สกินแคร์ของคุณแม่ตั้งครรภ์/ให้นมลูก ส่วนผสมอะไรใช้ได้? อะไรควรเลี่ยง?

สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมลูก การจะใช้ผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะส่วนผสมบางอย่างอาจมีผลข้างเคียงกับลูกน้อยภายในท้อง หรือส่งผ่านทางน้ำนมสู่ลูก ChoiceChecker ขอรวบรวมลิสต์ส่วนผสมมาตอบคำถามคลายความกังวลใจของคุณแม่ว่า ตกลงผลิตภัณฑ์อะไรบ้างที่ยังใช้ได้? ส่วนผสมอะไรบ้างที่ควรเลี่ยง?

จากงานวิจัยพบว่าส่วนผสมที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงมี 2 ประเภทหลักๆ ที่แม้จะอยู่ในรูปสกินแคร์ (ผลิตภัณฑ์รูปแบบทา) ก็ไม่แนะนำให้ใช้ 

1. Retinoids / Vitamin A พบได้ในผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย หรือรักษาสิว เคยมีการศึกษาที่พบว่าส่วนผสมชนิดนี้มีผลต่อความผิดปกติของลูกน้อยในครรภ์ ถึงแม้จะมีบางการศึกษาที่ไม่พบอาการผิดปกติกับลูก แต่การศึกษาในส่วนตรงนี้ยังไม่มากเพียงพอ จึงแนะนำให้เลี่ยงจะดีกว่า
2. Hydroquinone ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อความกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ หรือรักษาฝ้า เป็นส่วนผสมที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้มาก จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้

นอกจากนี้มีส่วนผสมที่ตอนนี้ยังไม่มีผลยืนยันในเรื่องความเป็นอันตรายในการใช้ในรูปแบบของสกินแคร์ แปลว่าคุณแม่ยังสามารถใช้ได้ แต่ควรระมัดระวังการใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วแต่กรณีของการใช้ 

·  Salicylic acid (BHA), Glycolic Acid  พบในผลิตภัณฑ์รักษาสิว ยังไม่มีการศึกษาที่พบว่ามีอันตรายต่อทารกในครรภ์ 

·  Benzoyl Peroxide ยาละลายหัวสิว ถึงจะไม่มีงานที่ศึกษาในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์และเด็ก แต่เป็นส่วนผสมที่ร่างกายดูดซึมแค่เล็กน้อย และขับออกได้ง่าย คุณแม่จึงสามารถใช้ได้

·  Clindamycin, Erythromycin ส่วนผสมช่วยฆ่าเชื้อที่พบในผลิตภัณฑ์รักษาสิว ไม่มีการศึกษาที่พบว่ามีอันตรายต่อทารกในครรภ์ 

·  Dihydroxyacetone พบในผลิตภัณฑ์ทำผิวแทน การศึกษาพบว่าเมื่อใช้ทาเฉพาะที่จะมีส่วนผสมในปริมาณน้อยทำให้คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ยังสามารถใช้ได้

·  ครีมกันแดด ไม่มีการศึกษาที่พบว่ามีผลข้างเคียงให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์

·  ผลิตภัณฑ์กำจัดขนหรือทำสีผม พบการดูดซึมส่วนผสมในปริมาณน้อยจึงคาดว่าไม่เป็นปัญหาหากใช้ในหญิงที่ตั้งครรภ์ในปริมาณที่พอเหมาะ

สรุปแล้วส่วนผสมที่ควรเลี่ยงหลักๆ 2 ตัวที่แม้จะใช้ทาเฉพาะจุด ก็ไม่แนะนำให้ใช้ คือ Retinoids และ Hydroquinone ส่วนตัวส่วนผสมอื่นๆ ยังสามารถใช้ได้ แต่ก็ควรใช้อย่างระมัดระวังแล้วแต่กรณี หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้ และอย่าลืมหมั่นสังเกตอาการของตัวเองอยู่เสมอด้วยนะคะคุณแม่