แปรงแต่งหน้า เลือกยังไง ไม่ให้สับสน

สายเมคอัพทั้งหลายน่าจะรู้กันดีว่าแปรงแต่งหน้าเนี่ยมันช่างมีเยอะแยะเหลือเกิน ทั้งหัวตัด หัวฟู ขนสั้น ขนยาว ขนสัตว์ ขนสังเคราะห์ ฟังดูเท่านี้ก็น่าปวดหัวแล้วใช่ไหมคะ? แต่วันนี้เมย์มีเทคนิคดีๆ สำหรับเลือกแปรงแต่งหน้ามาแชร์กันค่ะ

ชนิดขนแปรงแต้งหน้า

เริ่มกันที่ขนแปรงก่อนเลย แบ่งได้ 2 ชนิด คือ..

• ขนสัตว์ ส่วนใหญ่จะทำมาจากขนสัตว์ที่นุ่มๆ เช่น กระรอก กระต่าย สุนัขจิ้งจอก สิ่งที่ตามมาก็คือราคาค่อนข้างสูงเลยค่ะ แต่นั่นก็มาพร้อมกับคุณภาพของแปรงที่ดีกว่า ทั้งขนแปรงที่นิ่มกว่ามากๆ เห็นได้ชัดเวลาแต่งบริเวณเปลือกตาซึ่งเป็นส่วนที่บอบบาง ไหนจะเรื่องช่วยกระจายสีได้ดี แต่ก็อาจจะยังไม่เหมาะกับการใช้งานกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อน้ำอย่างรองพื้น หรือคอนซีลเลอร์ เพราะมันค่อนข้างดูดซึมดีเกินไปจนทำให้เปลืองได้ค่ะ 

ตัวอย่างแบรนด์แปรงแต่งหน้าขนสัตว์ที่เลื่องลือกันก็คือ Suqqu แบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น ที่ช่างหน้าอันดับต้นๆยังใช้กันเป็นประจำและยังเมาท์กันว่าแปรงมันช่างนุ่ม ทำเอาคนโดนแต่งหน้าแทบจะหลับไปเลยค่ะ 

• ขนสังเคราะห์ แปรงประเภทนี้เมย์จะใช้เป็นประจำเลยค่ะ เหตุผลง่ายๆก็คือไม่ต้องไปเบียดเบียนสัตว์แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋ามากกว่า แล้วยังมีตัวเลือกให้เลือกซื้อมากมายหลากหลายเกรด หาซื้อง่าย มีทั้งราคาถูกจนไปถึงแบรนด์ราคาสูงหน่อย ซึ่งถ้าเราพูดถึงคุณภาพของเจ้าแปรงประเภทนี้ก็ถือว่าสามารถเทียบเคียงกับแปรงขนสัตว์ได้เลยค่ะ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีปัจจุบัน ส่วนตัวเมย์คิดว่าแทบไม่ต่างกันเลยล่ะค่ะ

รูปร่างฐานแปรง

 สำหรับฐานแปรงนั้นจะมีผลกับการกระจายตัวของเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ค่ะ 

• แปรงแบน ฐานแปรงแบนมักจะใช้สำหรับการแพ็คสีหรือแพ็คผลิตภัณฑ์ให้แน่นๆ เช่น แปรงรองพื้น หรือแปรง eyeshadow ที่จะใช้ในการแพ็คสีลงบนผิวหน้าก่อนจะ blend ตามหลังค่ะ ตัวอย่างของแปรงลักษณะนี้ที่เมย์แนะนำ คือ Mac เบอร์ 190 ค่ะ เ
• แปรงกลมฟู ฐานแปรงกลมฟูเรามักจะใช้ในการ blend หรือกระจายสีกันค่ะ เช่น blending brush หรือ stipping brush ค่ะ ตัวอย่างแปรงในตำนานที่เมย์แนะนำคือ แปรง 217 ของ Mac  และ แปรง 187 ของ Mac เช่นกันค่ะ 

รูปร่างหัวแปรงแต่งหน้า

เจ้ารูปร่างหัวแปรงจะมีผลกับ Streak ของสีหรือผลิตภัณฑ์ที่จะลงบนผิวหน้าของเราค่ะ 

• แปรงหัวพู่กันเล็ก ตัวนี้จะเหมาะใช้กับผลิตภัณฑ์เนื้อน้ำหรือครีม และเอาไว้ใช้เขียนเส้นบางๆ เช่น eyeliner หรือบางคนอาจจะเอาไว้ใช้กับคอนซีลเลอร์ปิดรอยสิวเล็กๆ ให้เนียนๆได้ค่ะ
• แปรงหัวตัดเฉียงเล็ก นิยมใช้กับผลิตภัณฑ์เนื้อแป้ง เช่นเอาไว้เติมคิ้วหรืออายแชโดว์ก็ได้ค่ะ เพราะตัวหัวตัดมันจะช่วยให้ได้เส้นที่ออกมาคมสวยเลย ออกตัวไว้ก่อนว่าเมย์แอบเป็นปลื้มแบรนด์ Mac ค่ะ 
• แปรงหัวตัดเฉียงใหญ่ ตัวนี้จะนิยมเอาไปใช้ shading กันค่ะ ด้วยความที่เป็นหัวตัดขนาดใหญ่จึงเหมาะกับการเอาไปป้ายสีให้เกิดปื้นใหญ่ 
• แปรงหัวบาน ด้วยความที่ลักษณะเป็นแปรงหัวบานก็จะช่วยกระจายสีได้ดีตามลักษณะขนแปรงค่ะ มักจะใช้ปัดบลัชหรือลงแป้ง 
• แปรงหัว Tapered ตัวนี้จะช่วยให้เราสามารถปาดสีเป็นพื้นที่กว้าง แต่ยังช่วยให้ blend ง่ายอยู่ค่ะ ตัวนี้เมย์แนะนำแปรงปัดแก้มของ NARS ค่ะ 
• แปรง spoolie ตัวนี้คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ลักษณะเหมือนแปรงล้างขวดนม เอาไว้ใช้ปัดขนคิ้วหรือขนตาค่ะ

ความแน่นของขนแปรงแต่งหน้า

สุดท้ายอีกปัจจัยที่ควรเอาไว้พิจารณาเลือกแปรงก็คือความแน่นของเส้นขนค่ะ เพราะยิ่งขนแปรงแน่นและหนามากจะยิ่งทำให้จับตัวผลิตภัณฑ์มาลงผิวได้มาก ไม่ว่าจะเป็นแบบเนื้อครีมหรือเนื้อแป้งก็ตาม 

อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆ คนคงโดนเมย์ป้ายยากันไปเยอะแล้วใช่ไหมคะ ใครคิดจะถอยแปรงเซ็ทใหญ่หรือจะช้อปแปรงใหม่เพิ่มก็น่าจะพอมีไอเดียกันแล้วนะคะ ว่าแปรงแบบไหนตัวไหนที่จะเหมาะกับ Lifestyle และจะเอาตัวไหนมาใช้ทำอะไรดี แต่สุดท้ายแล้วการแต่งหน้าก็ไม่เคยมีกฎอะไรตายตัวค่ะ คล้ายกับศิลปะที่ไม่มีผิดหรือถูก เมย์เองก็ยังคงทดลอง ลองผิดลองถูกกันไป เมย์อยากให้ทุกคนสนุกกับการแต่งหน้าแล้วมาเนรมิตตัวเองให้สวย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองกันนะคะ เมย์เชื่อว่าทุกคนสวยในรูปแบบของตัวเองค่ะ