ตามเทรนด์หน้าเงา แต่เงาแบบไหนที่เรียกว่าดี เงาแบบนี้หน้ามันหรือหน้าฉ่ำกันแน่นะ

โดย เภสัชกรประจำ choicechecker 28/07/2020

เทรนด์หน้าเงาเป็นหนุ่มสาวเกาหลีกำลังเป็นที่น่าสนใจ แต่เอ๊ะ! ที่เราเห็นว่าหน้าเงาๆนั่นไม่ใช่หน้าเงาจากผิวมันนะจ๊ะ แต่เป็นความเงาของผิวที่เกิดจากผิวที่ดูฉ่ำวาว สุขภาพดี หรือที่เรียกกันว่าเป็นเทรนด์ Glass Skin ที่เป็นการอวดผิวใสดูฉ่ำน้ำ อิ่มน้ำ 

แต่ก่อนที่เราจะเป็นคนอินเทรนด์ Glass skin เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ผิวฉ่ำ กับ ผิวมัน นั้นแตกต่างกันยังไง มาเริ่มกันที่ ผิวฉ่ำก่อนเลย

 

 

ผิวฉ่ำ - ผิวฉ่ำจะเป็นผิวที่ดูฉ่ำน้ำ ดูชุ่มชื้นมาจากข้างใน  ไม่ดูเมือกเยิ้ม ซึ่งเป็นผิวที่ได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี ได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอ เกิดจากการที่ได้รับการดูแลทั้งจากการลงสกินแคร์ที่เหมาะกับผิว การเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์อยู่เป็นประจำ บำรุงด้วยเซรั่มที่ช่วยให้ผิวสร้างความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ รวมทั้งการดื่มน้ำอย่างเพียงพอด้วย ซึ่งข้อดีของการมีผิวฉ่ำน้ำก็คือใบหน้าของเรานั้นจะดูสุขภาพดี สามารถอวดผิวได้อย่างมั่นใจ และที่สำคัญคือแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางติดทนด้วย

 

ผิวมัน - ผิวหน้าที่มันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการที่ผิวขาดน้ำจนทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันส่วนเกินขึ้นมาจนทำให้ผิวหน้าดูมันเมือก ไม่สดใส ทำให้เกิดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ง่าย โดยเฉพาะวันไหนที่อากาศร้อนๆ จะยิ่งทำให้ผิวมันขึ้นมาอย่างชัดเจน นอกจากนี้อาจเกิดจากความเครียด หรือสำหรับสาวๆ ในบางช่วงของเดือนฮอร์โมนก็จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากผิดปกติได้เช่นกัน ซึ่งเจ้าความมันบนผิวหน้านี้นอกจากจะทำให้หน้าดูหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง เกิดสิวอุดตันได้ง่าย ยังทำให้เวลาแต่งหน้าเครื่องสำอางมักจะติดไม่ค่อยทนอีกด้วย 

 

 

แต่ตามธรรมชาติของคนเราก็อาจจะไม่ได้มีผิวเงา ฉ่ำวาว ดูเพอร์เฟคอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นวันนี้ Choicechecker จึงมีตัวช่วยที่จะมาช่วยให้เราสามารถสร้างผิวลุค Glass Skin ให้ดูฉ่ำวาว ไม่ตกเทรนด์หนุ่มสาวเกาหลี 

 

  • ตัวแรก JSM(Essential skin nuder long wear Cushion SPF 50+ PA+++) คุชชั่นสำหรับผิวมันและผิวผสม ตัวนี้จะช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ช่วยควบคุมความมันระหว่างวัน แถมยังมี SPF50+ PA+++ ที่ช่วยป้องกันแดดกัน UV ได้ด้วย 

 

ส่วนผสมที่น่าสนใจในเจ้าตัวนี้คือ Full blooming Powder ซึ่งจะมาช่วยในเรื่องของการปรับสมดุความชุ่มชื้นบนใบหน้าทำให้ผิวดูเรียบเนียน ช่วยกระจายแสงจากผิวให้ออกมาดูกระจางใส และยังช่วยซับความมันจากเหงื่อ ทำให้ผิวของเรานั้นดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมี Seed extracts and white flower extracts เป็นส่วนผสมที่สกัดจากดอกไม้ขาว 8 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดอกบัวขาว,ดอกไอริส,ดอกมะลิ,ดอกลิลลี่,ดอกเอเดลไวส์,ดอกกุหลาบขาว,ดอกฟรีเซียและดอกแดฟโฟดิล ที่จะทำหน้าที่ในการช่วยฟื้นฟูให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน และสุดท้าย Dark out formula silicon coated powder เจ้าตัวนี้ช่วยให้ตัวคุชชั่นที่เราทาสามารถอยู่ได้ค่อนข้างทน (ติดทนนาน)

 

  • ตัวที่สอง Nars ( Natural Radiant Longwear Cushion Foundation SPF 50/ PA+++) คุชชั่นสูตรนี้เป็นสูตรเนื้อสัมผัสเบาบาง สบายผิว ช่วยปกปิดได้นานและยังช่วยกัน UV กันแดดได้ด้วย SPF 50/ PA+++

 

โดยความน่าสนใจของเจ้าตัวนี้คือ ตัวนวัตกรรม Powerful Protection Complex ที่ช่วยในการป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดจากมลภาวะต่างๆ รวมถึง UV ซึ่งตัวนี้จะช่วยในการชะลอการเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำของผิว นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากดอกบัววิคตอเรียขาว white water lilly extract ที่ช่วยในการถนอมความยืดหยุ่นของผิว บำรุงให้ผิวดูเนียน กระจ่างใส และโทนสีผิวสม่ำเสมอ

 

Radiance Reviving Technology เป็นโพลีเมอร์ที่มีน้ำหนักเบา ทำให้เนื้อสัมผัสของตัวคุชชั่นมีความบางเบา ไม่หนักหน้าแม้จะมีการเติมระหว่างวันบ้าง และ Moisturizing Nylon Powder เม็ดแป้งไนล่อนช่วยหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นบนผิว มีน้ำมีนวล ดูกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ และสุดท้าย ส่วนผสมจากสารสกัดจากผลไม้นานาชนิด ทั้ง Raspberry Apple และ Watermelon ที่ช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียน แน่นกระชับ และประกายสว่างสดใส

 

วันนี้เรามีความรู้สึกหลังใช้ “JSM(Essential skin nuder long wear Cushion SPF 50+ PA+++) และ Nars ( Natural Radiant Longwear Cushion Foundation SPF 50/ PA+++)  จาก ริท บล็อกเกอร์หนุ่มตัวแทนชาวผิวมันประจำบ้าน Choicechecker มาฝากกันด้วย

รีวิวคุชชัน

 

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าหนุ่มๆสาวๆคนไหนสนใจอยากจะแต่งหน้าลุค Glass skin  อวดผิวฉ่ำ 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


ขอบคุณเนื้อหาดีๆแบบนี้มากเลยนะคะ
04/02/2023 15:24