รีวิว Laura Mercier Tint moisturizer blush #โนวสปอน #ซื้อเองใช้เอง ที่เจ๊มิ้นต์บอกเลยว่าไม่เสียดายที่ซื้อมา สีสวยละมุน ติดทนนาน บำรุงผิวด้วย สีสวยด้วย ไอเทมมาแรงที่ไม่ได้ฮอตแค่ในไทย แต่หมดสต๊อกหลายสีที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน
เลือกทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจเลย
พอดีที่บลัชออนอันเก่าของเจ๊หมดและกำลังเบื่อกับบลัชออนแบบฝุ่นอัดแข็งที่สีสวยก็จริง แต่ไม่ถึงครึ่งวันสีหลุดหมด ยิ่งตอนใส่แมสก์ ถอดมาแล้ว ว้าว! แมสก์ก์สวยมาก แต่ที่หน้าแทบไม่เหลืออะไรเลย รอบนี้เจ๊เลยตั้งใจว่าจะลองบลัชออนแบบครีม หรือเจล (ทินต์) เพราะแอบคิดว่าความเป็นทินต์ ที่เนื้อเป็นครีมๆ เจลๆ มีทั้งส่วนผสมที่เป็นออยล์บ้างเล็กน้อยตามประเภทและสารช่วยยึดติด (surfactant) ที่ใส่เข้าไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยให้ติดแก้มของเรามากกว่าแบบฝุ่น (อันนี้คือใช้ความรู้คาดเดาล้วนๆ ไปลองใช้จริงจะเป้นไง อ่านต่อเลยค่ะ!!)
Laura Mercier Tint moisturizer blush ก็มีหลายสีมากกกกก แบบยืนหน้าเชลฟ์แล้วใจมันสั่น คือมีทั้งหมด 14 เฉด ยิ่งตอนมาอยู่รวมกันที่ชั้นวาง Laura Mercier ก็คือความสวย ความละมุนเปล่งประกายออกมาชัดเหลือเกิน สุดท้ายยอมตัดใจ หยิบมาแค่ 1 เฉดพอก่อน กลัวว่าจะใช้ไม่ไหว 55555
สี Laura Mercier Tint moisturizer blush ที่เจ๊เลือกมาเป็นสี Corsica หรือสีส้มพีช
เพราะที่ญี่ปุ่น สี southbound, promanade, provene ที่อยากได้หมดไวมาก เลยได้สีนี้มาแทน (จริงๆ คือเล็งไปแล้ว 4 เฉดจ้าา แอบคิดว่าดีแล้วที่ของหมด ไม่งั้นกระเป๋าตังค์ร้องไห้) ซึ่ง สี Corsica หรือสีส้มพีช ก็สวยละมุนถูกใจเช่นเดียวกัน เหมาะมากกับใครที่ต้องการลุคสวยธรรมชาติ แก้มมีเลือดฝาดนิดๆ (แบบตื่นมาฉันก็สวยละมุนแบบนี้แล้วจ๊ะ) หรืออาจจะดูเป็นลุค working woman ก็เหมาะ ไว้เรียกความน่าเชื่อถือ
Laura Mercier Tint moisturizer blush บลัชออนของ Laura Mercier ตัวนี้ เจ๊ลองใช้แล้วคิดว่าแตกต่างกับบลัชออนประเภทอื่นๆเลยนะ ความที่เนื้อเป็นเจลมากกว่าครีม (สัมผัสได้ว่ามีสัดส่วนของน้ำมากกว่าออยล์) เบาบางมากกว่า ไม่มันและไม่เหนียวเหนอะหนะ หลังจากทาจะรู้สึกเบาๆ เหมือนฟิล์มบางๆ เคลือบผิว
เจ๊แอบใช้ฟองน้ำช่วยแต่งหน้า แล้วเกลี่ยให้เข้ากันอีกรอบด้วยแปรงแต่งหน้า เม็ดสีในบลัชออนจะค่อยๆ กระจายตัวไปทั่วผิวได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าเทียบกันบลัชเจลของ Laura Mercier Tint moisturizer blush ยังแอบกระจายตัวตอนเบลนด์บนผิวยากกว่าบลัชออนครีม 2 ยี่ห้ออื่นที่เคยใช้มา แต่อันนี้เจ๊ก็ไม่ได้ติดอะไร แต่ถ้าใครสายบีซี่ ยุ่งๆ ต้องแต่งหน้าด้วยความเร็วแสง อาจจะมีเซ็งนิดหน่อย แต่เจ๊ว่ายังไงก็ไหว
ปกติพวกบลัชแบบทินต์ จะมีส่วนผสมของออยล์ในปริมาณมาก เพราะนอกจากช่วยให้ติดผิวได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวอีกด้วยนะ ซึ่ง Laura Mercier Tint moisturizer blush ถึงแม้จะเป็นบลัชเจล แต่เชื่อเจ๊มั้ยว่า เจ๊ทาตอนเช้า ทำนู่นทำนี่ไปจนถึงเย็น สีแก้มยังเด่นกว่าสีตาอีกจ้าา ติดยาวนานมาก อันนี้เจ๊บอกเลยว่า Laura Mercier ติดทนมากกว่า 2 บลัชครีมยี่ห้ออื่นที่เคยลองมาด้วย เพราะพวกนั้นประมาณ 8 ชั่วโมง ก็หลุด หายตัวไประหว่างวัน ซึ่งทาง Laura Mercier แจ้งสรรพคุณไว้เช่นกันว่า Laura Mercier Tint moisturizer blush ติดทนทนยาวนานถึง 12 ชั่วโมง (ซึ่งก็ไม่เกินไปจากที่เคลมจ้าา เจ๊ลองมาแล้ว) แต่ทีนี้ เจ๊อ่ะลองใช้ที่ญี่ปุ่น อากาศเอยอะไรเอยก็ค่อนข้างจะร้อนน้อยกว่าไทยอ่ะเนาะ เพราะฉะนั้นถ้าใครอยู่ไทยแล้วอยากซื้อไปใช้บ้าง แล้วต้องเจอแดดหรืออากาศร้อนมากกว่าที่ญี่ปุ่น เจ้แอบเดาว่าน้องอาจจะหลุดง่ายกว่านิดนึง แต่บอกเลยว่าความที่เค้าหลอดน่ารัก ขนาดปุ๊กปิ๊กพกใส่กระเป๋าไปเติมระหว่างวันง่ายมาก ไม่เลอะเทอะแน่นอน
Laura Mercier Tint moisturizer blush **ไม่ใช่แค่ทินต์เติมแก้มอย่างเดียวนะจ๊ะ แต่ความคุ้มคือน้องยังเป็นสกินแคร์ที่ช่วยบำรุงผิวด้วย Laura Mercier เค้าเลือกใช้ส่วนผสมของสารสกัดต่างๆจากธรรมชาติ เช่น RASPBERRY SEED OIL สารสกัดจากว่านหางจระเข้ สารสกัดจากขมิ้น ในการให้ความชุ่มชื้นเป็นการบำรุงผิวบริเวณโหนกแก้มไปในตัว นอกจากสวยละมุน แล้วยังไม่ทำให้ผิวอ่อนแออีกด้วยความชุ่มชื้นบนใบหน้าก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ ที่จะทำให้สีของบลัชออน หรือเมคอัพชนิดอื่นๆ ติดได้ทนนาน เพราะถ้าหน้าแห้งทีไร แต่งหน้าไม่ติดทุกที เดี๋ยวแป้งก็แตก รองพื้นตกร่อง บลัชออนก็หลุดเร็วยังกับไม่เคยทามาก่อน ส่วนถ้าหน้ามันไปเมคอัพก็ละลายหลุดง่ายออกมาพร้อมกับน้ำมันบนผิวหน้า ดังนั้นผลิตภัณฑ์เมคอัพที่ดีควรคำนึงถึงต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาจากผิวด้วย เจ๊เฟิร์มเลยว่า Laura Mercier ทำการบ้านมาดี และเข้าใจปัญหาจุดนี้ดี เลยเลือกบลัชออนประเภทเจลที่เหมาะกับคนทุกสภาพผิว แต่ก็ไม่ลืมเน้นย้ำด้วยการใส่ส่วนผสมจากธรรมชาติให้ความชุ่มชื้นเพื่อไม่ให้ผิวหน้าแห้งเกินไป ขณะเดียวกันก็ไม่มันจนเกินไป จนเป็นอุปสรรคต่อการแต่งหน้า
Ethylhexyl Olivate เป็นสารช่วยยึดติด (surfactant) และสารให้ความเรียบเนียน ส่วนผสมน่าสนใจที่ทาง Laura Mericer ใส่มาเป็นอันดับต้นๆ สาร Ethylhexyl Olivate ได้มาจากสกัดน้ำมันมะกอก ซึ่งเข้ากับผิวได้ดี นอกจากช่วยติดทนแล้วไม่เป็นอันตราย ยังให้ความสมูทเนียนนุ่ม เคลือบผิวเบาๆ ดังนั้นเวลาเช็ดทำความสะอาด Laura Mercier Tint moisturizer blush ควรดับเบิ้ลคลีนซิ่ง เพื่อไม่ให้ตกค้างจนทำให้เกิดสิวได้
Laura Mercier Tint moisturizer blush ที่ญี่ปุ่น ราคา 3410 เยน (เป็นเงินไทยประมาณ 1,136 บาท) แต่แอบกระซิบว่าราคาที่ไทยแค่ 990 บาทเองนะ ถูกกว่าพอสมควรเลย เจ๊แอบกำหมัดแล้วนะ แต่ถึงเจ๊จะจ่ายแพงกว่าก็ยอมนะ เพราะสำหรับเจ๊ถือว่าคุ้ม ด้วยความละมุนของสี สร้าง finish look ให้ผิวดูสวยใส สุขภาพดี มีเลือดฝาด ทำให้เจ๊กลมกลืนไปกับสาวญี่ปุ่นได้ และประสิทธิภาพในเรื่องของการติดได้อย่างยาวนาน (อาจไม่ถึง 12 ชั่วโมง ราวๆ 7-8 ชั่วโมงที่สียังเด่นชัด) ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าตกเย็นสีแก้มจะหมด ซ่อนฝ้ากระ บนหน้าเจ๊ได้ เพราะยังเป้นปัญหาผิวที่ทำให้เจ้ขาดความมั่นใจมากที่สุด ฮือออ
รอบนี้จบแล้วกับการรีวิว Laura Mercier Tint moisturizer blush บลัชเจลสีสวยละมุน แบบพระเจ้าสร้าง มีฟีลลิ่งเคลือบผิวเบาๆ ไม่มัน ไม่เหนียว ติดทนนานเมื่อเทียบกับบลัชครีมที่เคยทดลองใช้มา และมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นจากธรรมชาติในการบำรุงผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว ไว้รอบหน้าจะมีรีวิวผลิตภัณฑ์ไหนของ Laura Mericer อีกอย่าลืมติดตาม choicechecker ไว้นะคะ และใครที่ลองใช้ไปแล้วคอมเมนต์มาแชร์กันหน่อย ว่าชอบมั้ย?
ความคิดเห็น