เปิดตำนานห้องเครื่องสมุนไพรในสกินแคร์

โดย เภสัชกรประจำ choicechecker 02/12/2020

 

สมัยก่อนเค้ามีสกินแคร์บำรุงผิวมั้ย? ตอนเป็นสิวเค้ารักษากันยังไงในเมื่อไม่มีหมอผิวหนัง?  ถ้าจะพูดถึงความงามสมัยก่อนก็หนีไม่พ้นพฤกษศาสตร์ในการบำรุงประทินผิว จะบอกว่าไม่ว่าชนชาติฝั่งตะวันตกหรือตะวันออกก็สวยฟาดไม่อ่อนข้อกันเลยค่ะ!! เราขอหยิบตำนานฉบับย่อมาเล่าให้ฟังกันกรุบๆ เอ้าเริ่ม!

 

พฤกษศาสตร์หรือพืชสมุนไพรอยู่ในวงการความงามมาเนิ่นนานตั้งแต่ก่อนมนุษย์จะเริ่มนับคริสตศักราชซะอีก ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนแห้งรุนแรงเหลือเกิน ทำให้ชาวอียิปต์ยุคแรกๆ ทั้งชายและหญิงทุกชนชั้นทางสังคมจำเป็นต้องหาอะไรมาปกป้องและรักษาผิวจากอากาศที่แสนโหดร้าย และนี่คือต้นกำเนิดของ ‘สกินแคร์’  ชาวอียิปต์โบราณ ถือเป็นผู้บุกเบิกศาตร์แห่งการใช้สมุนไพร จากหลักฐานที่พบใน Papyrus Ebers (หรือ….) เก่าแก่อายุกว่า 1,550 ปีก่อนคริสตกาล (นี่คือบันทึกทางการแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยนะจ๊ะ)

 

‘พระนางคลีโอพัตรา’ ราชินีอียิปต์ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปทั่วโลกกันดี ชีเป็นผู้คิดค้นความงามล้ำๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมคอัพของพระนางที่จะใช้ #น้ำมันธรรมชาติ เป็นส่วนผสมสำคัญ เช่น น้ำมันมะกอกผสมกับหินศิลาแลงจะได้เป็นลิปสติกสีแดง น้ำมันมะกอกผสมผงถ่านจะได้อายแชร์โดว์สีดำแต่งลุคเฟียสๆฟาดๆ ต้นแบบของสโมค์กี้อายในปัจจุบัน น้ำผึ้ง น้ำนม ก็เป็นหนึ่งในรูทีนปรนนิบัติผิวของพระนางคลีโอพัตรา เธอจะอาบน้ำในอ่างน้ำนมที่ผสมน้ำผึ้ง (ดูหอมหวานน่าหม่ำโน๊ะ~) เพื่อทำให้ผิวนุ่มละมุนและกระชับเต่งตึง


 

ทางฝั่งซีกโลกตะวันตก

ขอจูนความเข้าใจให้ตรงกันก่อน เผื่อใครปรับตัวจากความอียืปต์ไม่ทัน นิยามของสาวงามในซีกโลกตะวันตกตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ คือ...

 

- ผิวขาวซีด แต่ดูสุขภาพดี (ไม่ใช่ซีดป่วยเป็นศพ!)

- มีลอนผมสีทองอร่าม (แบบเจ้าหญิงออโรร่าใน Beauty and The Beast)

- แต่งหน้าในโทนธรรมชาติ (Make Up No Makeup มีตั้งแต่ไหนแต่ไหรหละ)

 

ผู้หญิงที่มีลักษณะตรงตามลิสต์นี้จะถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์ของ ‘ความมั่งคั่งและความงาม’ แต่เครื่องสำอางในยุคนั้นก็ราคาแพงหูฉีก ทำให้สาวที่มีโอกาสใช้จะอยู่ในชนชั้นอีลิทมีฐานะดีเท่านั้นค่ะ ชาวกรีกโบราณรวบรวมความรู้ด้านสมุนไพรมาจากอียิปต์และเมโสโปเตเมีย ยุคนั้นนิยมใช้ ผงจากแร่ตะกั่วขาว หรือผงชอล์ก (ซึ่งจริงๆแล้วอันตรายถึงชีวิตเลยนะคะ!) ทาให้หน้าขาว แล้วเพิ่มความมันเงาของผิว (ให้ลุคเหมือนผิวเฮลท์ตี้) ด้วยน้ำมันมะกอก 

 

ในแถบยุโรปตะวันออกช่วงปี 1470-1670 ตั้งแต่ยุคนวัตกรรมเทคโนโลยีการพิมพ์ในเยอรมัน ทำให้มีสิ่งพิมพ์ที่สามารถอธิบายดีเทลสมุนไพรที่เคยเข้าใจยากให้ดูง่ายขึ้น และสมุนไพรสำคัญหลายชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีในทุกวันนี้ก็มีจุดเริ่มต้นก็มาจากการพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลเมื่อปี 1500 ที่เมืองไมนซ์ ประเทศเยอรมนี

 

ข้ามมาในยุคใกล้ๆปัจจุบันกันบ้างค่ะ ช่วงพีคที่ทำให้พฤกษาธรรมชาติบูมมากกก เกิดขึ้นเมื่อปี 1990-1997 ในสหรัฐอเมริกา มีการใช้สมุนไพรเพิ่มขึ้นถึง 380%!! จุดเปลี่ยนครั้งนี้เกิดจาก ‘โรควัวบ้าระบาด’ ทำให้ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์เปลี่ยนส่วนผสมที่เคยสกัดจากสัตว์มาเป็นพืชพรรณธรรมชาติแทน แล้วก็เริ่มเผยแพร่ข้อมูลเชิงบวกให้ผู้บริโภครับรู้กันมากขึ้น (นี่แหละจุดเปลี่ยนที่ทำให้พืชสมุนไพรแมสขึ้น)


 

ทางฝั่งซีกโลกตะวันออก

จีนโบราณ ก็เป็นอีกชนชาตินึงที่มีชื่อเสียงเรื่องการใช้สมุนไพรมาน๊านนานนับพันปี ตั้งแต่ 481-221 ก่อนคริสต์ศักราชแล้วที่แพทย์ชาวจีนได้จดบันทึกรายชื่อพืชและความรู้ด้านการปรุงยาสมุนไพร ต่อมายังตำรา/คัมภีร์อีกหลายเล่มเลยค่ะ อย่างใน คศ.500 ก็มีการค้นพบตำราชื่อ Shennong Bencao Jing หรือสมุนไพรชั้นยอด ที่รวมข้อมูลสมุนไพรจีนกว่า 365 ชนิดเอาไว้ ข้ามมาที่เกาหลี ราชาสมุนไพร โสมเกาหลี ตำนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์โครยอ (ยุคก่อนที่เกาหลีจะรวมแผ่นดินเป็นประเทศซะอีกค่ะ) ในสมัยนั้นนี่คือสมุนไพรที่มีค่ากว่าทอง! ด้วยความเชื่อที่ว่าโสมมีสรรพคุณครอบจักรวาลเป็นยาอายุวัฒนะที่รักษาได้ทุกโรค!

 

มาใกล้บ้านกันนิด..ตำรับผิวเนียนซิกเนเจอร์แบบคนพม่าต้อง #ทานาคา สิคะ ไม้เนื้อแข็งสีเหลืองนวล+กลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยให้หน้าเนียนใส ป้องกันผิวจากแสงแดด ต้านริ้วรอย คุมมัน แก้ผดผื่นคัน ใช้ได้ทั่วร่างเลยค่ะ(ดับกลิ่นเต่ายังได้) วิธีใช้แบบดั้งเดิมคือฝนท่อนทานาคากับหินแล้วผสมน้ำนิดหน่อย ปัจจุบันมีแบบผงเรียกว่า ‘แป้งพม่า’

 

งามอย่างหญิงไทยสมัยก่อน โบราณเขาว่าต้องมีลักษณะ... ' หน้าใสผุดผ่องเป็นยองใย ' หมายถึง

ผู้หญิงที่มีผิวหน้าเรียบเนียนสดใส *ไม่จำเป็นต้องผิวขาวนะคะ* เพราะยุคนั้นมองว่าผิวเนียน เท่ากับสวย โดยเฉพาะนางรำในวังก็จะหาแป้งฝุ่นมาผัดหน้าให้ดูเนียนหรือมีสูตรสมุนไพรเคล็ดลับพอกหน้าใส

 

- ป้องกันสิวด้วย กิ่งมะขาม : สาวไทยโบราณเค้าเชื่อว่าการล้างหน้าด้วยน้ำต้มกิ่งมะขามจะช่วยป้องกันสิวได้ค่ะ เป็นเทคนิคลดสิวอุดตันและแก้ปัญหาสิวของสาวหน้ามันด้วยกรดจากผลไม้รสเปรี้ยว แต่จะให้ใช้มะขามหรือมะนาวตรงๆ ก็เปรี้ยวแรว๊งคันแสบหน้าเกินไป เค้าถึงเลือกกิ่งมะขามแทน

- น้ำซาวข้าว เท่ากับมอยเจอร์ไรเซอร์ : น้ำซาวข้าวหรือน้ำล้างข้าวรอบ 2 เชื่อว่าอุดมไปด้วยวิตามินและกรดอะมิโนช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นเนียนนุ่ม คุมมัน ต้านริ้วรอย ในสมัยนั้นเค้าใช้น้ำซาวข้าวล้างหน้า หลังจากนั้นก็บำรุงต่อด้วยน้ำมันมะพร้าวค่ะ

- หน้าเนียนใสด้วยขมิ้นชัน : ช่วงหน้าร้อนสิวผดเม็ดเล็กๆชอบขึ้นตามหน้าผาก-คาง สาวๆเค้าจะใช้ ดินสอพอง+ขมิ้นชัน+น้ำผึ้ง ผสมให้หนืดๆหน่อย พอกหน้า 15-20 นาทีแล้วล้างออก

 

การใช้พืช ดอกไม้ น้ำมัน หรือ สมุนไพรมีมายาวนานแล้ว และถูกใช้ด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป อันนี้ก็ขึ้นอยุ่กับจุดประสงค์และนิยมของความงามในพื้นที่นั้นๆ แต่ที่น่าสนใจก็คือ... ทุกวันนี้แบรนด์สกินแคร์หลายๆเจ้าก็ยังคงเอาความรู้และภูมิปัญญาที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน มาพัฒนาและใส่ไปในสกินแคร์แผนปัจจุบัน อาจจะมีการเปลี่ยนวิธีสกัดที่ทันสมัยขึ้น แต่ก็ทำให้เราเห็นว่าความงามที่ได้จากธรรมชาตินั้น คงอยู่ทุกๆสมัยเลยหละค่ะ  


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


ดีจังเลยค่า
15/07/2023 20:28