ถึงพวกเราจะมีสภาพผิวต่างกัน แต่นีคือ 6 สกินแคร์ที่ถูกโหวตให้เป็น The Best!! จากทีมงานชอยซ์เช็คเกอร์จากที่ได้ลองใช้ทั้งปีที่ผ่านมา
เลือกทางลัดอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย
เพื่อนๆตอบได้มั้ยคะว่า ผิวเรากำลังต้องการสกินแคร์แบบไหน? ถ้ายังไม่แน่ใจงั้นเช็คก่อนว่า สภาพตอนนี้เป็นยังไง มันจะช่วยให้เดาทางได้ว่าผิวต้องการอะไรนะ…
ถ้าใครยังไม่แน่ใจสภาพผิวตัวเอง ลองไปทำแบบทดสอบกันได้ที่ คลิก ทดสอบสภาพผิวกันเลย มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นที่เข้าใจผิวเรามากที่สุดค่ะ! ต่อให้มีเครื่องมือมาวัดปริมาณน้ำ ปริมาณไขมัน วัดขนาดรูขุมขนออกมาเป็นค่าทางเทคนิคที่ดูโปรฯแค่ไหนก็คลาดเคลื่อนได้ เพราะอย่าลืมว่าผิวเรามีชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเจอแดด เจอฝน เจอลมหนาว หรือช่วงฮอร์โมนแปรปรวน ผิวก็ปรับตัวรับมือด้วยตัวมันเอง เครื่องมือที่มาวัดค่าต่างๆเนี่ยไม่ได้วัดทุกโมเม้นต์ที่เราเผชิญ ถ้าคอยเช็คและทำความเข้าใจสภาพผิว ก็จะช่วยให้เลือกสกินแคร์มาใช้ได้ถูกจังหวะ ช่วยทั้งชะลอและแก้ปัญหาผิวต่างๆที่เข้ามา
แต่สำหรับคนที่ยังเลือกไม่ได้ เรามี 6 สกินแคร์แนะนำโดยทีมงาน ChoiceChecker เทใจโหวตให้ว่าควรมีไว้ใช้ต่อ โหวตโดยทีมงาน 6 คน 4+1 สภาพผิว ทีมผิวแห้ง ทีมผิวมัน ทีมผิวผสม ทีมผิวปกติ + ทีมผิวแพ้ง่าย ใครอยู่ทีมไหนไปตำตามได้เลย
Cetaphil Bright Healthy Radiance Brightening Day Protection Cream SPF15
โหวตโดยทีมงาน : ทีมผิวผสม ทีมผิวมัน ทีมผิวปกติ
ประสิทธิภาพ : เดย์ครีมจากไลน์อัพหน้าไบร์ทของเซตาฟิล ลดฝ้า-กระ-จุดด่างดำให้สีผิวดูกระจ่างใสด้วยความอ่อนโยน ไม่มีการใช้สารเร่งผลัดเซลล์ผิวแรงๆที่ทำให้ผิวบางลง แต่เลือกใช้เทคโนโลยี GentleBright สูตรเฉพาะที่เห็นผลได้ใน 4 สัปดาห์(ทางแบรนด์เคลมเองนะ) นอกจากนั้นก็เสริมด้วยกลไกปกป้องผิวจากแสงยูวีด้วย SPF15 ระดับที่พอกันแดดได้เบาๆต้องทาครีมกันแดดซ้ำ ถือได้ว่าครบทั้งรักษา&ป้องกันหน้าหมอง +ให้ความชุ่มชื้นได้ด้วย รูทีนตอนเช้าแค่ทาเดย์ครีมเซตาฟิล แล้วจบด้วยครีมกันแดดดีๆซักตัวเท่านี้พอ
ส่วนผสมที่น่าสนใจ :
เนื้อสัมผัส&กลิ่น : เป็นครีมมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความรู้สึกคล้ายครีมกันแดด เกลี่ยง่ายไม่ทิ้งคราบขาว
ขนาด/ราคา : 50g / ฿1,350 ทางไปช้อป : คลิก
รีวิว Cetaphil เพิ่มเติม: ผลลัพธ์การใช้ของ 3 สาว อ่านต่อที่นี่ , ชำแหละ cetaphil อ่านต่อที่นี่
Cetaphil Bright Healthy Radiance Brightening Night Comfort Cream
โหวตโดยทีมงาน : ทีมผิวแห้ง ทีมผิวผสม ทีมผิวแพ้ง่าย
ประสิทธิภาพ : ไนท์ครีมเข้มข้นเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวจากมลภาวะที่เจอมาทั้งวันระหว่างนอนหลับ ตื่นมาหน้าเนียนไบร์ทกระจ่างใสขึ้นด้วยเทคโนโลยี GentleBright พระเอกของสกินแคร์ไลน์นี้ ไม่มีส่วนผสมที่ผิวระคายเคืองง่ายใช้ไม่ได้ อ่อนโยนตามสไตล์เซตาฟิล จากที่รีวิวครีมมาทั้งปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าไนท์ครีมตัวนี้ให้ฟีลลิ่งกำลังดี ไม่หนักไป/ไม่เบาจนไม่รู้สึก ใช้แล้วสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง ไนท์ครีมทั่วไปถ้าชุ่มชื้นมากๆก็จะหนึบหนับผิว ถ้าเป็นตัวที่ใช้กับคนผิวมันก็จะมีเนื้อเจลเบาๆซึมหายวับ ตื่นมาหน้าก็ไม่ชุ่มแล้ว เป็นตัวที่นับว่าเป็น Daily Use คือหยิบมาใช้ได้ทุกวันไม่เบื่อ ไม่เหนื่อยที่จะทา ถ้าวันที่อากาศแห้งมากก็อาจจะหยิบเนื้อครีมที่หนักกว่านี้มาโบ๊ะ(ก็ไม่ได้มีโอกาสบ่อย) ก่อนนอนหยิบตัวนี้มาทาบ่อยสุดแล้ว
ส่วนผสมที่น่าสนใจ :
เนื้อสัมผัส&กลิ่น : เนื้อครีมสีขาวเข้มข้นแต่เกลี่ยง่ายนะ มีความหนักเคลือบผิวเหมาะกับการทาตอนกลางคืน
ขนาด/ราคา : 50g / ฿1,350 ทางไปช้อป : คลิก
รีวิว Cetaphil เพิ่มเติม: ผลลัพธ์การใช้ของ 3 สาว อ่านต่อที่นี่ , ชำแหละ cetaphil อ่านต่อที่นี่
โหวตโดยทีมงาน : ทีมผิวแพ้ง่าย
ประสิทธิภาพ : ‘ครีมกู้ผิวพัง’ คือนิยามของไอเท็มนี้ จบปัญหาผิวแห้ง แดง ผื่น คัน เซ็บเดิร์ม สะเก็ดเงิน ปัญหาผิวแก้ยากแพ้ไม่หยุด สำหรับคนไม่อยากใช้สเตียรอยด์อีกแล้ว ตัวนี้ช่วยเสริมชั้นผิวฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสุขภาพดี ลดการอักเสบ ปกป้องผิวเสียหายจากแสงแดด มลภาวะ และอุณหภูมิร้อน/เย็น
ส่วนผสมที่น่าสนใจ : Extremolytes 7% ส่วนผสมเสริมชั้นผิวให้ชุ่มชื้น สร้างฟิล์มเคลือบเป็นเกราะกำบังให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง และกระตุ้นภูมิคุ้มกันผิวเพิ่มขึ้นให้อึดต่อสิ่งรบกวนที่ทำให้ระคายเคือง
เนื้อสัมผัส&กลิ่น : เนื้อครีมสีขาวหนึบๆแอบหนักนิดนึง เคลือบผิวแน่น แต่ช่วยฟื้นผิวระคายเคืองได้ดีมาก
ขนาด/ราคา : 30ml / ฿1,250 ทางไปช้อป : คลิก
รีวิว Resiskin เพิ่มเติม : อ่านต่อที่นี่
โหวตโดยทีมงาน : ทีมผิวแห้ง
ประสิทธิภาพ : มีไฮยาลูรอนเข้มข้นแค่ครั้งแรกที่ใช้ก็รู้สึกว่าหน้านุ่มชุ่มชื้น หน้าอิ่มฟู ผิวกระชับ ใครผิวแห้งขาดน้ำต้องไม่พลาด นางช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย เติมเต็มริ้วรอยต่างๆได้ด้วย
เอาจริงก็คิดว่าราคาแรงไปหน่อยสำหรับเซรั่มไฮยาแต่นางใช้ดีจริง สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง ผิวฉ่ำฟู แต่ก็อย่างที่รู้ ไฮยาลูรอนที่เติมเข้าไปจะอยู่บนผิวได้อย่างเก่งก็ 24 ชม.แล้วสลายไป มันทำให้ผิวฟูได้ช่วงนึงแต่ไม่ตลอดไป (แง้)
ส่วนผสมที่น่าสนใจ :
เนื้อสัมผัส&กลิ่น : เนื้อเซรั่มใส บาง ซึมค่อนข้างดี
ขนาด/ราคา : 30ml / ฿3,490 ทางไปช้อป : คลิก
รีวิว Mesoestatic เพิ่มเติม: อ่านต่อที่นี่
Zeroid Pimprove Calming Ampoule
โหวตโดยทีมงาน : ทีมผิวมัน ทีมผิวผสม
ประสิทธิภาพ : แอมพูลเกาหลีสำหรับผิวมีปัญหาสิวแต่ไม่อยากติดสารสเตียรอยด์ คอนเซปต์ของนางคือ Zero Steroid ไม่ใช่แค่แก้ไขแต่เน้นเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น ช่วงที่ทีมงานผิวมันสิวบุกเป็นจุดแดงๆข้างกรอบหน้า ก็ได้ตัวนี้แหละช่วยไว้ แอมพูลเนื้อใสใช้ง่าย จัดเต็มส่วนผสมสิทธิบัตรหลายชนิด&สารบำรุงผิวงานดี แถมคุมมันได้อีก เลิศ!
ส่วนผสมที่น่าสนใจ :
เนื้อสัมผัส&กลิ่น : เนื้อเซรั่มใส เนื้อเจลๆ หนืดนิดเดียว พอทาแล้วแตกตัว ซึมง่ายไม่เหนอะ ไม่มีกลิ่นหอม
ขนาด/ราคา : 30ml / ฿1,099 ทางไปช้อป : คลิก
รีวิว Zeroid เพิ่มเติม : อ่านต่อที่นี่
SOS Ultra Protect X3 UV essence
โหวตโดยทีมงาน : ทีมผิวปกติ
ประสิทธิภาพ : เอสเซนส์กันแดดเนื้อเบาสบายไม่หนักผิว ไม่เพิ่มความมันด้วย คอนเซปต์ของเค้าคือ กันแดดที่ดีต้องช่วยให้ชีวิตไม่ยุ่งยาก! ตัวนี้ปกป้องผิวแบบ X3 ทั้งรังสียูวี (UVA/UVB), แสงสีฟ้า (Blue Light) และมลภาวะต่างๆ (Anti-Pollution) โดยจะทำหน้าที่เป็นฟิลม์บางๆ บนผิวคอยดูดซับรังสียูวี และแสงสีฟ้า พร้อมทั้งดักจับสิ่งสกปรก โลหะหนัก ควันบุหรี่ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ไม่ให้ซึมหรืออุดตันรูขุมขน
เป็นตัวที่ไม่มีแอลกอฮอล์, น้ำหอม, สี และส่วนผสมก่อภูมิแพ้ที่น่ากลัว เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย
ส่วนผสมที่น่าสนใจ :
เนื้อสัมผัส&กลิ่น : เนื้อเอสเซ้นส์สีขาวล้วน แต่ทาแล้วไม่วอก ซึมง่ายไม่ทิ้งคราบเหนอะ ไม่มีกลิ่นหอม
ขนาด/ราคา : 30ml / ฿490 ทางไปช้อป : คลิก
รีวิว SOS เพิ่มเติม: อ่านต่อที่นี่
ทีมผิวแพ้ง่าย - “เบสท์สกินแคร์ที่ได้ลองมาทั้งปียกมงให้ไนท์ครีมเซตาฟิลนะ สูตรตำรับดีมีเทคโนโลยีเต็มสิบไม่หัก เนื้อครีมให้ฟีลลิ่งกำลังดี ไม่หนักไป/ไม่เบาจนไม่รู้สึก ใช้แล้วสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากครีมทั่วไป สำหรับคนที่ผิวค่อนข้างเซ้นซิทีฟน่าจะชอบแบรนด์เวชสำอางค์เหมือนกัน เราช้อปสกินแคร์จากร้านขายยาบ่อยกว่าร้านบิวตี้อ่ะ แล้วสกินแคร์ที่ขายในร้านขายยาก็้เห็นเซตาฟิลนี่แหละ ที่ใช้แล้วมั่นใจที่สุด”
ทีมผิวมัน - “ถ้าถามว่าสกินแคร์ที่ดีในมุมของคนผิวมันเป็นแบบไหน ก็ขอยกตัวอย่างแอมพูลลดสิวของ Zeriod แล้วกัน อันดับแรกเนื้อสัมผัสต้องซึมไวก่อนถึงจะอยากทาบนหน้า เนื้อเซรั่มตัวนี้ผ่านตามนิยามของความเบา/เกลี่ยง่าย/ซึมไว ต่อมาคือประสิทธิภาพจะได้ดั่งใจต้องมาจากส่วนผสมที่ดี แบรนด์นี้มีการวิจัยส่วนผสมเทคโนโลยีของตัวเองเยอะ ใช้แล้วก็รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น สิวยุบไว ทาทับสิวได้ไม่แสบ”
ทีมผิวผสม - “ปกติรูทีนช่วงเช้าจะค่อนข้างรีบ ทาแค่เซรั่มแล้วก็ข้ามไปที่ครีมกันแดดเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์แต่ไม่มีเวลา ตั้งแต่มีเดย์ครีมตัวนี้มาก็ช่วยลัดขั้นตอน ทาตัวเดียวได้ 2 เสต็ป อัพผิวไบร์ท+ให้ความชุ่มชื้น ตอนนี้ปรับเป็นทาเดย์ครีม แล้วจบด้วยครีมกันแดด ใช้แทนเซรั่มตัวเดิมไปแล้ว(เพราะการทาเซรั่มบนผิวที่ชุ่มชื้นไม่พอ สารแอคทีฟในนั้นจะออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่นะ)”
ความคิดเห็น