คู่มือช้อปปิ้ง เครื่องสำอางญี่ปุ่น ครีมย้อมผมหงอกฯลฯ ญี่ปุ่นเปิดประเทศแล้วซื้ออะไรดี!

โดย Admin_ChoiceChecker02 10/11/2022

ญี่ปุ่น เปิดประเทศแล้ว ใครจองตั๋วเตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกันแล้วบ้าง วันนี้เจ๊มิ้นมาแจกโพย #สกินแคร์ญี่ปุ่น 10 ไอเทมที่ห้ามพลาด ใครได้ไปควรซื้อมาลอง ซื้อกลับมาใช้ไม่มีผิดหวัง เพราะขนาดคนญี่ปุ่นเองยังชอบซื้อ จนกลายเป็นไอเทมฮอต รวมสกินแคร์ญี่ปุ่น 10 ไอเทมที่ไม่ควรพลาด ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อเลย!!!

 

เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจเลย

 


1 สายผิวแห้ง แพ้ง่ายมีผื่น - Curel Bath Time Moist Barrier Cream

เอาใจคนผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย ใช้ได้กับทั้งหน้าและตัว ไว้ทาหลังจากอาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่นเสร็จ ให้ความฟินสุดๆ สัมผัสได้ถึงความนุ่มขึ้นของผิว แตกต่างชัดเจนระหว่างก่อนกับหลังทา ผิวสากๆหยาบๆหายไปหมด และน้องครีมคิวเรลมาในรูปแบบถุงแพกจะบีบใช้ให้หนำใจแบบนั้นเลย หรือจะแบ่งใส่กระปุกไว้ก็ได้ เนื้อครีมเข้มข้น สีขาวขุ่น คงคอนเซปเดิมเน้นใส่ส่วนเซราไมด์ลิขสิทธิ์ของคิวเรลมาแน่นๆ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยในการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว (skin barrier) ถ้ามีโอกาสมาญี่ปุ่น อยากให้ลองซื้อตัวนี้ไปฝากพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ที่เจอปัญหาผิวแห้งลอก คันแดง ผื่นขึ้น รับรองพวกท่านต้องปลื้มแน่นอน และปลอดภัยสุดๆ คิวเรลเพิ่งออกตัวนี้ใหม่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้เลย เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 8 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาเองนะ ของใหม่น่าลองสุดๆ

 

รวมสกินแคร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อ

 

ปัญหาผิวที่เหมาะสม: ✔️ผิวแห้งหยาบกร้าน  ✔️ผิวมีผื่นแดง คัน ✔️ผิวลอก

ราคา :  1760 เยน / 310 กรัม  (ราว 650 บาท)

 

2 สายกลัวริ้วรอย Elixir Aging care lotion & emulsion power up!

“Elixir” ชื่อแบรนด์เป็นภาษาฝรั่งเศสก็จริง แต่น้องอยู่ในเครือชิเซโด้ และสินค้าแทบทุก series ได้รับความนิยมมากมายล้นหลามทั้งจากชาวญี่ปุ่น ชาวจีน หรือแม้แต่ชาวไทยเองก็ตาม ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณกันยายน) ที่ผ่านมา Elixir อัพความปังใหม่ของซีรี่ย์ anti-aging ถ้าใครจำได้สมัยก่อนน้องเค้าจะมีขวดพลาสติกใส สีน้ำตาลอ่อน ให้ฟีลลิ่งความเป็นฝรั่งเศสเบาๆ  โดยการอัพสูตรใหม่ครั้งนี้ปรับเพิ่มประสิทธิภาพลดเลือนริ้วรอย อัพผิวเฟิร์ม และความชุ่มชื้นให้กับผิว ใส่ส่วนผสมลิขสิทธิ์ของแบรนด์ที่คิดค้นมานาน

  • M-Bouncer CP (สารสกัดจากเซนต์จอห์นเวิร์ด+กลีเซอรีน) เป็นส่วนผสมอัพผิวเฟิร์ม กระชับผิวหย่อนคล้อยและ กระชับ
  • Deep moisture in CP (สารสกัดจากพืช meliot + กลีเซอรีน) ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้อย่างล้ำลึก
  • คอลลาเจน ลิขสิทธิ์พิเศษที่วิจัยมานานกว่า 39 ปี เพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับให้กับผิว

 

รวมสกินแคร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อ

 

พร้อมกับปรับแพกเกจจิ้งใหม่ให้เป็นสีขาวดูดี สะอาดสะอ้าน เพิ่มความหวังให้กับชีวิต มีทั้งรูปแบบน้ำตบ และแบบโลชั่นเนื้อขาวขุ่น ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 สูตรเอาใจสภาพผิวไม่เหมือนกัน ได้แก่

Elixir Lift Moist สูตรⅠ : เนื้อเบาบาง ทาแล้วสบายผิว เอาใจคนผิวมันหรือผิวผสม

Elixir Lift Moist สูตร II : เนื้อหนักขึ้นมาหน่อยจากสูตร Elixir Lift Moist สูตรⅠแต่ทาแล้วให้ความชุ่มชื้นแน่นกว่าเดิม

Elixir Lift Moist สูตร III : เนื้อหนักที่สุด ให้ความชุ่มชื้นชุ่มที่สุด เหมาะกับคนผิวแห้งมาก

 

ปัญหาผิวที่เหมาะสม: ✔️มีริ้วรอย ✔️ผิวแห้งหยาบกร้าน  ✔️ผิวมีผื่นแดง คัน ✔️ผิวลอก

ราคา:

Elixir Lift Moist Lotion SP : 3300 เยน/170 มล. (ราว 1100 บาท)

Elixir Lift Moist Emulsion SP : 3850 เยน/130 มล. (ราว 1280 บาท)

 

3  สายไม่อยากแก่ D program vitalizing cream (quasi-drug)

สายไม่อยากแก่ มีริ้วรอย มีฝ้ากระ ผิวหยาบกร้าน และก็หมองคล้ำด้วยบ้าง อย่าลืมคว้ากระปุกนี้กลับ แค่ตัวกระปุกก็กินขาด ดีไซน์เกร๋ ดูดี ส่วนส่วนผสมด้านใน ไม่ต้องกังวลไปเลย ล้ำไปมาก การันตีว่าเป็นเครื่องสำอางแบบเวชสำอาง (กึ่งๆยา) มีการวิจัยปรับสูตรโดยทีมงานวิจัยของชิเซโด้มาตลอด 50 ที่ผ่านมาเพื่อผิวแพ้ง่าย มุ่งเน้นการสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรงแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุ  จนวันที่ 21 กันยายน 2565 ก็ได้ฤกษ์จำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ส่วนผสมหลัก

  • ส่วนผสม vitalizing complex ซึ่งประกอบไปด้วยสารสกัดจากสะเดา,สารสกัดจากสาหร่าย, สารสกัด Ononis Spinosa Root, กลีเซอรีน) แก้ไขผิวขาดความยืดหยุ่น ดูหย่อนคล้อย
  • m-tranexamic acid ส่วนผสมที่สกินแคร์สายญี่ปุ่นมักเลือกใช้ เพราะประสิทธิภาพในการลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวไม่รองใคร จัดการฝ้ากระ จุดด่างดำ เคลียร์ผิวหมองคล้ำได้อยู่หมัด

 

รวมสกินแคร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อ

 

นอกจากส่วนผสมตรงนี้  D program vitalizing cream (quasi-drug) ใส่ทั้งส่วนผสมลดความหยาบกร้าน ฟื้นฟูผิวอ่อนแอแพ้ง่าย  ใส่มาแน่นและเข้มข้นพัฒนาโดยทีมนักวิจัยของชิเซโด้ ฉลองแบรนด์ชิเซโด้ครบ 150 ปี และเนื้อสัมผัสก็ใช้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะจนเกินไป กระจายตัวดี ชาวผิวมัน ผิวผสม ถ้าไม่ปลื้มแนะนำให้ใช้ก่อนนอน แต่รับรองว่าผิวแพ้ง่าย ผิวแห้งจนถึงแห้งมาก ต้องเลิฟจนไม่อยากเลิกใช้แน่นอน

 

ปัญหาผิวที่เหมาะสม: ✔️มีริ้วรอย ✔️มีฝ้ากระ จุดด่างดำ ✔️ผิวหมองคล้ำ ✔️ผิวแห้งหยาบกร้าน  ✔️ผิวมีผื่นแดง คัน ✔️ผิวลอก

ราคา: 3960 เยน/45 กรัม (ราวๆ1400 บาท)

 

4 คลีนซิ่งบาล์มลบเมคอัพ Bifesta cleansing balm

เคยเห็นบ่อยๆกับพวกคลีนซิ่งบาล์มจากฝั่งเกาหลี วันนี้พามารู้จักกับ cleansing balm สำหรับลบเมคอัพ ขจัดสิ่งสกปรกฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง ผลิตภัณฑ์ของ Bifesta ขึ้นชื่อเรื่องทำความสะอาดได้เกลี้ยงหมดจด และความสดใสของแพกเกจจิ้ง บวกกับราคาไม่แพงมากนัก เลยทำให้หลายๆโพรดักได้รับความนิยมมาตลอด รอบนี้ Bifesta ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เป็นคลีนซิ่งบาล์ม  2 สูตร สูตร bright up (อัพผิวกระจ่างใส) และสูตร deep clear  (ทำความสะอาดล้ำลึก) ปราศจากน้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์และสี แบบนี้คนผิวแพ้ง่ายก็มีโอกาสรอดสูง

 

รวมสกินแคร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อ

 

Bifesta cleansing balm bright up สูตรอัพผิวกระจ่างใส

  • สารสกัดจากส้มแมนดารินปรับผิวเรียบเนียน และเติมความกระจ่างใสให้ผิว
  • สารสกัดจากพืชจีน (PHILODENDRON EXTRACT) ให้ความชุ่มชื้น อัพผิวอิ่มฟู
  • สารสกัดจากพืช tuberose อัพผิวอิ่มฟู เรียบเนียน
  • น้ำมันลาเวนเดอร์ เพิ่มความเรียบเนียน อ่อนนุ่มให้กับผิว
  • น้ำมันจากใบโรสแมรี่ เพิ่มความเรียบเนียน อ่อนนุ่มให้กับผิว

ปัญหาผิวที่เหมาะสม:  ✔️มีฝ้ากระ จุดด่างดำ ✔️ผิวหมองคล้ำ 

ราคา: 1760 เยน / 50 กรัม  (ราวๆ 587 บาท)

 

Bifesta cleansing balm deep clear สูตรทำความสะอาดล้ำลึก

  • Charcoal ดูดซับความมัน และสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก
  • Artichoke leaf extract ให้ความชุ่มชื้น อัพผิวอิ่มฟู
  • Tuberose extract ให้ความชุ่มชื้น อัพผิวอิ่มฟู
  • Lavender oil เพิ่มความเรียบเนียน อ่อนนุ่มให้กับผิว
  • Rosemary leaf oil เพิ่มความเรียบเนียน อ่อนนุ่มให้กับผิว

ปัญหาผิวที่เหมาะสม:  ✔️เป็นสิว รอยสิว ✔️รูขุมขนกว้าง

ราคา:  1760 เยน / 50 กรัม  (ราวๆ 587 บาท)

 

5 สายไม่อยากตกเทรนด์ญี่ปุ่น Shiro

shiro แบรนด์ญี่ปุ่น ที่ปังปุริเย่มากๆในช่วง3-4 ปีที่ผ่านมา แต่คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จัก แบรนด์นี้แค่ขายที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็ขายแทบไม่ทันแล้ว เลยเดาว่าเขาคงไม่ได้ทำการตลาดเพื่อชาวต่างชาติมาก แต่ละ shop ของเขาคนยืนรอต่อคิวตลอด น้อยมากที่จะเห็นว่าคนน้อย

Shiro แบรนด์นี้มามานาน 30 กว่าปีแล้วจุดกำเนิดคือฮอกไกโด คอนเซปคือใช้ส่วนผสมธรรมชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นของฮอกไกโด คนญี่ปุ่นเชื่อว่าสารจากธรรมชาติปลอดภัยกับผิวเรามากกว่าสารจากเคมี  Shiro ใส่ใจทุกรายละเอียดของโพรดักมากๆและให้ความสำคัญกับผิวลูกค้าราวกับว่าเป็นผิวตนเอง ตอนแรกที่เห็นแพกเกจจิ้งเข้าใจว่าคงเป็นแบรนด์จากต่างประเทศ เพราะความเรียบง่าย มีความทันสมัย และคุมโทนสีเป็นสีขาวให้เข้ากับชื่อแบรนด์ Shiro (ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า สีขาว) ไม่เหมือนดีไซน์ของญี่ปุ่นที่เคยเห็นทั่วไป

 

รวมสกินแคร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อ

 

Shiro เขาขายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ เมคอัพ diffuser หรือแม้แต่อาหารแห้ง แต่วันนี้ choicechecker จะแนะนำ 3 โพรดักที่จัดว่าปังที่สุดใน Shiro จะซื้อกลับไทยทั้งที่ต้องเอาตัวเด็ดๆกลับไป

  • TAMANU CLEANSING BALM

คลีนซิ่งบาล์มทำความสะอาดผิว มีส่วนผสมของ Tamanu oil ที่สกัดมาจากต้น Tamanu ต้นไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้ศักดิสิทธิ์ มาตั้งแต่สมัยโบราณ Tamanu oil เป็นออยล์ที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน oleic acid และ linoleic acid ซึ่งช่วยเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงสุขภาพดี ส่วนกลิ่นของคลีนซิ่งบาล์ม Tamanu cleansing balm มีกลิ่นหอมเบาๆ ให้ความรีแล๊กซ์ เป็นกลิ่นอ่อนๆที่เกิดจากการเบลนด์ระหว่างน้ำมันสกัด Damask rose, palmarosa และลาเวนเดอร์

ปัญหาผิวที่เหมาะสม:  ✔️ผิวแห้งหยาบกร้าน ✔️ผิวขาดน้ำ ✔️มีริ้วรอยร่องตื้น

ราคา: 6935 เยน / 60 กรัม (ราวๆ 2310 บาท)

  • Gamome Kalp serum

สาหร่าย gamome หรือ kombu คือสาหร่ายที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด อุดมไปด้วยแร่ธาตุและกากใยอาหารที่เป็นประโยชน์ของร่างกาย แถมยังทรงพลังในการกักเก็บน้ำให้กับผิว  Shiroเลยใช้ศักยภาพเหล่านี้ในการพัฒนาเป็นสารสำคัญของสกินแคร์ Gamome kalp serum น้องเป็นเซรั่มสีชาช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น เติมผิวอิ่มฟู ฟื้นฟูริ้วรอย และลดความหยาบกร้านของผิว Gamome kalp SERUM สาย 40+ คงปลื้มไม่น้อย

ปัญหาผิวที่เหมาะสม:  ✔️ผิวแห้งหยาบกร้าน ✔️ผิวขาดน้ำ ✔️มีริ้วรอยร่องตื้น

ราคา: 5868 เยน/60 มล.  (ราวๆ 1956 บาท)

  • HOLY BASIL OIL IN WATER

เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายออนไลน์ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และจะวางจำหน่ายตามสาขาต้นพฤศจิกายน 2565 นี้ น้ำตบ Holy basil oil in water เห็นแล้วอยากใช้สุดๆ ตัวน้ำตบแบ่งเป็น 2 ชั้นเพื่อบำรุงผิวที่มีองค์ประกอบของน้ำและน้ำมัน สีน้ำตาลเข้มชั้นบน ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันกะเพรา และน้ำมันสกัดจากธรรมชาติอื่นๆ ส่วนชั้นล่างที่เป็นสีน้ำตาลอ่อนกว่า มีส่วนผสมของสารสกัดจากกะเพรา สารสกัดจาก St. John's wort กะเพราที่นำมาใช้ถูกปลูกที่ Hinata Farm จังหวัด Hiroshima เป็นฟาร์มของทางแบรนด์เอง กะเพราะมีสาร eugenol ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ป้องกันริ้วรอย ฟ้ากระ จุดด่างดำ ถูกใช้ในวงการบิวตี้ของอินเดียมาอย่างยาวนนาน Shiro เลยนำส่วนผสมกะเพรามาเป็นส่วนผสมหลักในรอบนี้

ปัญหาผิวที่เหมาะสม:  ✔️มีฝ้ากระ จุดด่างดำ ✔️ผิวหมองคล้ำ 

ราคา: 9096 เยน /120 มล.  (ราวๆ 3032 บาท)

 

6 สายเล็บสวยแบบสาวญี่ปุ่น Lunasol nail polish & Excel by noevir

สายเล็บสวย อย่าลืมจัด Lunasol สักสีกลับบ้าน อย่างที่ทุกคนทราบกันไม่ใช่แค่สาวไทย ที่ชอบทำเล็บสาวญี่ปุ่น ก็ชอบทำเล็บเป็นชีวิตจิตใจ!! ว่างเมื่อไรต้องเข้าร้านทำเล็บ แต่ทำบ่อยๆ เล็บก็พัง แตกบ้าง แห้งบ้าง เหลืองบ้าง บางทีก็ลามไปทั้งมือ Lunasol nail polish นอกจากจะทาแล้วไม่สร้างปัญหาให้คุณเล็บของเรา เพราะเขาทุ่มทุนใส่ส่วนผสมหลักอย่าง hazelnut oil และ squalane มาซ่อมบำรุงคุณเล็บ (กล้าใส่ยังกับสกินแคร์ดูแลผิวหน้า) แถมสีสวย ดูแพง ดูผู้ดี ถูกใจสาวชาวเกาะเป็นอย่างยิ่ง อยากดูเป็นสาวญี่ปุ่น หนทางแรกเริ่มที่เลือกสีเล็บสักสีของ Lunasol

 

รวมสกินแคร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อ

 

Lunasol nail polish เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2563 และค่อยๆเพิ่มสีใหม่ออกมาให้เลือกเกือบทุกปี ล่าสุดสี Lunasol nail polish EX29 Floating Star และ Lunasol nail polish EX30 Aurora River จะเริ่มออกจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ รอหยิบใส่ตระกร้ากันได้เลย บอกเลยว่าทุกสีของ Lunasol ได้รับความนิยมหมดตามฤดูกาล สีแต่ละสีเหมาะกับฤดูกาลที่ไม่เหมือนกัน อย่างใบไม่ร่วงก็จะเน้นสีโทนวอร์มๆ อบอุ่นเข้ากับใบไม้สีส้ม

 

เห็นราคาแล้วอยากจะกรี๊ดร้อง นี้มันซื้อสกินแคร์ทาทั่วหน้าได้ขวดเลยนะ อย่าเพิ่งค่ะ Choicechecker ก็เห็นด้วยว่าราคาน้องเค้าแรงไปหน่อย แต่จะไม่เลิกล้มความตั้งใจว่าอยากได้สีเล็บสวย ดูแพงไม่แรงเหมือนสาวชาวเกาะ ทาแล้วเล็บไม่แห้ง ไม่เหลือง ไม่ลอก งั้น Choicechecker ขอแนะนำอีกแบรนด์ คุณภาพดีไม่แพ้กัน แต่ราคารองลงมาหน่อย อย่าง Excel by noevir สีเยอะเหมือนกัน มีมากกว่า 20 สี และส่วนผสมที่ใส่มาในสีทาเล็บอย่างอะโวคาโด้ออยล์ อาร์แกนออยล์ และสารสกัดจาก dill seed extract ช่วยให้ความชุ่มชื้นแน่นๆ และเคลือบเล็บไม่ให้สูญเสียความชื้น รับรองเลยว่าเล็บไม่แตก ไม่แห้ง ไม่เหลืองแน่นอน

ปัญหาเล็บที่เหมาะสม:  ✔️เล็บแห้ง ✔️เล็บแตก ✔️เล็บเหลือง ✔️มือแห้ง

ราคา:

Lunasol nail polish: 2200 เยน / ขวด (ราวๆ 660 บาท)

Excel by noevir nail polish:  1100 เยน/ ขวด (ราวๆ 330 บาท)

 

7 สายสิว Acne Labo Spot cream

สายสิว!คนญี่ปุ่นอาจจะไม่เจอปัญหาสิวหนักเหมือนคนไทย ส่วนใหญ่จะหน้าแห้ง ฝ้ากระเสียมากกว่า (จากประสบการณ์เจ้มิ้นที่เจอมา) แต่ไม่ใช่ว่านางไม่มียาทาสิวดีๆ เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินชื่อยาทาสิวที่ฮิตฮอตในหมู่คนไทยอย่าง Pair แต่วันนี้ขอแนะนำตัวเลือกอื่นเผื่อไว้บ้างกรณีเบื่อ Pair หรือใช้แล้วไม่หายสักที

 

รวมสกินแคร์น่าซื้อที่ญี่ปุ่น

 

Acne Labo Spot cream (quasi-drug)

ครีมแต้มสิวตัวท๊อป  1 หลอด ใช้ได้ราวๆ 170 ครั้งแถมปลอดภัยกับผิวแบบสุดๆ ปลอดภัยกว่าสองตัวแรกที่แนะนำไป เพราะนางไม่มีสารอันตราย และไม่ใช่ยา เลยไม่จำเป็นต้องซื้อกับเภสัชกร Acne Labo spot cream เป็นการรักษาสิวโดยอาศัยประสิทธิภาพการเบลนด์สมุนไพรจีนที่สำคัญอย่างสารสกัดจากลูกเดือยและสมุนไพรอื่นๆอีกหลากหลายชนิดเพื่อลดการอักเสบ ค่อยๆฟื้นฟูผิวอ่อนแอ ยับยั้งเชื้อสิวและควบคุมการสร้างน้ำมันบนผิวหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุของสิว เหมาะกับสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบ แต่ทางที่ดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดสิวแนะนำให้ใช้คู่กับแผ่นแปะสิวของ Nighttime on-the-spot acne patch หลังจากแต้มด้วยครีมแต้มสิวเสร็จก็ให้แปะด้วยแผ่นแปะ ตื่นขึ้นมาสิวหายวับ หน้าใสได้ดังใจ

เหมาะกับสิวแบบไหน?

  • สิวอุดตัน (ผื่นแดง)
  • สิวอักเสบ (ไม่รุนแรง)
  • สิวผด

วิธีการใช้: ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิว เช้า-เย็น (หรือก่อนนอน) หลังทำความสะอาดผิวเรียบร้อยแล้ว และอาจจะใช้แผ่นแปะสิวแปะทับเพื่อเห็นผลเร็วขึ้น

ราคา:

Acne Labo Spot cream (เจลแต้มสิว):  7 กรัม /1297 เยน (ราวๆ 437 บาท)

Acne Labo Nighttime on-the-spot acne patch (แผ่นแปะสิว) : 60 แผ่น/871 เยน (ราวๆ 290 บาท)

 

8 สายผื่นแดง คัน Terra Courtyl Ointment

มาเจออากาศหนาวทีไร ผื่นแดงขึ้น ไม่งั้นก็แห้งจนคันทุกที อยากจะหายาทา แต่ก็คุยกับเภสัชกรญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง ถ้าเจอปัญหาแบบนี้ซื้อตัวนี้ Terra Courtyl Ointment  มาได้เลย ใช้ตามคำแนะนำของเจ้มิ้น เภสัชกร Choicechecker ที่มีความเข้าใจภาษาญี่ปุ่นอยู่พอตัว  Terra Courtyl Ointment เหมาะกับผิวมีผื่นแดงแพ้คัน ผิวอักเสบ ส่วนผสมมี 2 ตัวยาในหลอด ได้แก่ตัวยาฆ่าเชื้อที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้ครอบคลุมเชื้อหลายชนิดและยาลดการอักเสบ เนื่องจากมันเป็น ointment สีเหลือง มันจะเหนียวๆนิดหน่อย แต่ข้อดีคือทาแล้วไม่หลุดง่าย ใครไม่ชอบเนื้อสัมผัสแบบนี้แนะนำให้ทาเฉพาะกลางคืน

 

 

เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน

✔️มีผื่นแดง

✔️รู้สึกคัน

✔️ผิวอักเสบแสบ ลอก

วิธีการใช้: ใช้ทาบริเวณที่มีมีผื่นแดง หรือรู้สึกคัน หลังทำความสะอาดผิวเรียบร้อยแล้ว

ราคา : 6 กรัม / 1000 เยน   (ราวๆ 300 บาท)

 

9 สายกันแดด Nameraka Honpo UV Lotion

เชื่อว่าเพื่อนๆคงจำครีมกระปุกสีขาว ราคาราวๆ 300-500 เรียกติดปากกันว่าครีมเต้าหู้ เพราะมีส่วนผสมหลักอย่างไอโซฟลาโวน (สารสกัดจากเต้าหู้) ใส่ลงไป ก่อนจะเกิดโควิด นักท่องเที่ยวไทยมาญี่ปุ่นทีไร ก็เหมากับประเทศกันทุกปี ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ 2564 แบรนด์เดิมภายใต้บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น Noevir ออกผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด คอนเซปเหมือนเดิมส่วนผสมเด่นยังมาจากเต้าหู้ เพิ่มเติมกับคอนเซป 6-in-1 ไม่ใช่แค่ทากันแดดธรรมดาๆแต่ยังเป็นสกินแคร์บำรุงผิวแบบแน่นๆ (เป็นทั้งน้ำตบ, เอสเซนต์, โลชัน , ครีม, กันแดด, รองพื้นในตัวเดียว)

พูดง่ายๆ ทาตัวนี้ตัวเดียวก็ออกจากบ้านได้เลย เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ไม่ต้องบำรุงเป็นรูทีนให้ยุ่งยาก เหมาะมากสำหรับสายชิว แถมราคายังอยู่ในช่วง 300-400 บาท แปรผันกับเรตเงินไทย คุณสมบัติขนาดนี้ ไม่ซื้อกลับไทย ถือว่าพลาดมาก บอกเลย!

 

รวมสกินแคร์น่าซื้อที่ญี่ปุ่น

 

Nameraka Honpo UV Lotion มี 2 สูตร

Nameraka Honpo Wrinkle UV Lotion, SPF43 PA+++, 6-in-1 Lotion, Serum, Lotion, Cream, UV Protection, Light Makeup Effect, Soap Off 

สำหรับสายกังวลริ้วรอย เบื่อผิวหยาบกร้าน เป็นทั้งครีมกันแดด และครีมลดริ้วรอยในหลอดเดียวกัน

จุดเด่น Nameraka Honpo Wrinkle UV Lotion

  1. นอกจากส่วนผสมของสารสกัดจากเต้าหู้ ก็ยังมีส่วนผสมของเรตินอล ส่วนผสมพระเอกตลอดกาล เรื่องลดริ้วรอย

  2. ย้ำว่าน้องเป็นครีมกันแดดและรองพื้น ที่ใส่ส่วนผสมบำรุงผิวอย่างเข้มข้น ใช้ตัวนี้ตัวเดียวบำรุงผิวเพียงพอ ออกจากบ้านได้เลย

  3. น้องใช่สารกันแดดแบบเคมี เลยล้างออกง่ายด้วยโฟมล้างหน้า หรือสบู่ ไม่ต้องเช็ดด้วยโทนเนอร์ หรือ double clean ให้วุ่นวาย

  4. น้องปราศจากสี กลิ่น สารกันแดดแบบเคมี ผิวแพ้ง่ายใช้ได้โลด

  5. เนื้อสัมผัสมีความเป็นเนื้อเจล สีส้มอ่อน ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะ

  6. SPF43 PA+++

ปัญหาผิวที่เหมาะสม:  ✔️ผิวแห้งหยาบกร้าน ✔️ผิวขาดน้ำ ✔️มีริ้วรอยร่องตื้น

ราคา: 1000 เยน/50 กรัม  (ราวๆ300 บาท)

 

Nameraka Honpo Medicated Whitening Skin Care UV Foundation, Makeup Base, 1.8 oz (50 g)  

สายสิว หรือผิวหมองคล้ำ อย่าลืมหยิบตัวนี้กลับ เป็นครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันสิว และอัพผิวกระจ่างใส ในตัวเดียว

จุดเด่น Nameraka Honpo Medicated Whitening Skin Care

  1. ใส่ส่วนผสมของสารสกัดจากเต้าหู้มาเน้นๆ เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ป้องกันสิว และ albutin ส่วนผสมสุดป๊อป อัพผิวกระจ่างขาวใส

  2. ย้ำว่าน้องเป็นครีมกันแดดและรองพื้น ที่บำรุงผิวได้อย่างเข้มข้น

  3. ล้างออกง่ายด้วยโฟมล้างหน้า หรือสบู่ ไม่ต้องเช็ดด้วยโทนเนอร์ หรือ double clean ให้วุ่นวาย

  4. เนื้อสัมผัสเจลสีขาว ซึมง่าย กระจายตัวดี

  5. SPF43 PA+++

ปัญหาผิวที่เหมาะสม:  ✔️มีฝ้ากระ จุดด่างดำ ✔️ผิวหมองคล้ำ 

ราคา:  1000 เยน/ 50 กรัม (ราวๆ300 บาท)

 

10 สายผมหงอก DHC Q10 Premium Color Treatment

เบื่อไหมกับผมหงอก หงอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ขี้เกียจย้อมถาวร ย้อมทีไร ผมแห้งเสียทุกที ได้มาญี่ปุ่นสักครั้งเลยอยากหาทรีตเม้นต์ย้อมผม ทำเองได้ง่ายๆที่บ้านและทำซ้ำได้บ่อยๆ โดยไม่ทำให้ผมแห้งเสีย ชี้ฟู แนะนำเลย DHC Q10 Premium Color Treatment มีทั้งหมด 4 สี Black/ BlackBrown/ Darkbrown/LightBrown ใช้ง่ายเพียงทาทิ้งไว้ 5 นาทีหลังสระผม ติดทนนานด้วยโมเลกุลเม็ดสีที่มีขนาดเล็กระดับไมโครเมตรผ่านเข้าสู่เส้นผม  และมีส่วนผสมของโคเอมไซม์ Q10 กับน้ำมันพืช 5 ชนิด เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดคามีเลีย น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ป้องกันและฟื้นฟูผมแห้งเสียให้ดูสุขภาพดี  ทรีตเม้นต์DHC Q10 Premium Color Treatment  ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก ปราศจากไดอามีน (ส่วนผสมที่มักใส่ในสีย้อมผมสังเคราะห์ ทำให้ผมแห้งเสียง่าย) ปราศจากซิลิโคน ปราศจากพาราเบน ปลอดภัยกับศรีษะและหนังศรีษะ

 

รวมสกินแคร์น่าซื้อที่ญี่ปุ่น

 

วิธีการใช้

1. สระผมด้วยแชมพูปกติเช็ดให้แห้ง

2. บีบ DHC Q10 Premium Color Treatment ในปริมาณที่เหมาะสม แนะนำให้ใส่ถุงมือพลาสติก

ผมสั้น ขนาดวงใหญ่กลางฝ่ามือ 1 วง

ผมยาวประบ่า  ขนาดวงใหญ่กลางฝ่ามือ 2 วง

ผมยาว ขนาดวงใหญ่กลางฝ่ามือ 3 วง

3. ป้ายเน้นบริเวณผมที่ต้องการปกปิด และทั่วๆผม ด้วยหวีย้อมผม (ถ้าไม่มีใช้มือขยุมได้)

4. คลุมด้วยหมวกคลุมผม ทิ้งไว้ 5 นาที

5. ล้างออกให้เกลี้ยงเป่าให้แห้ง

ปัญหาผมที่เหมาะสม:  ✔️ผมหงอก

คำแนะนำ: เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แนะนำให้ทำซ้ำต่อเนื่อง 3 ครั้ง (3 วัน)

ราคา : 2750 เยน/235 กรัม (ราวๆ 916 บาท)

 

หากใครไม่ได้มาญี่ปุ่น แต่สนใจผลิตภัณฑ์ สามารถ Inbox มาสอบถาม Choicechecker ได้เลยยยย


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


น่าใช้ทั้งนั้นเลยค่ะ
28/05/2023 00:34
จดๆๆเข้าลิสเลยค่า
22/12/2022 08:58
น่าใช้ทั้งนั้นเลยราคาไม่แพงด้วย
28/11/2022 15:39
สนใจคิวรอนค่ะ คุณแม่ผิวแห้งมาก ตัวนี้น่าจะใช้ดี
26/11/2022 18:27
ของญี่ปุ่นนี่ใช้ดีจริงๆนะ ยิ่งพวกเติมน้ำให้ผิวเน้นผิวชุ่มชื่นชนะเริศมาก
24/11/2022 08:39
ดีโปรแกรม น่าลองมากมีขายในไทยไหมคะ
23/11/2022 22:40
เตรียมจดไว้เลยค่ะ น่าลองทุกตัว
21/11/2022 13:05
Curel น่าสนใจมากเลยค่า
16/11/2022 18:40
จัดเต็มมากๆค่ะ
14/11/2022 21:43
เครื่องสำอางค์แต่ละยี่ห้อน่าลองใช้มากเลย
12/11/2022 13:36
เครื่องสำอางค์แต่ละตัวดีคุณภาพเกินคาด
11/11/2022 15:49
น่าลองใช้จังมีแต่สินค้าคุณภาพแบรนด์ก็ดีงาม
11/11/2022 15:26
ชอบอ่ะ ใช้อยู่หลายตัวชอบสกินแคร์ญี่ปั่น
11/11/2022 09:46