้อโรคหรือสารพิษที่ไม่หวังดี และถ้าซูมให้ลึกลงไปจะเห็นว่าในทุกอณูของผิวและร่างกายเรามีสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วอาศัยอยู่ แค่มองไม่เห็นด้วยตาที่เรียกว่า Microbiome (ไมโครไบโอม) ซึ่งเป็นชื่อเรียกรวมๆ ของจุลินทรีย์ได้แก่แบคทีเรีย รา ไวรัสทั้งที่มีและไม่มีประโยชน์กับเรา แล้วก็ไม่ได้ต่างคนต่างอยู่นะ แต่มีการพึ่งพาอาศัยกันและก็พึ่งพากับผิวเราด้วย ไมโครไบโอมบนผิวรับบทบาทสำคัญในการยับยั้งการก่อตัวของเชื้อโรคที่พยายามจะบุกเข้ามา คอยเป็นเทรนเนอร์ให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรงขึ้น ป้องกันการแพ้และการอักเสบต่างๆ และรู้หรือไม่ว่าไมโครไบโอมของพวกเราแต่ละคนมีจำนวนก็ไม่เท่ากัน มีความเฉพาะตัวของใครของมันเหมือนกับเป็นลายนิ้วมือเลยค่ะ แต่จำนวนของเค้าเปลี่ยนได้เรื่อยๆ นะ ส่วนใหญ่จะลดลงตามมลภาวะที่เจอ อายุ ฮอร์โมน หรือไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป
ถ้าไมโครไบโอมเหล่านี้อยู่ร่วมบนผิวเราอย่างสมดุลก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อไหร่ที่ดูแลร่างกายไม่ดี พวกนางจะค่อยๆ ลดจำนวนลงหรือมีชนิดใดชนิดหนึ่งเด่นขึ้นมา ทำให้ผิวของเราก็อ่อนแอลง เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา เช่นสิว ผดผื่นคัน หรือแม้แต่โรคผิวหนังหลายๆ ชนิดเลยล่ะ
เพราะไมโครไบโอมเป็นอีกทางสำคัญที่จะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง อยากให้เลิกมองว่าไมโครไบโอมคือผู้ร้ายอย่างเดียว เป็นแค่เชื้อโรคที่ต้องฆ่าเชื้อให้เกลี้ยง ทั้งที่จริงๆ แล้วการคลีนเกินไปกลับทำให้เราอ่อนแอลง เปลี่ยนมารักษาสมดุลระหว่างผิวของเรากับไมโครไบโอมดีกว่าค่ะ ซึ่งคือหัวใจสำคัญของ Skin Wellbeing คอนเซปใหม่ของผิวเฮลท์ตี้อย่างแท้ทรู
Microbiome หรือ Probiotic Skincare เป็นคำที่อาจทำให้ผู้บริโภคแบบเราเข้าใจผิด คิดว่าเค้าใส่จุลินทรีย์ตัวเป็นๆ เข้ามาในสกินแคร์ได้จริง และหวังให้มันไปเจริญเติบโตบนผิวเราได้ (Probiotic เป็นชื่อเรียกของจุลินทรีย์ชนิดที่ดีต่อร่างกาย)
ดังนั้นคำตอบก็คือ ยังเป็นไปได้ยากอยู่ค่ะ ด้วยข้อจำกัดของการทำสกินแคร์ที่ไม่สามารถบรรจุสิ่งมีชีวิตไว้ได้ แค่เพาะเลี้ยงในห้องทดลองยังยากเลย กว่าจะผ่านกระบวนการผลิตอีกไม่รู้จะเหลือรอดสักเท่าไร และทางแบรนด์ก็ไม่ได้อยากให้มีสิ่งมีชีวิตในนั้นหรอก ไม่งั้นอายุการใช้งานมันอาจจะสั้นมาก (เค้าถึงใส่สารกันบูด หรือใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดการสัมผัสแสงหรืออากาศไง) หรือถึงจะใส่จุลินทรีย์ในสกินแคร์ได้จริง ก็ยังไม่รู้ว่าใส่เท่าไรถึงพอดีหรือปลอดภัย และไม่ชัวร์ว่าตัวที่เติมไปเหมาะกับผิวเราจริงมั้ย? เพราะยังไม่หลักฐานที่ฟันธงว่า ไมโครไบโอมตัวไหนดี-ร้าย งานวิจัยเรื่องนี้ยังถือว่าใหม่อยู่ ข้อมูลยังไม่นิ่งพอ
งั้นที่อยู่ในสกินแคร์คืออะไร? ความจริงแล้วเค้าใช้ส่วนผสมที่ผ่านการหมักด้วย ไมโครไบโอมหรือใช้สารที่สกัดมาจากยีสต์หรือแบคทีเรีย ถามว่าส่วนผสมแบบนี้มีประโยชน์กับผิวมั้ย? ก็ตอบเลยว่าเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์กับผิวได้ เช่น บางชนิดเป็น Antioxidant บางชนิดลดการอักเสบหรือระคายเคือง ไว้เด๋วจะมาพูดต่อในหัวข้อถัดๆไปนะคะ
ถ้าอยากเติมสารอาหารผิวจากจุลินทรีย์ตัวน้อยบ้าง เราจัดให้! ข้อมูลส่วนผสมทั้งหมดนี้เราอ้างอิงมาจากฉลากของผลิตภัณฑ์เค้านะคะ นี่คือแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดและเข้าถึงได้ง่ายสุดสำหรับผู้บริโภคแล้วอ่ะเนอะ
• Biotherm Life Plankton™ Essence
• La Roche-Posay Lipikar Balm AP+ Intense Repair Body Cream
• Lancome Advanced Génifique Serum
• Ren Clean Skincare Keep Young And Beautiful Firming and Smoothing Serum
• Lancome Advanced Génifique Serum
• Estee lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex
• Graymelin Bifida Fermentation Serum
• L’Oreal Paris Youth Code Skin Activating Ferment Pre-Essence
• Missha Time Revolution The First Treatment Essence Intensive
• SK-II Facial Treatment Essence
• Graymelin Galactomyces Ferment Filtrate Serum
• Missha Time Revolution The First Treatment Essence Intensive
Note : ศัพท์ใหม่มาอีกแล้ว Extract, Lysate, Filtrate คืออะไรบ้างอะ?
• Lysate เป็นการเอาจุลินทรีย์ไปผ่านกระบวนการต่างๆ ทำให้เชื้อนั้นสลายตัวเพื่อเก็บสารต่างๆ ที่อยู่ในนั้น
• Extract คือสารที่ได้จากการสกัดส่วนผสมนั้น อาจจะมีได้หลากหลายชนิด เช่น ในสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ 1 ดอก มีทั้งสารช่วยลดอักเสบ สารให้ความชุ่มชุ่ม และอื่นๆ เป็นต้น
• Filtrate เป็นน้ำหมักยีสต์ที่ผ่านการกรอง คล้ายๆ การผลิตเบียร์ คือเอาข้าวผสมกับน้ำแล้วหมักด้วยยีสต์ จากนั้นกรองออกมาเหลือแต่น้ำใสๆ ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์
Vitreoscilla Filiformis คือชื่อชนิดของแบคทีเรีย
Extract (สารสกัด) คือประเภทของส่วนผสม
Faex (Yeast) Extract
Faex/Yeast หมายถึงยีสต์
Extract (สารที่สกัดจากยีสต์) คือประเภทของส่วนผสม
Bifida Ferment Lysate
Bifidobacterium longum คือชื่อชนิดของแบคทีเรีย
Lysate คือประเภทของส่วนผสม
Galactomyces Ferment Filtrate
Galactomyces คือชื่อชนิดของยีสต์
Filtrate คือประเภทของส่วนผสม
Saccharomyces Ferment Filtrate
Saccharomyces คือชื่อชนิดของยีสต์
Filtrate คือประเภทของส่วนผสม
จากโปรดักส์ที่เอามาให้ดูจะเห็นว่าหลายแบรนด์ก็ใส่เหมือนๆ กัน แล้วคุณภาพของสารสกัดแต่ละตัวเหมือนกันมั้ย? ตอบเลยว่า ไม่เหมือนอยู่แล้วค่ะ แต่ละบริษัทเค้าก็มีเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะตัวที่ทำให้การได้มาของเจ้าจุลินทรีย์เหล่านี้ไม่เหมือนกัน
ในฐานะผู้บริโภคอย่างเราๆ ไม่ได้ทำงานคลุกวงในบริษัทเหล่านี้จะไปรู้ได้ยังไงว่าเค้าไปเอามาจากไหน? ทำยังไง? สิ่งเดียวที่รู้ได้ หรือประมาณการได้คร่าวๆ คือข้อมูลบนฉลาก อย่าว่าแต่ส่วนผสมไมโครไบโอมเลย การจะรู้ที่มาของส่วนผสมแบบอื่นๆ ในสกินแคร์ก็ยากว่าเขาเอามาจากไหนก็ยากไม่ต่างกัน
ดังนั้น ChoiceChecker แนะนำว่า ‘ความชื่นชอบ + ความเชื่อมั่น + งบประมาณ’ 3 ปัจจัยนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าเราควรเลือกสกินแคร์ตัวไหน ส่วนเรื่องจะดี-ไม่ดี... จะแพ้มั้ย... เราแนะนำให้ลองใช้ด้วยตัวเองชัวร์สุด เพราะผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยีน กรรมพันธุ์ ไลฟสไตล์ต่าง ผลลัพธ์ก็ต่างกันไป
ส่วนเรื่องปลอดภัยรึเปล่า? ให้เช็คจากความน่าเชื่อถือ พวกแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เค้าอยู่มาได้ก็ด้วยความรับผิดชอบในคุณภาพนี่แหละ นอกจากนั้นก็ดูรีวิวจากคนที่เคยใช้ หรือง่ายกว่านั้น ดูจากบลอกเกอร์ตัวแทนสภาพผิวต่างๆ ของ ChoiceChecker ก็ได้น้าาา รับรองว่าลองใช้จริงไม่มั่ว
👩⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩⚕️
Reference
ความคิดเห็น