 
				เรื่องความชุ่มชื้น และความสำคัญของเกราะป้องกันผิวเป็นเรื่องที่ยังอยากมาเล่าซ้ำประจำ
เพราะการมีเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรงมีน้ำและความชุ่มชื้นที่สมดุล = “หัวใจของการมีผิวสุขภาพดี”

สารมอยส์เจอไรเซอร์ตัวฮิต “Sodium Hyaluronate หรือ Hyaluronic Acid หรือไฮยา” ที่เราคุ้นๆ กัน มีคุณสมบัติดึงน้ำเข้าผิวได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 1,000 เท่า ลองนึกภาพว่าผิวเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำได้ ไฮยาลูโรนิกแอซิดก็เป็นเหมือนตัวช่วยดูดน้ำของผิวหนังที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเอง มันเป็นสารธรรมชาติที่อยู่ในผิวหนัง ดวงตา และข้อต่อของเรา โดยเฉพาะในผิวหนัง มีไฮยาอยู่มากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณไฮยาทั้งหมดในร่างกาย
ไฮยามีขนาดต่างกันมาก คล้าย ๆ กับลูกบอล บางตัวใหญ่เท่าลูกบาสเกตบอล บางตัวเล็กเท่าลูกปิงปอง และบางตัวเล็กเท่าลูกแก้ว ในทางวิทยาศาสตร์ การวัดขนาดใช้หน่วยที่เรียกว่า "กิโลดาลตัน" (kDa) แต่ขอบอกเลยว่า การแบ่งขนาดของไฮยายังไม่มีมาตรฐานที่เหมือนกันทุกงานวิจัย แต่ส่วนใหญ่จะแบ่งคร่าว ๆ ได้ 4 กลุ่ม:

1.ไฮยาขนาดใหญ่ (ตั้งแต่ 1,000 kDa ขึ้นไป) -บำรุงเกราะป้องกันผิวชั้นนอก
ไฮยาขนาดนี้จะไม่สามารถซึมผ่านชั้น stratum corneum ของผิวหนังได้ และกองอยู่บนผิวชั้นนอก ทำตัวเป็นฟิล์มบางๆ บนผิวหนัง ข้อดีคือช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนัง
2.ไฮยาขนาดกลาง (ประมาณ 200-1,000 kDa) - บำรุงชั้นใต้ผิวหนัง
ไฮยาน้ำหนักโมเลกุล 1000-300 kDa สามารถซึมผ่าน stratum corneum ได้บางส่วน ให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวตอนบน และช่วยลดริ้วรอยเล็กน้อย
3.ไฮยาขนาดเล็ก (ประมาณ 10-250 kDa) - ให้ความชุ่มชื้นอย่างลึก
มีงานวิจัยบอกว่า ไฮยาน้ำหนักโมเลกุลต่ำ (20-300 kDa) สามารถซึมผ่าน stratum corneum และเข้าสู่ชั้นผิวหนังที่ลึกขึ้นได้ มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่น ลดเลือนริ้วรอยได้
4.ไฮยาขนาดเล็กพิเศษ (น้อยกว่า 10-20 kDa) - บำรุงอย่างล้ำลึก
ไฮยาขนาดเล็กพิเศษนี้ยิ่งซึมเข้าผิวได้ล้ำลึกขึ้น เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งเรง ช่วยต้านการอักเสบ ที่มีงานวิจัยบอกว่า ไฮยาน้ำหนักโมเลกุลต่ำพิเศษ (ultra-low molecular weight HA หรือ uLMW-HA) และไฮยาน้ำหนักโมเลกุลสูงสามารถยับยั้งการอักเสบของเคราติโนไซต์ที่เกิดจาก UVB ได้
ที่รอบนี้มีไฮยาตัวเทพจากผู้ผลิตตัวท็อป ส่วนผสมเข้มข้นนั่นคือ Biohyalux HA Hydro Intense Serum มาป้ายยาเพื่อนๆ ที่เลิฟไฮยา หรืออยากมีผิวแข็งแรงได้รู้จักความปังกันค่ะ
คนที่เลิฟไฮยาเหมือนกันน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียง Bloomage Biotech R&D Center ศูนย์วิจัยไบโอเทคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เค้าทำสารเอกสิทธิ์ Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) ที่เป็นกรดไฮยารูลอน 4 โมเลกุล ช่วยบำรุงลึกหลายระดับ คือเรื่องที่ทำให้ Hya ของ Biohyalux ไม่เหมือนใครเลย

 
-Hexagonal Hyaluronic Acid Formulation (HHAF) ที่เป็นกรดไฮยารูลอน 4 โมเลกุล มีทั้งขนาดใหญ่ - ขนาดเล็กพิเศษ
1. Sodium Hyaluronate Crosspolymer → กักเก็บน้ำ ล็อกความชุ่มชื้น ลดการสูญเสียน้ำ พร้อมปกป้องผิวจากฝุ่น PM2.5 และรังสี UV
2. Sodium Hyaluronate → ไฮยาขนาดกลาง-ใหญ่ ล็อกความชุ่มชื้นบนผิวหน้า บำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม มีน้ำมีนวล
3. Sodium Acetylated Hyaluronate → ยึดเกาะผิวแน่น เสริมการกักเก็บความชุ่มชื้นเป็น 2 เท่า รักษาความชุ่มชื้นได้นาน
4. Hydrolyzed Sodium Hyaluronate → ไฮยาขนาดเล็กพิเศษที่ซึมลึกถึงชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน มอบความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวจากภายใน
-BFS (Blow-fill-seal) Technology เทคโนโลยีบรรจุแบบปลอดเชื้อขั้นสุด คงความสดใหม่ของสาร บำรุงได้เต็มประสิทธิภาพ มาในรูปแบบซอฟต์แอมพูล ใช้ง่าย และ คุณภาพยังแน่น
-Creatine - เพิ่มประสิทธิภาพการซ่อมแซมผิวเพิ่มความยืดหยุ่นผิว
ผิวหนังเรามีหลายชั้น คุณสมบัติของไฮยาแต่ละขนาดขึ้นอยู่กับน้ำหนักโมเลกุล ยิ่งโมเลกุลใหญ่ยิ่งมีความยืดหยุ่นดี แต่ก็ซึมได้ไม่ลึก ถ้าใช้แค่ขนาดเดียว มันก็เหมือนทาครีมแค่บนผิว หรือดูแลแค่ชั้นล่างโดยไม่ใส่ใจผิวชั้นนอก การใช้ไฮยาหลายขนาดรวมกัน (Multi-molecular weight HA) เหมือนมีทีมงานที่ดูแลทุกชั้นของผิวไปพร้อม ๆ กัน

ผิวแห้ง - ทุกสภาพผิว
ผิวหลังทำหัตถการ เติมเมโสหรือสารบำรุง
เนื้อเซรั่มใส หนืดนิดๆ ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ไม่เป็นก้อนไม่เป็นคราบ
ซึมแล้วผิวชุ่มชื้นทันทีแบบไม่เหนียวเหนอะเกินไป

ทาสรักไฮยาแบบผักบุ้งคือไม่พลาด ส่วนตัวผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ เซรั่มไฮยาคือขาดไม่ได้ ลองมาแล้วทุกแบบ Biohyalux HA Hydro Intense Serum ตัวนี้คือติดอันดับตัวท็อป สมมงที่เป็นผู้ผลิตตัวท็อปของโลก มีไฮยาที่เป็นสารเอกสิทธิ์ของแบรนด์
เนื้อเค้าเป็นเซรั่มใส หนืดๆ ถ้าคนที่เคยใช้เซรั่มไฮยามาจะนึกออกเลย เกลี่ยง่าย ทาง่าย ซึมเข้าผิวแล้วชุ่มชื้นขึ้นทันที ฟินิชไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เป็นขุย ใช้ได้ทั้งเช้าเย็นเลยค่ะ เรื่องเนื้อคือผ่าน
เรื่องแพ็คเกจ ถ้าเป็นคนใส่ใจเรื่องความ pure ของสารสกัด บอกเลยตัวนี้ตอบโจทย์มาก มาเป็นซอฟต์แอมพูล ใช้ง่ายมาก ไม่ต้องแกะหลอดแก้วให้ยุ่งยาก บีบง่าย ฝาปิดกลับไว้ใช้ได้ ส่วนตัวผักบุ้ง 1 แอมพูลจะใช้ 2 ครั้ง เช้า - เย็น พอดีเลยค่ะ
แล้วได้ใช้ช่วงหลังไปทำหัตถการ เติมเมโสพอดี คือเวลาผิวไปทำหัตถการ การบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้นคือสำคัญมาก เพราะเกราะป้องกันผิวเราต้องการการบำรุง ยิ่งล่าสุดไปทำหัตถการที่เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ได้ไฮยาตัวนี้ไปเสริมยิ่งเริ่ดเลยค่ะ ผิวฟื้นฟูเร็วมาก

#BiohyaluxThailand #Biohyalux #BiohyaluxSerum #BiohyaluxHAHydro #สกินแคร์ผิวสตรอง
แหล่งอ้างอิง
Hyaluronic Acid and Skin: Its Role in Aging and Wound-Healing Processes
 
ความคิดเห็น