“แสง LED” ช่วยเรื่องการรักษาปัญหาผิวจริงไหม?

โดย เภสัชกรประจำ choicechecker 20/11/2020

 

ถ้าพูดถึง LED (เอลอีดี) เชื่อเลยว่าเพื่อน ๆ ส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงไฟที่ใช้กันตามบ้านใช่มั้ยล่ะ แล้วรู้กันมั้ยเอ่ยว่า “แสง LED” เนี่ยก็สามารถนำมาใช้ในเรื่องความสวยความงามได้เช่นกัน! วันนี้ ChoiceChecker จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จัก “ความงามกับแสงเอลอีดี” กันค้า~

 

led คือ

 

LED (เอลอีดี) หรือจะเรียกชื่อแบบเต็ม ๆ คือ Light-Emitting Diode เป็นไฟที่ส่วนใหญ่ใช้กันตามบ้านหรือตามท้องถนนนั้นแหละค่ะ โดยแสง LED หลัก ๆ จะมีด้วยกัน 4 สี นั้นก็คือ แสงสีแดง, แสงสีส้ม, แสงสีเขียว และแสงสีน้ำเงิน ซึ่งแต่ละสีที่นำมาใช้ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ต้องการจะนำไปทำเป็นหลอดไฟด้วยเช่นกัน อย่างเช่น หลอด LED ที่ส่องแสงออกมาเป็นสีขาว จริง ๆ ก็คือแสงสีน้ำเงินที่ถูกเคลือบเรืองแสงสีเหลือง ทำให้แสงที่ออกมาเป็นสีขาวนั้นเอง

 

“แล้วแสง LED ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างไรกับการดูแลผิวของคนเรา?”

ใช่ค่ะที่ว่า “แสง LED” มีมานานมากแล้ว แต่ในวงการบิวตี้ แสง LED เพิ่งจะถูกนำมาใช้ในการดูแลและแก้ปัญหาผิวอย่างจริงจัง จะเห็นได้จากทั้งคลินิกเสริมความงามหลายที่ทั่วโลกนำเจ้าแสง LED มาใช้ในการทรีทเมนต์ผิว หรือแม้กระทั่งบางบริษัทก็ได้ผลิต beauty gadgets ออกมาจำหน่ายตามท้องตลาดด้วยเช่นกัน และเหล่านี้ก็จะเคลมว่าช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย, แก้ปัญหาสัญญาณผิวต่าง ๆ, รอยแดง, ปัญหาสิว หรือแม้กระทั้งรอยแผลเป็นก็ตาม โดยใช้ความต่างของสีใน แสง LED เนี่ยแหละมาเป็นตัวทำปฏิกิริยาให้เอฟเฟคกับผิวที่แตกต่างกันออกไป

 

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าแสง LED มีด้วยกันหลากหลายสี แต่ในทางด้านความงามส่วนมากจะถูกหยิบมาใช้ด้วยกัน 2 สีหลัก ๆ นั้นก็คือ..

 

  • Red Light (แสงสีแดง) : จะเข้ากระตุ้นผิวในชั้นเซลล์ผิวไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) หรือเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งก็จะเกี่ยวพันถึงเรื่องความยืดหยุ่นของผิว แสงนี้จะแก้เรื่องเส้นริ้วและริ้วรอยต่าง ๆ ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียนขึ้น และยังช่วยเรื่องรอยแผลเป็นและรอยแดงอีกด้วย

  • Blue Light (แสงสีน้ำเงิน) : จะเข้าไปทำการลดการทำงานของต่อมไขมันเพื่อที่ให้รูขุมขนผลิตน้ำมันน้อยลง เป็นแสงที่ถูกใช้บ่อยมากในด้านการรักษาสิว เพราะนอกจากจะช่วยลดความมันบนผิวแล้วยังช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดปัญหาสิว พร้อมยังช่วยให้สิวที่จะเกิดขึ้นใหม่ลดน้อยลงด้วยเช่นกัน

 

ส่วนในเรื่องความปลอดภัยในการใช้ “แสง LED” กับผิวนั้น ดูเหมือนว่าถ้าในระยะสั้น การใช้แสง LED จะยังคงมีความปลอดภัยและให้ผลที่เห็นชัดอยู่ แต่ทั้งนี้ ChoiceChecker แนะนำเพื่อน ๆ ที่มีผิวที่ไวต่อแสงแดดมากจริง ๆ ก็ควรจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนะคะ ส่วนในระยะยาวสำหรับการใช้แสง LED กับผิวนั้นทางด้านผู้ที่พัฒนาในองค์กรต่าง ๆ ก็ยังคงต้องวิจัยและพัฒนาเพื่อที่จะมายืนยันว่าแสงเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงในระยะยาวและให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนจริง ๆ หรือมั้ย ตรงนี้เราก็คงต้องทำการอัพเดทกันต่อไป~

เพื่อความงามและผิวสวย ๆ ที่จะอยู่กับเราไปนาน ๆ ทั้งนี้การทำทรีทเมนต์ผิวไม่ว่าจะเข้าคลินิกเอ่ย หรือใช้ครีมบำรุงผิวเอ่ย ก็ควรจะควบคู่ไปกับการการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายให้ร่างกายและจิตใจเราแข็งแรงไปพร้อมกันด้วยน้า

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


ขอบคุณที่มาแชร์กันนะคะ
02/10/2023 07:25
ขอบคุณนะคะ
02/07/2023 07:58
น่าลองมาก ตอนนี้มีนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเพียบเลย
20/08/2022 11:30
ขอบคุณที่ให้ความรู้ค่ะ
15/08/2022 12:54
น่าสนใจมากๆเลย
10/06/2022 09:25
ความรู้ใหม่เลยค่ะ
07/05/2022 10:37