คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางแต่ละสภาพผิว

หน้าแห้ง - หน้ามันอย่างเราใช้คลีนซิ่งตัวไหนถึงเหมาะ? หน้าลูกผสมอย่างผมควรไปทางไหน? มีผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหลายตัวออกมา ทำให้พางุนงงสับสนกันได้อย่างง่ายดายว่า “ต้องใช้ตัวไหนถึงจะดีที่สุดต่อใบหน้าของเรา?” (ขมวดคิ้วเอียงลำคออย่างสงสัย) 

การทำความสะอาดหน้าต้องโฟกัสให้ดีเลยนะคะ เพราะการล้างหน้าที่ไม่ดีไม่เกลี้ยงนั้น คือต้นตอแห่งอุบัติภัยที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าสิว ผิวแก่ไว ซึ่งแต่ละบุคคลจะใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอาง (หรือที่เรียกว่าคลีนซิ่ง) ตัวเดียวกันไม่ได้  อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ A เขาเหมาะกับคนหน้าแห้งสายแต่งเบาผลิตภัณฑ์ B เขาเหมาะกับคนหน้าลูกครึ่งสายออกงาน ส่วนผลิตภันฑ์ C อาจจะเหมาะกับคนหน้ามันแต่เป็นสายโบก ฯลฯ ดังนั้น เราจะคิดแต่เพียงว่า ใช้คลีนซิ่งตัวไหนก็ได้ ขอแค่ล้างสะอาดพอ เท่ากับผิด สิ่งที่ต้องคำนึงพึงบรรจบคิดให้ครบด้านก็คือ…

 1. สภาพหน้าที่แท้ทรูว่าหน้าฉันจัดอยู่ในประเภทไหน แห้ง มัน หรือผสม แพ้ง่ายหรือชนะง่าย? (ค้นหาง่ายกว่าตัวตนแน่นอนค่ะ ซึ่งขณะนี้ดิฉันก็กำลังค้นหาอยู่เช่นกัน)

 2. ไลฟ์สไตล์แบบเราเหมาะกับผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางลักษณะอย่างไร? 

วันนี้ ChoiceChecker มีตัวอย่างคลีนซิ่งดีๆเพื่อล้างเครื่องสำอางกว่า “12 ตัวเด็ด” สำหรับทั้ง 3 สภาพผิว (+ผิวแพ้ง่ายเพิ่มมาอีกหนึ่ง) มาให้รู้กระจ่างกันไปว่า ตัวไหนใช้ดี ตัวไหนเหมาะกับสายใด ทั้ง สายกันแดด สายแต่งเบา สายออกงาน และ สายโบก
**(มีรูป PRODUCT ประกอบให้ด้านล้างนะคะ)**

คุณอยู่ในสายไหน?

สายกันแดด: ทาแค่กันแดดก็พอ เจ็บคอไม่ต้องแต่งมาก (เน้นบำรุง)
สายแต่งเบา: หน้าโล้นกลัวคนตกใจ ขอแต่งแบบใสๆ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (แต่งอย่างเบามือ)
สายออกงาน: งานไหนไปนั่น บ่ยั่นพร้อมทุกสถานการณ์ (ดูออกว่าแต่งหน้าแต่ไม่ได้หนามาก)
สายโบก: ไม่มีอะไรต้องโชว์ ความเรียบโก้คือฟูลคัฟเวอเรจ (ปิดให้มิดเท่านั้น • Full coverage)

คราวนี้ก็ถึงเวลาของการนำเสนอคลีนซิ่งทั้ง 12 ชนิด ที่มีความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และผิวพรรณที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ค่ะ

1. Clarins Gentle Foaming Cleanser with Shea butter

โฟมล้างหน้าสีติดเหลืองนิดๆ โดดเด่นด้วยเชียบัตเตอร์ เสริมทัพด้วยGypsophila และโปรวิตามินบี 5 ช่วยปลอบประโลมและบำรุงให้ผิวเนียนนุ่มหลังล้าง ไม่แห้งเอี๊ยดจนเกินไปแต่ก็ไม่ได้อ่อนปวกเปียกจนล้างกันแดดไม่ได้ ดังนั้นคุณคลาแรงคนนี้จึงเหมาะกับคนหน้าแห้งที่ไม่ได้แต่งหน้าแต่ทากันแดด ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ  

2. Kiehl’s Ultra Facial Cleanser

คุณเขาเป็นคลีนเซอร์ล้างหน้าลักษณะเจลกึ่งใส ล้างกันแดดได้หมดจด ชูโรงมาด้วยส่วนประกอบทั้ง น้ำมันสควาเลน น้ำมันแอปพริคอต วิตามินอี และน้ำมันอะโวคาโด ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของผิว จึงมอบความชุ่มชื้นไม่แห่งเอี๊ยดหลังล้างได้ กลางๆแบบกำลังพอดีเหมาะกับลูกครึ่งอย่างผิวผสมสายกันแดด
 

3. Clinique Wash Away Gel Cleanser

คุณคนนี้เป็นคลีนเซอร์จากคลีนิกข์ มีลักษณะเป็นเจลใสล้างกันแดดหนักๆและน้ำมันส่วนเกินได้อย่างหมดจด ปลอบประโลมผิวด้วยโบทานิคัล เช่น ไพน์ โรสแมรี่ ตะไคร้ และยูคาลิปตัส ดีต่อสายกันแดดที่มีสภาพผิวมันเป็นอย่างมากค่ะ

4. The Ordinary Squalane Cleanser

คลีนซิ่งเนื้อบาล์มสีขาวจาก The Ordinary วิธีใช้คือบีบวนทั่วไปหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำ โดดเด่นด้วยสควาเลนที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นหลังล้าง ไม่แห้งตึง ช่วยล้างคราบเมคอัพและสิ่งสกปรกออกได้อย่างหมดจด จึงเหมาะกับสายกันแดดที่มีผิวหน้าแห้งเป็นอย่างดีค่ะ 

5. Bobbi Brown Makeup Melter & Cleanser

คลีนซิ่งของบอบบี้บราวน์ตัวนี้มีลักษณะแปลงร่างเป็นเนื้อโฟมเมื่อนวดคลึง จึงช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างมือกับผิวหน้า มีส่วนประกอบที่ช่วยปลอบประโลมผิวคือสารสกัดจากแครนเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ โกจิเบอร์รี่ และคาเฟอีน ล้างได้สะอาดหมดจด เหมาะกับสายแต่งเบาและสายออกงานที่มีสภาพผิวผสมค่ะ

6. Curel Makeup Cleansing Gel

คลีนซิ่งของคุณคิวเรลนี้มีเนื้อเป็นเจลใสแต่ข้น คลึงวนทั่วไปหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เหมาะกับคนผิวลูกครึ่ง หรือผิวผสมที่มีความบอบบางแพ้ง่าย ล้างเครื่องสำอางประเภทเบสได้เกลี้ยงดี ไม่ได้ทิ้งความรู้สึกแห้งตึงหรือนุ่มลื่นจนเกินไป อ่อนโยน ดีผิวแพ้ง่ายสุดๆค่ะ

7. Philosophy Purity Cleanser

คลีนซิ่งครีมล้างเครื่องสำอางสีขาวจากฟิโลโซฟี ใช้วนคลึงให้ทั่วแล้วล้างออกด้วยโฟมล้างหน้าหรือจะใช้สำลีเช็ดตามก็ได้ ล้างเมคอัพได้ดีมากค่ะ โดดเด่นด้วยการผสานคุณค่าของคลีนเซอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์ และโทนเนอร์ใน 1 เดียว มีสารสกัดของน้ำมันธรรมชาตินานาชนิดช่วยให้ผิวนุ่มลื่น เช่น Meadowfoam Seed Oil, Rosewood Oil เหมาะกับสารแต่งเบาและสายออกงานที่มีสภาพผิวมันค่ะ

8. Bioderma Sebium H2O

ถึงคราวผิวมันต้องหันมามองคลีนซิ่งในรูปแบบน้ำกันแล้วค่ะ โดยเฉพาะในรูปแบบน้ำบางเบา สูตรสำหรับคนหน้ามันโดยเฉพาะอย่างคุณไบโอเดอร์มาซีเบียมเอชทูโอ ใช้โดยหยดไปที่สำลีแล้วจึงเช็ดที่ใบหน้า ไม่อุดตัน ไม่ระรายเคือง เหมาะกับผิวมันที่แพ้ง่าย

9. Eucerin Ultra Sensitive Cleansing Milk

นมดีกับผิวหน้า แต่นม (Milk) ในชื่อคุณยูเซอรินคลีนซิ่งมิลค์ดังกล่าวนั้นมีขึ้นมาเพียงเพื่ออธิบายลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์ของคุณเขาว่ามีความคล้ายคลึงกับน้ำนมเท่านั้นค่ะ ด้วยความขาวนุ่มลื่นละมุนเมื่อสัมผัสไปที่ผิว วนให้ทั่วบริเวณเมคอัพแล้วเช็ดออกด้วยสำลี เหมาะอย่างมากกับชาวผิวแห้งสายออกงาน เพราะเนื้อน้ำนมจะช่วยลดการเสียดสีของสำลีต่อใบหน้า ลดการพรากความชุ่มชื้นที่เป็นเกราะกำบังออกจากผิวในขณะถูวนได้ ทั้งยังทิ้งความรู้สึกชุ่มชื่นจากครีมน้ำนมที่ยังค้างเคลือบผิวไว้อีกด้วย

10. Clinique Take The Day Off Cleansing Oil 

เมคอัพหนาก็ล้างออกได้ด้วยคุณคลีนซิ่งสูตรน้ำมันที่จะเปลี่ยนไปเป็นเนื้อน้ำนมหลังจากโดนน้ำของคลีนิกข์นี้ จากนั้นก็ล้างออกด้วยโฟมล้างหน้าตามปกติ ถึงแม้จะมีเนื้อเป็นน้ำมัน แต่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันโดยตรง จึงไม่ได้ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะกับสายโบกที่มีสภาพผิวแห้ง ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ

11. Aesop Parsley Facial Cleansing Oil

คลีนซิ่งออยล์จาก Aesop โดดเด่นด้วยน้ำมันธรรมชาติหลากชนิด เช่น อโวคาโดออยล์ แอลมอนด์ออยล์ และอีกมากมายที่ช่วยปลอบประโลมผิวหน้าที่บอบบางหลังจากล้างเครื่องสำอาง วิธีใช้คือวนทั่วหน้า พรมด้วยน้ำจนแปลงกายเป็นน้ำนมแล้วจึงล้างออกด้วยโฟมล้างหน้าตามปกติ ไม่แห้งไม่ตึงจนเกินไป เหมาะกับผิวผสมสายโบก (จริงๆแล้ว ผิวแห้งก็เหมาะค่ะเพราะมีน้ำมันธรรมชาติหลายตัวช่วยเรื่องความนุ่มลื่น) 

12. Banila Co Clean it Zero Revitalizing

คุณคลีนอิทซีโร่สูตรรีไวทอลไลซิ่งจากบานิลาโคมีเป็นบาล์มเนื้อเชอร์เบท (ลักษณะคล้ายแตงโมเนื้อทราย) แต่เหมาะกับคนผิวมันที่ต้องการล้างเครื่องสำอางหนักๆให้หมดจด อ่อนโยน ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ วิธีใช้คือ วนคุณเขาให้ทั่วหน้าแล้วล้างออกด้วยน้ำหรือเช็ดด้วยสำลี เหมาะกับสายโบกที่มีสภาพผิวหน้ามันค่ะ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจงงว่าว่าคลีนเซอร์ คลีนซิ่ง มันเหมือนกันหรือเปล่า จริงๆแล้วมันไม่แตกต่างกันค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าทางแบรนด์จะใช้คำไหน แต่อยากให้รู้ไว้ว่า 2 คำนี้เมื่อพูดถึงแล้วจะหมายถึงการทำความสะอาด คลีนเซอร์จะเน้นไปทางทำความสะอาดสิ่งสกปรก (ล้างหน้าทั่วๆไปที่ขจัดออกง่าย) ส่วนคลีนซิ่งจะหมายถึงการทำความสะอาดที่ขจัดออกยากกว่าเช่นเหล่าเมคอัพทั้งหลาย