รีวิว คู่หูสุดปัง เซรั่มหมอกุ้ง น้ำตบเห็ด จาก Vikka Skincare

ได้ยินชื่อมาสักพักในที่สุดก็ได้ลองใช้กับตัวเองแล้วครับ Vikka Vit-Active B3 Zinc PCA และอีกตัวคือน้ำตบเห็ดพิโค่ Pico Biotic X Mushroom Essence 

ที่เราทดลองใช้มาซักพักแล้วเลยอย่างหยิบเอามาเล่าสู่กันฟังทั้ง 2 ตัวเลยครับ

ส่วนตัวเราเป็นคนที่มีปัญหาผิวแห้งครับ มีสิวบ้างเล็กน้อย และมีรอยสิวเก่าๆอยู่บ้างครับ ซึ่งทั้งเซรั่มและน้ำตบ 2 ตัวนี้ถือว่าเข้ามาช่วยตอบโจทย์ปัญหาที่เรามีได้อย่างลงตัวเลยครับ เลยอยากมาแชร์ว่าของเขาเด็ดยังไงบ้าง เริ่มจากตัวเซรั่มที่หลายๆคนรู้จักในชื่อ “เซรั่มหมอกุ้ง” ก่อนเลยครับ

Vikka Vit-Active B3 Zinc PCA 

คอนเซ็ปท์ของตัวนี้คือ การจบปัญหาของสิวที่ต้นเหตุเลยครับ ทั้งเรื่องการลดความอุดตัน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียก่อสิว ช่วยลดความมัน และช่วยลดรอยดำจากสิวด้วยครับ

ในแง่ส่วนผสมก็ต้องบอกเลยว่าจัดมาเน้นๆเด่นๆเลยครับอย่างเช่น

[5% Niacinamide]

ความเข้มข้นที่มีประโยชน์ในหลายๆด้านมาก ทั้งช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว, ช่วยให้ผิวกระจ่างใส, ช่วยยับยั้งการเกิดสิว, ให้ความชุ่มชื้นกับผิว และลดรอยสิวต่างๆ

[2% Glycolic Acid]

ช่วยในการผลัดเซลล์ชั้นนอกออก เพื่อให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น และให้ผิวดูกระจ่างใส่ขึ้นด้วยครับ

[1% Salicylic Acid]

ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนสะอาดขึ้น, ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว นอกจากนี้เขายังช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และช่วยลดบรรเทาการอักเสบไปในตัวด้วยครับ

[Zinc PCA]

ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว, ช่วยปลอบประโลมผิว และยับยั้งการเกิดสิวด้วย นอกจากนี้เขายังเสริมการทำงานกับ Centella Asiatica หรือสารสกัดใบบัวบก ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดีด้วยครับ

ตัวนี้เป็นเซรั่มที่สามารถใช้ได้ทุกวันเลยนะครับ และเหมาะมากเลยกับคนเป็นสิว หรือคนมีรอยจากสิว เพราะจะช่วยคุมสิว ช่วยลดรอยจากสิว และยังช่วยเสริมความแข็งแรงเกราะป้องกันผิวด้วยครับ นอกจากนี้เนื้อเซรั่มเขายังเบาสบาย ซึมไว ใช้ได้ทั้งช่วงเช้า และช่วงกลางคืนเลยครับ

ส่วนตัวเราใช้แล้วเราชอบตรงที่เนื้อเซรั่มเบาสบาย ทาแล้วเกลี่ยง่ายมาก แต่ยังให้ความชุ่มชื่นได้ดีเลย เซรั่มเขาไม่มีกลิ่น เพราะฉะนั้นคนที่กังวลเรื่องนี้หายห่วงได้เลย ปกติเราจะใช้แค่เฉพาะช่วงกลางคืนใช้เป็นตัวหลังจาก Pico Lotion Mushroom 

หลังตื่นมาผิวยังคงชุ่มชื่นอยู่ และอาจเพราะรุขุมขนกระชับขึ้น เลยทำให้จำนวนรูขุมขนที่ปกติแล้วมองเห็นได้ชัด ลดจำนวนลงด้วยครับ ใช้ช่วงแรกๆอาจไม่ค่อยเห็นผลอื่นๆนอกจากความชุ่มชื้นนะครับ แต่พอใช้อย่างต่อเนื่องจะเห็นผลเรื่องรอยสิวเก่าๆจะจางลง และผิวค่อนข้างสะอาดครับ

อีกเรื่องที่เราประทับใจคือ เราว่าเขาออกแบบมาได้อ่อนโยนเลย เพราะถึงแม้ในส่วนผสมมี 1% Salicylic Acid และ 2% Glycolic Acid แต่ไม่ได้ทำให้เกิดอาการแสบ แดง หรือระคายเคืองครับ เลยมองว่าเป็นอีกจุดที่ทำให้ใช้ได้ง่ายมากๆ

Pico Biotic X Mushroom Essence

ตัวนี้เป็นตัวที่เราชอบเป็นพิเศษเลยครับ ตั้งแต่แพ็คเกจที่มีจุกปิดด้านใน ซึ่งออกแบบมาไม่ให้น้ำตบหกออกมาง่ายๆ ถือว่าเป็นความใส่ใจของแบรนด์จริงๆครับ

โดยคอนเซ็ปท์ของน้ำตบตัวนี้คือ เป็นได้ทั้งโทนเนอร์, พรีเซรั่มทำให้ผิวชุ่มชื่น และการเติมสารอาหารให้ผิวครับ โดยตัวนี้เขาใส่สารสกัดจากเห็ด 3 สายพันธุ์เลยที่จะช่วยเสริมชั้นผิว และช่วยส่งเสริมการกระตุ้นคอลลาเจน ได้แก่

-Fomes Officinalis Extract

-Lentinus Edodes Extract

-Sparassis Crispa Extract

นอกจากนี้ยังมีสารบำรุงอื่นๆที่มีประโยชน์กับผิวมากๆด้วยครับเช่น

[Ectoin]

ช่วยลดการอักเสบ ช่วยลดการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง (Transepidermal Water Loss : TEWL),ช่วยลดอาการผื่น, ลดรอยแดง, ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวได้ด้วย และยังช่วยลดความเสียหายจากการถูกรังสียูวีทำลายระดับเซลล์ด้วยครับ

[Lactobacillus Ferment]

เป็นการหมักแบคทีเรีย 3 ชนิด ช่วยเติมสารอาหารให้ผิว และเสริมภูมิต้านทานผิวครับ

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มช่วยให้ความชุ่มชื้นเช่น Glycerin, Methyl Gluceth-20, Sodium Hyaluronate 

และกลุ่มที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่น Ectoin, Sophora Flavescens Root Extract, Asiaticoside, Beta-Glucan 

สำหรับตัวนี้ก็สามารถใช้ได้ทุกวันเหมือนกันครับ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย เราชอบตัวนี้เพราะเขาช่วยเรื่องชุ่มชื้น และปลอบประโลมผิวได้ดีมาก และช่วยลดอาการอักเสบได้ดีมากๆด้วยครับ ผิวเราเลยจะสงบ และไม่อักเสบไม่ระคายเคืองใดๆทั้งสิ้นครับ 

จากการลองใช้มาสักระยะ เรารู้สึกว่าผลของตัวนี้คือไม่ได้หวือหวาอะไรครับ แต่เป็นเหมือนตัวที่ใช้แล้วสบายใจ และรู้สึกปลอดภัยมากกว่าครับ เพราะเราใช้แล้วผิวจะชุ่มชื่น อิ่มฟู และผิวสงบมาก ไม่อักเสบ ไม่ระคายเคืองเลย ส่วนตัวเลยมีความเห็นว่าถ้าคนที่ผิวแพ้ง่าย มีปัญหาผิวอักเสบหรือระคายเคืองบ่อยๆ จะต้องรักตัวนี้แน่นอน

และปกติแล้วเราเป็นคนผิวค่อนข้างแห้ง หลังจากใช้น้ำตบตัวนี้แล้วผิวชุ่มชื้นขึ้นมาก และผิวแห้งลดลงครับ 

สรุป : ทั้ง 2 ตัวเป็นสกินแคร์ที่เด่นเรื่องการจัดการสิว และให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิวในเวลาเดียวกัน ส่วนผสมของทั้ง 2 ตัวใส่มาแบบไม่ทับซ้อนกัน สามารถใช้เสริมกันได้เลยครับ จะให้ผลดียิ่งขึ้น สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว รวมถึงผิวแพ้ง่ายครับ 

ผลจากการใช้ทั้ง 2 ตัวสิ่งที่เห็นได้ชัดสำหรับเราคือ เขาช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมาก ให้ความชุ่มชื้นและช่วยทำให้รอยสิวจางลงครับ ระหว่างการใช้ผิวค่อนข้างสะอาด และไม่มีสิวใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาครับ เรามีความเห็นว่าเป็นสกินแคร์ที่เหมือนเป็นพื้นฐาน สามารถใช้ได้ทุกวัน และเป็นตัวที่ใช้แล้วรู้สึกปลอดภัยกับผิวครับ