หัตถการเสริมความงามในยุคปัจจุบันได้รับความนิยมมากในขณะนี้ เพราะขั้นตอนต่าง ๆ มีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี เห็นผลได้ชัด ด้วยนวัตกรรมความงามที่ทันสมัย หลาย ๆ หัตถการทางความงามสามารถทำได้โดยไม่ต้องพักฟื้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ที่สำคัญมีผลข้างเคียงน้อย ในปี 2023 จะมีหัตถการที่ได้รับความนิยมหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ และฉีดโบท็อก เพื่อช่วยให้ผิวหน้าดูเด็กขึ้น ดูมีเสน่ห์ ช่วยต่อต้านริ้วรอยระหว่างวัย ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ดี จึงเป็นหัตถการที่นิยมมาอย่างยาวนาน และยังมีหัตถการอีกหลายชนิดที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น Ulthera, ฉีด Exosome, ฉีดเมโสแฟต และ pico laser แต่ละหัตถการที่กล่าวมา คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง? ชอยซ์จะพาไปไขคำตอบเหล่านั้นในบทความนี้กัน
ทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย
การฉีดฟิลเลอร์ สามารถปรับรูปหน้าได้ โดยการใช้สารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) จะช่วยรักษาได้หลายปัญหาผิวหน้า เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย และสามารถทำร่วมกับหัตถการความงามอื่น ๆ ได้ เช่น Botox, Hifu, Ulthera, และ Thermage เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยความสวยที่เห็นผลได้ทันทีหลังทำ และมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง จึงทำให้การฉีดฟิลเลอร์ค่อนข้างได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เหมาะกับปัญหาผิว :
ริ้วรอยทั้งร่องตื้น และร่องลึก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ ขมับ, แก้ม, ใต้ตา และริมฝีปาก
ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวที่ไม่สดใสเปล่งปลั่ง
ใบหน้าดูตอบ หน้าผากที่ไม่เอิบอิ่ม
รูปคางไม่ได้สัดส่วน
ความถี่ในการทำ : 6 เดือน - 1ปี/ครั้ง
โบท็อก หรือสาร Botulinum Toxin A เป็นสารที่ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียชนิด Clostridium botulinum โดยมีคุณสมบัติที่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อ และยั้บยั้งการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทและกล้ามเนื้อ โดยการคลายกล้ามเนื้อที่ได้จากการฉีดโบท็อก เป็นผลมาจากการยับยั้งการหลั่งของสารอะซีติลโคลีน (acetylcholine) ทำให้กล้ามเนื้อขาดการติดต่อกับระบบประสาท ซึ่งมีผลลดการสั่งการการทำงานของกล้ามเนื้อ เกิดการคลายตัวกล้ามเนื้อ ทำให้ดูมีรอยต่าง ๆ ลดลง
เหมาะกับปัญหาผิว :
มีริ้วรอยทั้งร่องตื้น และร่องลึก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ ขมับ ร่องแก้ม และริ้วรอยอื่น ๆ ทั่วบริเวณใบหน้า
มีกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัวแรง
ผู้ที่มีอาการตาเหล่ ตาเข หรือตากระตุก อาการกล้ามเนื้อบิดเกร็ง อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และลดอาการปวดศีรษะจากโรคไมเกรนเรื้อรัง รวมทั้งบรรเทาอาการต่าง ๆ ในกลุ่มของ Office Syndrome ได้ สามารถรักษาด้วยโบท็อกได้
ใบหน้ามีกรามใหญ่ กรอบหน้าไม่ชัด
มีปัญหาน่องใหญ่ แขนใหญ่ จากขนาดของกล้ามเนื้อ
ความถี่ในการทำ : 1ปี/ครั้ง
สำหรับหัตถการตัวต่อมา ช้อยซ์ขอยกให้ Ulthera เลย ซึ่งเป็นหัตถการที่ใช้เครื่องเทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) มีหลักการทำงานโดยยิงคลื่นเสียงในระดับความถี่สูงลงไปใต้ชั้นผิว และจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เข้าไปที่บริเวณชั้นผิว SMAS หรือชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ซึ่งจะอยู่ระหว่างชั้นไขมันใต้ผิวกับชั้นกล้ามเนื้อ เพื่อแก้ปัญหาผิวไม่กระชับ ผิวหย่อนคล้อยตามวัย ด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหน้า เป็นวิธีที่ทำได้เร็ว ไม่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูและเจ็บปวดน้อยกว่ากระบวนการผ่าตัด แต่ให้ผลลัพธ์ได้เหมือนการผ่าตัดยกกระชับหน้า หลังทำ Ulthera SPT จะเห็นผลลัพธ์ถึงความกระชับทันทีประมาณ 30-40%
เหมาะกับปัญหาผิว :
ริ้วรอยทั้งร่องตื้น และร่องลึก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ ขมับ ร่องแก้ม และริ้วรอยอื่น ๆ ทั่วบริเวณใบหน้า
ใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง กรอบหน้าไม่ชัด
หนังตาตก หางตาตก อยากยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องการผ่าตัด
ใบหน้าดูใหญ่ ไม่ได้สัดส่วน
ความถี่ในการทำ : 1ปี/ครั้ง
Ultraformer MPT หรือ Ultraformer Micro-Pulse Technology เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่กำลังมาแรงช่วงนี้เลย ซึ่งเค้าเป็น Ultraformer รุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก Ultraformer III ทั้งในเรื่องลักษณะหัวยิง รูปแบบพลังงาน ระดับชั้นผิวที่พลังงานสามารถยิงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS และมีความเจ็บระหว่างทำลดลง
Ultraformer MPT จะมีความแตกต่างจาก Ultraformer รุ่นอื่นๆ คือเค้ามีหัวยิงที่หลากหลายมากขึ้นถึง 3 แบบ โดยหัวแบบวงกลมจะช่วยเรื่องฟื้นฟูคอลลาเจนในผิว หัวแบบเส้นตรงยาว จะช่วยยกกระชับพร้อมกับสลายไขมันไปพร้อมๆ กัน และหัวแบบ Dot จะปล่อยพลังงานเป็นจุด สามารถปล่อยพลังงานไปได้ถึงชั้น SMAS เลย
ความสามารถหลักๆ ของ Ultraformer MPT เค้าจะช่วยเรื่องการยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าให้เรียวหรือกระชับรูปหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอยทั่วหน้า ยกมุมมปาก ร่องแก้ม หรือหางตา และยังสามารถใช้ยกกระชับส่วนอื่นของร่างกาย หรือช่วยสลายไขมันส่วนเกินได้ทั้งบริเวณ ต้นแขน ต้นขา ลำคอ
เหมาะกับปัญหาผิว :
มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
มีปัญหาริ้วรอย เช่น ริ้วรอยตีนกา หน้าผาก ร่องแก้ม
ปัญหาหนังตา ร่องแก้ม ร่องปากตก
รูปหน้าไม่กระชับ หรือใหญ่เกินไป
ความถี่ในการทำ : สามารถทำซ้ำได้ในระยะเวลา 3 - 6 เดือน เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
หรือที่เรียกว่า Meso Lipolysis เป็นการฉีดสารสกัดจากอาร์ทิโชก วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ลงไปในชั้นไขมันของร่างกาย เพื่อสลายไขมันตามจุดต่าง ๆ ตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องดูดไขมันหรือผ่าตัดกระชับสัดส่วน สารสกัดในเมโสแฟตเหล่านี้จะทำให้ผนังไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนแตกตัวออก และเปลี่ยนเป็นไขมันเหลว หลังจากนั้นร่างกายก็จะสามารถกำจัดไขมันเหล่านี้ออกได้ตามธรรมชาติ โดยในส่วนประกอบของสูตรเมโสแฟตมักจะมีการออกฤทธิ์หลัก ๆ ผ่าน 3 กลไก ดังนี้
L-carnitine จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น
Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase ช่วยในการย่อยสลายไขมัน อีกทั้งยังช่วยลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย จึงมีผลช่วยลดการสะสมไขมันเพิ่มเติมได้
Artichoke extract (Cynara scolymus) สารสกัดจากอา์ทิโชก มีผลกระตุ้นการสังเคราะห์โคเอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการแอแนบอลิซึมได้ ซึ่งจะมีผลช่วยลดการสร้างเนื้อเยื่อไขมันและกรดไขมัน
เหมาะกับปัญหาผิว :
ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมส่วนเกิน ผิวไม่กระชับ มีแก้มเยอะจากไขมัน
ผู้ที่มีเซลลูไลท์ในบริเวณที่ลดได้ยาก เช่น บริเวณต้นขา ต้นแขน แก้ม และเหนียง
ผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบเร่งด่วน
ความถี่ในการทำ : 3-6 เดือน/ครั้ง หรือผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานกว่านั้น ขึ้นกับการดูแลตัวเองหลังฉีด
Pico Laser คือ เครื่องเลเซอร์ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดในการรักษาผิว โดยเทคโนโลยีหลักของ Pico Laser คือ การส่งพลังงานเลเซอร์ในระดับ Picosecond ซึ่งมีความเร็วมากกว่า 1 ล้านล้านวินาที และสามารถเจาะจงจุดที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ ทำให้ Pico Laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถรักษาปัญหาผิวหนังต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด เช่น การรักษารอยจุดด่างดำ ให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นด้วย Pico Laser ซึ่งสามารถทำลายเม็ดสีเมลานินใต้ชั้นผิวหนัง การทำลายเม็ดสีนี้จะช่วยให้ผิวที่เคยเป็นจุดด่างดำสามารถกลับมาขาวกระจ่างใสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหมาะกับปัญหาผิว :
มีความผิดปกติของเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ
มีปัญหาผิวหมองคล้ำ รอยดำจากสิว สีผิวไม่สม่ำเสมอ
มีริ้วรอย ผิวไม่เรียบเนียน
ผู้ที่ต้องการลบรอยสัก
ความถี่ในการทำ : ขึ้นอยู่กับปัญหาผิว ถ้าเป็นกระตื้น รอยสิว หรือหลุมสิว ควรทำ Pico Laser ประมาณ 1-2 ครั้ง/ปี
ถ้าเป็นกระลึก และฝ้า ควรทำ Pico Laser ประมาณ 5-6 ครั้ง สำหรับการลบรอยสัก อาจต้องทำหลายครั้งขึ้นอยู่กับขนาดและความลึกของรอยสัก
จบกันไปแล้วสำหรับข้อมูลแน่น ๆ 6 หัตถการทางความงามยอดฮิตในปี 2023 จะเห็นได้ว่านวัตกรรมทางความงามต่าง ๆ ในปัจจุบันมีหลากหลายมากขึ้น และช่วยในการแก้ปัญหาผิวหน้าต่าง ๆ ได้ อย่างเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยจะเห็นได้จากในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ เริ่มหันมาทำหัตถการทางความงามกันมากยิ่งขึ้น แต่ชอยซ์อยากจะเน้นย้ำสักนิดว่า ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสียเสมอ แม้จะให้ผลลัพธ์ทางความงามที่ดีแต่ก็อาจมีความเสี่ยงจากการทำหัตถการต่าง ๆ ได้ ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจ และเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง สำหรับวันนี้ชอยซ์ต้องขอลาไปก่อน ติดตามตอนต่อไปของชอยซ์ได้ในบทความหน้านะคะ
อ้างอิง
ความคิดเห็น