“โทนเนอร์” ขั้นตอนที่หลายคนอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่รู้มั้ย? สำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย ผิวมัน อยากแนะนำเลยนะว่าควรเพิ่ม”โทนเนอร์”ติดไว้ในรูทีนอีกขั้นตอน เพราะโทนเนอร์จะได้ช่วยจัดการสิว ให้ผิวสะอาดมากขึ้น ลดความมันส่วนเกินออกจากผิวให้หมดจด ลดปัญหาผิวอุดตัน เพราะถ้าจะให้ล้างหน้าจนสะอาดเอี๊ยดมันก็เกินไป ผิวพัง ผิวอ่อนแอหมด จึงควรใช้ “โทนเนอร์มาช่วยเช็ดทำความสะอาดผิว”เพิ่มนี่แหละ เค้าช่วยได้ทั้งผิวสะอาดขึ้น ช่วยให้เราจบปัญหาสิวได้อย่างยั่งยืนและยังได้บำรุงผิวไปในตัวด้วยนะ
เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย
จุดเด่นโทนเนอร์ลดสิว CURA-MD Prebiotic Anti-Acne Balance Essence Toner
ชำแหละส่วนผสมโทนเนอร์ลดสิว CURA-MD Prebiotic Anti-Acne Balance Essence Toner
จับคู่วิธีใช้โทนเนอร์เอสเซนส์ตามสภาพผิว
รีวิวเนื้อสัมผัส CURA-MD Prebiotic Anti-Acne Balance Essence Toner
รีวิวความรู้สึกหลังใช้ CURA-MD Prebiotic Anti-Acne Balance Essence Toner
วันนี้ ChoiceChecker มี 2IN1 Essence Toner มาแนะนำ เป็นอีกตัวช่วยสำหรับคนเป็นสิวง่าย ผิวมัน ช่วยดูแล Microbiome บนผิว ลดปัญหาสิว และ ผลัดเซลล์ผิวเก่า ดูแลผิวไม่ให้เป็นสิวซ้ำๆ นั่นก็คือ CURA-MD Prebiotic Anti-Acne Balance Essence Toner แบรนด์ที่เน้นเด่นเรื่องสิว สีเหลืองสดใสน่าใช้สุดๆ
1.2 in 1 โทนเนอร์น้ำตบ ใช้ได้หลายวิธีตามสภาพผิว
หลายวิธีคือเป็นได้ทั้งโทนเนอร์และเอสเซนส์ จะเช็ด จะตบ จะมาส์กผิวก็ทำได้หมด ขวดเดียวคือคุ้มเลย ใครอยากรู้ว่าผิวเราเหมาะกับใช้วิธีไหนตามไปอ่านต่อข้างล่างเลย
2.ราคาน่ารัก
ใครที่รู้จักแบรนด์นี้จะรู้เลยว่าของเค้าราคาน่ารักมากๆ หลักร้อยต้นๆ เข้าถึงง่าย หาซื้อง่าย แถม Ingredient คุณภาพคุ้มราคาด้วยนะ
3.Prebiotic เติมอาหารให้จุลินทรีย์ในผิว
อาหารของจุลินทรีย์ในผิวสุดสำคัญ ช่วยดูแลให้ผิวแข็งแรง เกราะป้องกันผิวแข็งแกร่งขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาผิวต่างๆ นานา ไม่ทำให้ผิวอ่อนแอจนเป็นสิวซ้ำๆ
4.ช่วยจัดการสิว ดูแลผิวเป็นสิวรอบด้าน
ส่วนผสมเค้าแพ็คเอาแก็งที่ช่วยดูแลผิวเป็นสิวมาแบบรอบด้าน ทั้งช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองช่วงเป็นสิว จัดการแบคทีเรีย C. Acne เชื้อสิวตัวร้าย ช่วยผลัดเซลล์ผิวลดการอุดตัน และยังช่วยปรับผิวกระจ่างใส ค่อยๆจัดการรอยสิว รอยดำให้ดูจางลงได้ด้วย
พูดมาขนาดนี้ แค่จุดเด่น CURA-MD Prebiotic Anti-Acne Balance Essence Toner ก็น่าสนใจแบบสุดๆ งั้นต่อไปเราไปพลิกอ่านส่วนผสมเค้ากันต่อเลยว่ามีส่วนผสมอะไรน่าสนใจบ้าง?
ช่วยเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิว เพิ่มความสมดุลให้ผิว ให้ผิวแข็งแรงมีสุขภาพที่ดีขึ้น ที่เป็นส่วนผสมสำคัญมากๆ กับคนผิวมันเลยนะ เพราะกรดอะมิโนเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของ NMF หรือความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ที่จะช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำจากภายใน เพราะฉะนั้นนอกจากการเติมความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์แบบ Humectants แล้ว ต้องอย่างลืมมองหาส่วนผสมกลุ่ม Amino Acid ด้วยนะ
สารเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ที่รวมเอาสารสกัดจากธรรมชาติถึง 10 ชนิดมาช่วยจัดการปัญหาสิว ทั้งช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน ลดปัญหาผิวอุดตัน และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C. Acne หรือตัวการที่ทำให้เกิดสิวนั่นเอง
หรือสารสกัดจากใบบัวบก ส่วนผสมเจ้าประจำที่ทำหน้าที่ดูแลผิวเป็นสิว เค้ามีหน้าที่ช่วยปลอบประโลมผิว ดูแลผิวที่กำลังระคายเคืองจากการเป็นสิว ลดการอักเสบ ลดการระคายเคือง
อาหารของจุลินทรีย์ในผิว ช่วยดูแลให้ Microbiome แข็งแรงและมาช่วยปรับสมดุลผิวของเราให้บาลานซ์ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ซึ่งสำคัญมากๆ กับผิวเป็นสิวง่ายเลยนะ การที่เราไปดูแลผิวให้แข็งแรง ให้เกราะป้องกันผิวเราแข็งแรงขึ้นจะยิ่งช่วยให้ปัญหาสิวลดลง และปัญหาผิวอื่นๆ ก็เกิดยากขึ้นด้วย
BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำความสะอาดรูขุมขนไม่ให้มีอะไรตกค้างจนเกิดการอุดตัน สามารถลดสิวอุดตันได้ และเป็นอีกส่วนผสมที่คนเป็นสิวควรใช้เลย
ช่วยเพิ่มผิวกระจ่างใส ลดการระคายเคือง จัดการพวกรอยสิว รอยดำที่สิวทิ้งรอยเอาไว้
แค่ส่วนผสมสำคัญที่เค้าใส่มาก็บอกเลยว่าคุ้มมากๆ เฟรนด์ลี่กับผิวเป็นสิวอีก ซึ่งเค้ายังปลอดภัยกับผิวบอบบางแพ้ง่าย อ่อนโยนใช้ง่าย ปราศจาก SLS/SLEs พาราเบน และยังผ่านการทดสอบ Dermatologically Tested ด้วยนะ
วิธีที่1 “เช็ด”
เหมาะกับผิวมันมากๆ เช็ดเพื่อช่วยคลีนผิวซ้ำอีกรอบ เตรียมผิวให้พร้อมก่อนลงสกินแคร์
ช่วยลดปัญหาผิวอุดตัน ความมันตกค้าง ลดโอกาสเกิดสิว
วิธีใช้ : เทโทนเนอร์เอสเซนส์ลงบนสำลี เช็ดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น
แนะนำเพิ่มว่าให้ลองหาสำลีที่นุ่มไม่บาดผิว ค่อยๆ เช็ดเบาๆ ไม่ถูแรงเกินไป เพื่อป้องกันการบาดผิวและระคายเคืองน้าา
วิธีที่ 2 “ตบ”
เหมาะกับทุกสภาพผิว
วิธีนี้จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้แบบรวดเร็ว เหมาะทำหลังจบขั้นตอนล้างหน้า ใช้ตบลงบนผิวเบาๆ เพิ่มความชุ่มชื้น เตรียมผิวในขั้นตอนแรกก่อนบำรุงผิวในสเต็ปอื่นๆ ต่อ
วิธีใช้ : เทน้ำตบลงบนฝ่ามือ ตบลงบนผิวเบาๆ ให้ทั่วหน้า ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น
วิธีที่ 3 “มาส์ก”
เหมาะกับทุกสภาพผิว ผิวระคายเคืองจากสิว
วิธีนี้ช่วยรีเฟรชผิวได้แบบสุดๆ แถมยังดีต่อใจ รีแลกซ์ผิวได้ฟินๆ ต่อเนื่องตลอดเวลาที่มาส์ก เป็นการแช่โทนเนอร์เอสเซนส์ลงบนแผ่นมาส์กผิว แล้วมาส์กทิ้งไว้ได้เลย หรือถ้าใครหาแผ่นมาส์กไม่ได้จะหยิบสำลีมาแช่แล้วมาส์กบริเวณแก้ม หน้าผากก็เพิ่มความฟินให้ผิวได้ไม่แพ้กันเลยนะ โดยเฉพาะผิวที่มีปัญหาสิว มาส์กเฉพาะจุดท่ีสิวขึ้นจะยิ่งช่วยปลอบประโลมให้ผิวเราลดการระคายเคืองลงได้ด้วย
วิธีใช้ : เทลงบนมาส์กหรือสำลีแปะลงบนผิวมาส์กทิ้งไว้ 5-10 นาที ไม่ต้องล้างออก
น้ำเหลวๆ ใสๆ เบาสบายผิวเหมือนน้ำเลย ไม่มีกลิ่นน้ำหอม จะเป็นกลิ่นสารสกัดฟีลรีแลกซ์ๆอ่อนๆ ซึมไวมาก หลังซึมแล้วเบาสบายผิว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะเลย ใช้ตบผิวสบายๆ แช่มาส์กประมาณ 10 นาทีชุ่มชื้นผิวกำลังดี
เป็นขวดใช้เทได้สะดวก แต่ด้วยความที่เนื้อค่อนข้างเหลว อาจจะไหลออกจากมือง่ายนิดนึง ถ้าใช้ตบอาจจะต้องระวัง แต่ถ้าเน้นมาส์ก หรือเช็ดก็ใช้ได้สบายเลย
เนื้อเบามาก เบาสบายผิวฟีลเหมือนใช้น้ำเปล่าที่ได้บำรุงผิวไปด้วย อ่อนโยนผิว ไม่มีกลิ่นน้ำหอมเลย ลองใช้ทั้งสามแบบส่วนตัวจะชอบเอามาตบผิวเพราะสะดวก ใช้ง่ายดีค่ะ หลังตบผิวก็คือซึมไวมาก ไม่เหนอะผิวเลยสักนิด และที่ชอบอีกอย่างคือเอามามาส์กหน้า ได้ฟีลรีแลกซ์ รีเฟรชผิวแบบเต็มที่ดีค่ะ ด้วยเนื้อสัมผัส ส่วนผสม ฟีลลิ่งหลังใช้คิดว่าทีมผิวมันใช้ได้สบายๆ เลยนะ เบาสบายผิว แถมเน้นดูแลผิวมันแบบสุดๆ เลย
ราคา/ขนาด: 350 บาท / 150 ml
ทางไปช้อป
Shopee: คลิกที่นี่
Lazada: คลิกที่นี่
🙏คอนเทนต์นี้ได้รับการสนับสนุนสุดน่ารักจากแบรนด์ CURA-MD🙏
ความคิดเห็น