รีวิวทำ ICL แก้ปัญหาคนสายตาสั้น ดีกว่า "เลสิก" จริงเหรอ?

อยากมองให้ชัดกว่านี้ ถ้าไม่อยากใส่แว่นตลอดไป ใครๆ ก็ไปทำเลสิกกันทั้งนั้น แต่ถ้าไม่ทำเลสิกจะมีอย่างอื่นอีกมั้ย? แล้วที่เหนือกว่าเลสิกยังมีอีกเหรอ? ถ้าอยากแก้ปัญหาสายตาสั้นให้ได้ดั่งใจควรรู้จัก ICL ไว้ และนี่คือมหกรรมรีวิว ICL vs. LASIK เปรียบเทียบราคา และรีวิวการทำ ICL ที่ศูนย์การแพทย์ญี่ปุ่นของจริง! by เจ๊มิ้นต์เอง

เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย

• ICL  คืออะไร?
• การทำเลสิก คืออะไร?
• การทำ ICL คืออะไร?
• รีวิวประสบการณ์ทำ ICL by เจ้มิ้นต์
• ก่อนวันผ่าตัด ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
• รีวิววันผ่าตัด เจ็บมั้ย? ทำนานแค่ไหน?
• รีวิวหลังผ่าตัด ICL พักฟื้นกี่วัน?

ทำ ICL คืออะไร? แล้วช่วยแก้ปัญหาสายตาสั้นได้ยังไง?

ทุกเช้าที่ตื่นมากับตาเบลอๆ มองไม่เคยชัด มือคลำหาแว่นก่อนเป็นสิ่งแรก แว่น&คอนแทคเลนส์ก็ช่วยให้ภาพชัดได้แค่หลังเลนส์ ถ้าอยากมองชัดเทแว่นทิ้งคงต้องเลือกวิธีผ่าตัดเพื่อให้สายตากลับมาชัดปกติ หลายๆ คนคงคุ้นกับการทำเลสิก แต่รู้รึเปล่าว่ามีอีกหนึ่งวิธีนั่นคือการทำ ICL ที่เจ๋งไม่แพ้ทำเลสิกเลย

การทำเลสิก คืออะไร?

Lasik  (Laser In Situ Keratomileusis) การทำเลสิก เป็นการที่หมอเค้าเปิดกระจกผิวตาก่อนแล้วใช้เครื่องยิงแสงเลเซอร์ไปที่กระจกตา เพื่อปรับความโค้งให้ได้ตามต้องการในเวลาที่สั้นมาก ประมาณ 15 นาทีก็เสร็จ ฟังดูน่ากลัวแต่วิธีนี้ทำกันมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ

การทำ ICL คืออะไร?

ICL (Implantable Contact Lens) คือ วิธีฝังคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษเข้าไปหลังม่านตา (เหมือนการใส่คอนแทคเลนส์ แต่คอนแทคเลนส์ใส่ที่ส่วนนอกสุดของลูกตา ส่วน ICL ฝังเลนส์เข้าไปส่วนใน)

การฝังเลนส์ชนิดพิเศษลงไปหลังม่านตาในแบบการทำ ICL ใช้แก้ปัญหาสายตาได้ทุกชนิด ค่าสายตาที่แก้ได้ก็หลากหลาย เพราะเป็นการปรับแก้ด้วยเลนส์ที่ใส่ในตาเรา ไม่ได้ยิงเลเซอร์เปลี่ยนอะไรภายในลูกตาแบบการทำเลสิกนั่นเองค่ะ และสามารถแก้ไขคนที่มีค่าสายตาสั้นได้สูงสุดประมาณ -18.00D หรือสั้น 1,800 นั่นแหละ(เลนส์แว่นจะหนาไปไหนอ่ะแม่)

โอกาสเกิดผลข้างเคียง การทำ ICL จะเอฟเฟคน้อยกว่า(ในบางคน)

หลังทำเลสิก ที่ต้องเจอแน่ๆคือ ตาแห้ง เห็นแสงจ้ากว่าปกติ  สายตาไม่แน่นอน มองเห็นไม่คงที่ ถ้าในอนาคตค่าสายตาเปลี่ยนอีกก็อาจจะกลับมาผิดปกติเหมือนเดิม

ส่วน ICL นั้น ถ้าค่าสายตาเปลี่ยนไปก็แค่เปลี่ยนเลนส์ใหม่ โดยไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับลูกตา โอกาสที่จะเห็นแสงจ้า ตาแห้งก็น้อยกว่าด้วยล่ะ แล้วถ้าเกิดเปลี่ยนใจ ไม่อยากมีเลนส์ฝังอยู่ในลูกตาอีกต่อไปละ? เราก็สามารถทำการผ่าตัดเอาเลนส์ออกได้ค่ะ ไม่เหมือนเลสิกที่ทำแล้วทำเลย รีเซ็ตกลับไปไม่ได้นะ

อ่านมาถึงตรงนี้ เจ้มิ้นต์เชื่อว่าใครหลายๆคนอาจจะสนใจทำ ICL กันแล้ว แต่เรามาอ่าน คำเตือน!! ของการทำ ICL กันก่อนดีกว่า (เพราะใช่ว่าทุกอย่างจะมีแต่ข้อดีนี่เนอะ) ICL นั้นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ.หรือคลินิกที่รับทำก็ยังน้อย การดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัดก็ต้องขั้นสุด ราคาก็แพงมากๆค่ะ และไม่ใช่ปัญหาสายตาทุกเคสจะทำได้ ยังขึ้นอยู่กับความโชคดีที่มากับพันธุกรรมอีก (เป็นการพิสูจน์กับคำพูดเบาๆที่ว่า คนเราเกิดมาโชคดีไม่เหมือนกัน) แล้วพันธุกรรมที่ว่าคืออะไร?

อย่างเจ้มีปัญหาเรื่องสายตาสั้นมาตั้งแต่เจ้อายุ 14 ขวบ และค่าสายตาแย่ลงเรื่อยๆ ช่วงมัธยมปลาย จนถึงหลังเจ้เรียนจบเภสัชกร ค่าสายตาก็แย่ขั้นสุด ค่าสายตาสั้นทะลุเกิน SPH -7.00 ค่าสายตาเอียง CYL-075 แกนองศาสายตาเอียงข้างขวา AX 20 ข้างซ้าย AX 180 (เลนส์นี้หนาหนักถ่วงดั้งเลยทีเดียว)ถ้าไม่ใส่แว่นตา/คอนแทคเลนส์ เจ้แทบจะมองเห็นอะไรไม่ชัดเลย ในระยะแค่ 15 ซม. ความใฝ่ฝันที่เจ้จะไปดำน้ำดูปะการังแสนสวย แทบเป็นไปไม่ได้เลย แม้แต่ตอนขับรถ เจ้ต้องใส่คอนแทคเลนส์เท่านั้น ไม่สามารถใส่แว่นตาขับรถได้

ตาเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหวและบอบบางสุดๆ ติดเชื้อง่าย ความสะอาดต้องมาก่อน การใส่คอนแทคเลนส์แต่ละทีก็ทุลักทุเลเกิ๊น(หลายคนคงนึกภาพออก) ด้วยเหตุผลทั้งหมดทำให้เจ้ตัดสินใจที่จะแก้ไขค่าสายตา เจ้รู้จัก ICL ตั้งแต่ประมาณ 4 ปีที่แล้ว เพราะเพื่อนญี่ปุ่นพูดถึงแต่วิธีนี้ แต่ตอนนู้นสู้ราคาไม่ไหวแพงเกิน ตอนนี้เจ้ก็ผ่อนเอา

รีวิวประสบการณ์ทำ ICL by เจ้มิ้นต์

ที่เจ้ยอมทำ ICL ก็หวังว่าจะได้ขับรถได้อย่างปลอดภัยขึ้น มีโอกาสไปดำน้ำ และไม่ต้องเผชิญปัญหาตาแห้ง คันตา น้ำตาไหล จากการใส่คอนแทคเลนส์นานๆ รพ.ที่เลือกทำชื่อว่า Shinagawa Lasik Center ศูนย์เลสิกเก่าแก่ เต็มไปด้วยจักษุแพทย์ฝีมือเลิศ อยู่ใจกลางโตเกียว ย่าน Ginza สถานี JR yurakucho ไปมาสะดวก

การทำ ICL ไม่ใช่มีเงินแล้วจะทำได้  ยังต้องขึ้นอยู่กับโชคอีกด้วย เพราะมีข้อจำกัดที่สำคัญ คือ ความยาวของกระจกจนถึงรูม่านตาต้องไม่น้อยกว่า 3 มม. คนที่ความยาวไม่ถึง ทางรพ. ก็จะไม่แนะนำ (เจ้เข้าใจว่าถ้ามันแคบไป เวลาฝังเลนส์เข้าไปจะมีปัญหา)

การตรวจเช็คสภาพตา มี 3 ข้อหลักๆ

1.เช็คความยาวของกระจกตาจนถึงรูม่านตา ต้องไม่ต่ำกว่า 3 มม. ที่ตรวจ โดยเครื่องมือทางการแพทย์ (เท่าที่เจ้จำได้ ต้องผ่านประมาณ 10 ด่าน เพื่อคอนเฟิร์มว่า ระยะตาไม่น้อยกว่า 3 มม.แน่ๆ และใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง)

2.การเช็คพันธุกรรม (ได้รับมาจากบรรพบุรุษ) ว่าเรามีความผิดปกติของยีน TGFBI gene ในโรคกระจกตาเสื่อม (Cornea) ด้วยวิธี Avellino Genetic Testing for Corneal Dystrophy คุณพยาบาลจะใช้ไม้พันสำลี swab กระพุงแก้มของเจ้ไป

3.การวัดสายตา เพื่อนำไปตัดขนาดเลนส์ที่ต้องการฝังลงไป เหมือนการวัดสายตาทั่วไป

ก่อนวันผ่าตัด ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?

1.ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ ก่อนวันผ่านตัดอย่างน้อย 3 วัน

2.ห้ามแต่งหน้า ทาครีม รวมถึงครีมกันแดดด้วย(โอโน่ว!) ก่อนวันผ่านตัดอย่างน้อย 3 วัน

3.หยอดตา วันละ 5 รอบ (เช้า กลางวัน เย็น ค่ำๆมืดๆ) ในยาหยอดตาจะมีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้ออยู่

วันผ่าตัด

1.ห้ามทานอาหารใดๆเลย อย่างน้อย 3 ชม. ก่อนผ่าตัด

2.ห้ามแต่งหน้า ทาครีม รวมถึงครีมกันแดดด้วย

3.คุณพยาบาลจะจับเราหยอดตา หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นยาชา หรือฆ่าเชื้อ

4.การผ่าตัดใช้เวลาแค่ 30 นาทีเอง แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใช้เลเซอร์ในการกรีดกระจกตา ส่วนที่สอง ฝังเลนส์ลงไปหลังม่านตา

5.พักสายตาประมาณ 30 นาที

6.หลังผ่าตัดเสร็จทั้งวัน ห้ามใช้สายตา (ห้ามใช้จอคอม จอมือถือ ดูทีวี) และต้องหยอดตา ด้วยยาหยอดตาทั้งหมด 3 ชนิด 5 ครั้ง และต้องไปตรวจเช็คสภาพตาในวันรุ่งขึ้น

หลังผ่าตัด ICL

1.ห้ามออกกำลังกายใดๆก็ตามภายใน 1 สัปดาห์ (เดี๋ยวเลนส์ขยับ)

2.ห้ามล้างหน้า ทาครีมและแต่งหน้า เป็นเวลา 1 สัปดาห์(กรี๊ด!) เพราะว่าส่วนผสมต่างๆอาจจะเข้าตาทำให้ตาอักเสบ หลังจากผ่านไป 3 วันแล้วถึงล้างหน้าในส่วนต่ำกว่าตาลงไป

3.ห้ามสระผม และอาบน้ำ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ แผลที่ผ่าตัดยังเข้ากันไม่สนิท ถ้าน้ำกระเด็นเข้าตา อาจทำให้ติดเชื้อได้ หลังจากผ่านไป 3 วัน สามารถอาบน้ำช่วงคอลงไปได้

4.ต้องใส่แว่นชนิดพิเศษที่ทาง รพ.ให้ เพื่อป้องกันแสง และฝุ่นละออง

5.ไม่แนะนำให้ใช้คอม จอมือถือ เกิน 3 ชม. ต่อวัน เพราะอาจจะทำให้ตาฟื้นตัวยาก

6.ก่อนนอนต้องปิดตาด้วยอุปกรณ์พิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้ระหว่างนอนเผลอเอามือขยี้ตา

7.ต้องหยดยาหยอดตาวันละ 5 ครั้ง ตลอด 1 สัปดาห์ ซึ่งเป็นยาลดการอักเสบและการติดเชื้อ

ผลข้างเคียง หลังจากทำ อาจเห็นวงกลมสะท้อนในตา 2 วง แต่ไม่ได้รบกวนการมองเห็นนะคะ และหายไปเกือบ 100% หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์

รีวิวหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์

เจ้กลับมาใช้ได้ชีวิตปกติทุกอย่าง~ เรื่องการมองเห็นนั้นสำหรับเจ้ยิ่งกว่าความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตอีกครั้ง เจ้มีชีวิตเบลอๆเห็นไม่ชัดมา 15 ปี วันนี้ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากลับมามองเห็นได้ชัดเจน ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ! เจ้ทานโอเมก้าเสริมเพื่อช่วยเรื่องตาแห้ง

เปรียบเทียบความชัดในการมองเห็น ICL > Contact Lens > แว่นตา  ICL มองเห็นชัดที่สุดแน่นอน รองลงมาคือคอนแทคเลนส์ และแว่นที่ในค่าสายตาเดียวกัน เจ้ก็มองเห็นไม่ชัดเจนเท่านี้

👩‍⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩‍⚕️