ทุกครั้งที่กรมอุตุประกาศว่าประเทศไทยเข้าหน้าหนาวแล้ว อุณภูมิประเทศไทยจะลดลง หลายคนก็คงจะเตรียมเสื้อผ้าหน้าหนาวมาใส่กัน เป็นแฟชั่น Winter เกร๋ๆที่ปีนึงจะมาสักแว๊บนึง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้มองข้ามไป คือสกินแคร์ที่จะช่วยดูแลผิวในช่วงอากาศเย็นลง จะเรียกว่าช่วงหน้าหนาวก็เขินๆแหละ >,< อุณหภูมิที่ลดลง จะทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้นง่าย เพราะอากาศแห้งและเย็น
ดังนั้นการดูแลใส่ใจผิวในช่วงอากาศเย็น หรือหน้าหนาวจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
แล้วทามอยส์เจอไรเซอร์อะไรดี ChoiceChecker มีสกินแคร์สำหรับผิวหน้ามาแนะนำค่ะ จดไว้ตามไปซื้อป้องกันผิวแห้งลอกจากหน้าหนาวงนี้ได้เลย โดยจัดให้เอาใจทั้งชาวผิวแห้ง และชาวผิวมัน-ผิวผสม เพราะเราเข้าใจความต้องการที่ต่างกันของแต่ละผิว สกินแคร์จะเป็นกลุ่มเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อให้ผิวแข็งแรง กักเก็บน้ำได้ดี แบบหาซื้อง่าย ราคาน่ารัก งบไม่เกิน 1,000 บาท พร้อมสู้อากาศเย็นและเซฟเงินช่วงปลายปีกันด้วยจ้า
มีส่วนผสมสำคัญที่ทำงานได้เหมือนเซราไมด์และส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ได้อย่างสารสกัดจากใบยูคาลิปตัส นอกจากนั้นก็มีส่วนผสมรักษาความชุ่มชื้นหลายตัว เช่น Glycerin, Squalane, Allantoin เป็นลูกรักที่ใช้ไปเป็นสิบๆ กระปุกแล้ว ยังปันใจให้คนอื่นไม่ได้จริงๆ ผิวแห้ง ผิวพังแค่ไหนน้องก็เอาอยู่เลยนะ น้องอาจจะราคาแรงไปนิดถ้าเทียบกันเจ้าอื่นๆ แต่รอดักตำตอนโปรคือคุ้มมากเลยนะ
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมสีขาว หนักกำลังดี ไม่มีกลิ่น
ขนาด/ราคา: 40 g/ ฿ 1,000
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
มอยส์เจอไรเซอร์ตัวดังที่คนเม้ากันเยอะมากกก ตัวนี้เค้าเน้นเรื่องลดการระคายเคือง เติมความชุ่มชื้น เพิ่มความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิวแบบจุกๆ เนื้อเค้าก็กำลังดี ไม่หนักมาก แต่ก็ไม่เบาเกินไปนะ คนผิวแห้งใช้ได้สบายๆ แอบมีฟีลเคลือบๆ ผิวไว้นิดนึง แถมใช้แล้วผิวนุ่มด้วยนะ ข้อเสียอย่างเดียวของเค้าเลยก็คือแอบหาซื้อยาก แงง แต่ถ้าใครอยากซื้อมาลอง จิ้มลิงก์ได้เลยจ้า แอบไปตามหาร้านที่ของแท้แน่นอนไว้ให้แย้ว
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมสีขาว ทาแล้วมีความเคลือบๆ ผิว
ขนาด/ราคา: 80ml./ ฿700-800 (แล้วแต่ร้าน)
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
เป็นสกินแคร์ที่กลับมาแตกแตนอีกครั้ง เมื่อคุณป้าลิลลี่สาววัย 60 แต่หน้าเด็กมากกกก มารีวิวว่าใช้ Embryolisse ตัวนี้ ความปังนี้ไม่ได้มาเล่นๆ นอกจากเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ เค้ายังเป็นได้ทั้ง Primer, Mask, Makeup remover, After Shave ส่วนผสมที่น่าสนใจคือ Paraffinum Liquidum เป็น Minaral oil ชนิดหนึ่ง ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดการระคายเคือง พร้อมทั้งล็อคความชุ่มชื้นของผิวด้วย Beeswax ถ้าเช้าวันไหนตื่นขึ้นมาแล้วจเอผิวแห้งก็จับน้องมาโบกก่อนลงเมคอัพก่อนได้เลยค่ะ น้องช่วยกู้ผิวแบบ Emergency ได้เลย
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมสีขาว เนื้อค่อนข้างหนัก แต่ซึมได้ดี
ขนาด/ราคา: 75 ml/ 990
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
ครีมกู้ผิวตัวใหม่จาก ZEROID ที่ช่วยกู้ผิวพัง ซ่อมผิวคล้ำเสียจากแดดสำหรับคนผิวแพ้ง่าย เค้ามี MLE Technology ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ลดอาการระคายเคือง แถมมีวิตามินซี ร่วมกับ MVP Technology ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างอ่อนโยนได้ด้วยนะ
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น แต่เกลี่ยง่าย ทาแล้วผิวจะฉ่ำวาวหน่อยๆ
ขนาด/ราคา: 50 ml/ 935
ทางไปช้อป:คลิกที่นี่
แบรนด์ Bioderma นอกจากจะดังเรื่องคลีนซิ่งแล้ว ในส่วนของมอยส์เจอไรเซอร์เค้าก็ปังไม่แพงกันนะ สูตรสีฟ้า Atoderm PP Baume เค้าคือเกิดมาเพื่อกู้ผิวแห้ง ลอก และช่วยปรับสมดุล Micrebiome หรือจุลินทรีย์ตัวจิ๋วบนผิวเรา ให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น แถมเค้ายังช่วยป้องกันน้ำระเหยออกจากผิวมากเกินไปด้วย คือล็อกไว้เลย อากาศแห้ง ผิวลอกยังไงก็ไหว
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมสีขาวข้นๆ เกลี่ยง่าย ไม่มีกลิ่นน้ำหอม
ขนาด/ราคา: 200 ml/ ฿ 890
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
ในส่วนของชาวผิวมัน-ผิวผสม เราเลือกเนื้อมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เน้นความบางเบา สบายผิวมาให้โดยเฉพาะ เพราะเรารู้ว่า ถ้าคนผิวมัน-ผิวผสม เจอครีมที่เหนอะหนะก็จะไม่ชอบ แล้วก็ไม่ใช้ ซื้อมาวางไว้ก็เปลืองเงินกันเปล่าๆ
AQUAporin เจลครีมในตำนาน ส่วนผสมสำคัญของเค้าคือ GG (Glyceryl Glucoside) Hydro Booster ที่ช่วยเพิ่มการส่งน้ำในชั้นผิวอย่างมีประสิทธิภาพ และ BioACTIVE ช่วยเสริมสร้างเกราะความชุ่มชื้นในผิวได้ยาวนาน เติมน้ำให้ผิวอิ่มน้ำ ปราศจากน้ำหอม และพาราเบน
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมเจล บางเบา ซึมไว ไม่หนักผิว ไม่มีกลิ่นน้ำหอม
ขนาด/ราคา: 50 ml/ ฿ 850
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
มอยส์เจอไรเซอร์จากเซตาฟิล เค้าปรับสูตรใหม่ มี 3 Ingredients ใหม่ กลีเซอรีน ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน, ไนอะซินาไมด์ ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ให้ผิวกระจ่างใส, แพนธีนอล ช่วยปลอบประโลมผิว อีกทั้งสูตรใหม่นี้จะช่วยให้ร่างกายเราสามารถผลิต Ceramide ได้เอง ปรับสูตร เปลี่ยนลุคใหม่ แต่ยังอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวเหมือนเดิม
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมบางเบา ซึมดี ไม่มีกลิ่น ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวตัว
ขนาด/ราคา: 118 ml/ ฿ 339
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
ครีม PHYSIOGEL ที่เค้าบอกว่าเป็นเนื้อครีมแบบใหม่ สำหรับผิวมัน ผิวเป็นสิว ที่บอบบางแพ้ง่าาาา!! มีส่วนผสม PEA (PALMITAMIDE MEA)ช่วยลดอาการอักเสบของผิว ป้องกันอาการผิวระคายเคือง GLYCERIN, SODIUM HYALURONATE, CERAMIDE NP ช่วยให้ความชุ่มชื้นให้ผิว และมี Bio Mimic Technology ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและผสานสารให้ความชุ่มชื้นเข้มข้น อ่อนโยนต่อผิว
เนื้อสัมผัส: เนื้อเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ
ขนาด/ราคา: 50 ml/ ฿ 970
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
ไอเทมที่มีเทคโนโลยี MLE (Multi Lamellar Emulsion) ช่วยเสริมชั้นผิวและลดการระคายเคือง พร้อมทั้งยังมีอะมิโน 5 ชนิด ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ตัวนี้เป็นเนื้อโลชั่น ไม่หนักเกินไปสำหรับชาวผิวมัน ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ความดีงามคือราคาน่ารัก เมื่อเทียบกับส่วนผสมและเทคโนโลยีที่ใส่มาให้
เนื้อสัมผัส: เนื้อโลชั่น บางเบา ซึมง่าย
ขนาด/ราคา: 120 ml/ ฿ 690
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
เค้าเป็น Overninght mask เนื้อเจลที่สามารถใช้ได้บ่อย ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น ผิวฟูอิ่มน้ำ พร้อมล็อคความชุ่มชื่นยาวนาน ด้วยความที่เนื้อเบาสบายผิว ไม่เหนอะหนะ เชื่อว่าถูกใจชาวผิวมันอย่างแน่นอน เพราะเราป้ายยาชาวผิวมันไป ก็บอกว่าใช้ง่ายยย~
เนื้อสัมผัส: เนื้อเจลใสสีฟ้า เบา เย็นสบายผิวแบบสุดๆ
ขนาด/ราคา:50g/ ฿ 400
ทางไปช้อป: คลิกที่นี่
อ่านมาถึงตรงนี้คนผิวปกติคงมีน้อยใจมั้ยนะ แล้วผิวปกติทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์อะไรดีล่ะ คำตอบคือ จริงๆแล้วคนผิวปกติสามารถทาได้ทุกตัวนะคะ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวเลย ว่าจะชอบเนื้อครีมหนักหรือเบา ถ้าลองมอยส์เจอไรเซอร์ที่เบาสบายผิวแล้วผิวยังแห้งอยู่ ก็คงต้องเปลี่ยนมาลองมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้นกันดูบ้างน้า
หวังว่าจะถูกใจเพื่อนๆสำหรับช่วงอากาศเย็นบ้านเรา ที่อาจจะมาให้หนาวเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ไม่ควรมองข้ามนะ เพราะผิวเราอาจจะเซ็นซิทีฟก็ได้ ดูแลผิวเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อผิวที่ดีในระยะยาวกันดีกว่า จะได้ไม่เสียเงินกับการซื้อคอสคลินิกเยอะเกินไป อิอิ
Reference
ความคิดเห็น