Retinol (วิตามินเอ) Vs Tretinoin (อนุพันธ์วิตามินเอ) ต่างกันยังไง ใช้อะไรดี?

โดย Admin_ChoiceChecker03 28/11/2023

Tretinoin, Retinol ใช้อะไรดี? เคยสงสัยไหมว่ามันแตกต่างกันอย่างไร? แล้วผิวหน้าแบบเราควรใช้อะไรดี? ใช้อะไรเห็นผลเร็วกว่า? ใช้อะไรแล้วหน้าแหกมากกว่า? บางคนหยิบมาใช้เองโดยปราศจากความรู้ความเข้าใจ ทำให้ผลสรุปสุดท้ายไม่ได้ผลบ้าง หน้าแหกโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นแบบนี้ Choicechecker เลยไม่อาจนิ่งเฉยได้ ขอมาสรุปทำความเข้าใจสารทั้งสองตัว เพื่อจะได้เป็นความรู้ให้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้กับตนเอง

 

เลือกทางลัดไปอ่านที่สนใจเลย

 


 

Retinol (วิตามินเอ) กับ tretinoin (อนุพันธ์วิตามินเอ) คืออะไร และความแตกต่าง?

 

  • เรตินอยด์ (Retinoids) ประกอบด้วยวิตามินเอหรือเรียกว่า Retinol และอนุพันธ์วิตามินเอซึ่งสารกลุ่มนี้มีมากมาย เช่น retinaldehyde, retinoic acid, retinyl esters, tretinoin, isotretionoin, adapalene เป็นต้น

  • วิตามินเอ (retinol) ไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ภายในร่างกาย ต้องรับจากภายนอกเข้าไปในรูปของเรตินิล เอสเทอร์ ( Retinyl ester) หรือ แคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งเป็นสารที่พบในปลา ไข่ ตับวัว ผักผลไม้สีเหลือง สีส้ม สีเขียวเข้ม ตัวอย่างเช่น แครอท ฟักทอง มะละกอ คะน้า บล๊อคโคลี่ ตำลึง ผักบุ้ง เป็นต้น

  • เมื่อรับวิตามินเอในรูปของเรตินิล เอสเทอร์ หรือ แคโรทีนอยด์ ที่รับจากภายนอกเข้าไปเก็บสะสมไว้ในตับ เวลาร่างกายจะใช้ก็แปลงร่างให้ไปอยู่ในรูป retinol แล้วดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แล้วก็แปลงร่างเป็นรูป retinoic acid, tretinoin กระจายเข้ากระแสเลือด เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้

 

ดังนั้นจะเห็นว่าความแตกต่างของวิตามินเอ (retinol) กับ tretinoin ต่างกันที่ระยะเวลาและความรวดเร็วที่ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างวิตามินเอที่รับเข้าไปส่วนมากก็ไปเก็บสะสมไว้ในตับ กว่าจะนำไปใช้ได้ต้องแปลงร่างอีกหลายขั้นตอน ไม่เหมือน tretionoin ที่ไม่ต้องไปเก็บสะสมไว้ที่ใดเลย ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องแปลงร่างอีกหลายขั้นตอน

 

และในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวก็เช่นกัน  tretionoin จึงมีความรุนแรงในการออกฤทธิ์และเห็นผลเร็วกว่าเรตินอล tretinoin จัดเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท “ยา” กล่าวคือ ใช้แล้วเห็นผลไว แต่ก็ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่อาจคาดคิดได้มากด้วยเช่นกัน และควรได้รับการแนะนำการใช้จากผู้เชี่ยวชาญ ต่างกับวิตามินเอ (retinol) ที่อาจจะเห็นผลช้ากว่า และทำให้เกิดผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อย สามารถซื้อใช้ได้เอง ไม่ต้องผ่านการแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ เรตินอลจัดเป็นเพียง “สกินแคร์”

 

ความเข้มข้นของเตรติโนอินที่ใส่ในยามีหลากหลายตั้งแต่ 0.01% จนถึง 0.4% ส่วนความเข้มข้องของวิตามินเอ (retinol) ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจะอยู่ที่ราวๆ 0.0015% ถึง 0.3% เห็นความเข้มข้นที่ใส่จะเป็นแค่หลักจุดทศนิยมแบบนี้ แต่บอกเลยถ้าใช้ไม่ถูกต้อง ใช้ไม่ระวัง ก็เพิ่มอัตราความหน้าแหกได้เช่นกัน (เตือนแล้วน้า)

 

วิตามินเอ (Retinol) ดีกับผิวอย่างไร?

  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวโดยช่วยกระตุ้นการทำงานและเพิ่มจำนวนเซลล์ผิวที่เรียกว่า Fibroblast (ไฟโบรบลาสต์)

  • ลดการเสื่อมสลายของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ดำรงความกระชับและความยืดหยุ่นให้กับผิว

  • ลดการสูญเสียน้ำ ดำรงความชุ่มชื้นให้กับผิว

  • กระตุ้นให้มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว

 

เตรติโนอิน (Tretinoin) ดีกับผิวอย่างไร?

  • กระตุ้นให้มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว

  • เร่งการกำจัดไขมันที่ตกค้างจึงช่วยลดการอักเสบในต่อมไขมัน

  • ยับยั้งการรวมตัวกันของกลุ่มเม็ดสีเมลานิน

  • ยับยั้งการจับตัวของกลุ่มก้อนเนื้อ (keratosis)

 

วิตามินเอ (Retinol) เหมาะกับผู้ที่ประสบปัญหาผิวมีริ้วรอยหรือเริ่มมีริ้วรอย ผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่เรียบเนียน ผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้งกร้านเสียมากกว่า ส่วนเตรติโนอิน (tretinoin) เหมาะกับผู้ประสบปัญหาสิว รูขุมขนอุดตัน ต่อมไขมันอักเสบ โรคสะเก็ดเงิน

 

ความเสี่ยงจากการใช้วิตามินเอและเตรติโนอินที่ต้องคอยสังเกต

  • อาการแสบ ระคายเคือง ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ใช้ด้วย ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่อ่อนไหวบริเวณใบหน้าอย่างรอบดวงตาและรอบปาก

  • ไวต่อแสง ไม่ควรทาเสร็จแล้วไปตากแดด เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้

  • สีผิวเปลี่ยน ยิ่งใช้ในปริมาณมากๆ ความเข้มข้นสูงๆ ใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจไปรบกวนการทำงานของเม็ดสี ส่งผลต่อสีผิวในส่วนที่ทา

 

ดังนั้นการใช้วิตามินเอ และเตรติโนอิน ควรเริ่มใช้จากความเข้มข้นต่ำๆก่อน และหมั่นสังเกตตัวเองอย่างสม่ำเสมอระหว่างใช้

หมายเหตุ ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือมีแพลนจะตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมเหล่านี้ไปเลย โดยเฉพาะเตรติโนอิน ห้ามใช้เด็ดขาด

 

ตัวอย่างสกินแคร์เรตินอลที่ควรมีในรูทีน

 

ตัวอย่างยาทาสิวเตรติโนอิน (tretionoin)

  • Retacnyl® Cream 0.05%,

  • Vitara® Acnetin-A Cream 0.025%

  • Vitara® Acnetin-A Cream 0.05%

  • Tintin Cream 0.05%

  • DermaKlares Tretinoin-A Soft Gel 0.05%

  • Stieva-A™ Cream 0.025%

  • Stieva-A™ Cream 0.05%

 

 

ผลิตภัณฑ์ยาทาสิวเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป อย่าลืมปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด Choicechecker ขอเตือนไว้ก่อน

 

👩‍⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩‍⚕️

 


 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


ลองno.7 อยู่ค่ะหาซื้อง่าย
25/04/2024 09:56
ดีจริงๆค่ะ
10/12/2023 23:23
น่าลองมากค่ะ
10/12/2023 00:10
retinol ค่อยๆ ออกฤทธิ์ดีกว่าเข้มข้นเกินไปคะ
08/12/2023 15:39
ต้องมีในครอบครองค่ะ
07/12/2023 06:43
ปังมากๆค่ะ
07/12/2023 01:00
ข้อมูลดีมีประโยชน์มากเลยครับ
01/12/2023 21:41
ใช้อยู่ค่ะได้ผลดีมาก
01/12/2023 02:34
retinol ช่วยลดสิวได้ดีใช้แต่น้อย
30/11/2023 20:51
ดีจริงๆเลยค่ะ
30/11/2023 18:10