ปัญหาสิว ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มาขึ้นบนผิวสวย ๆ เพราะนอกจากจะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน ต้องคอยประโคมเมคอัพเพื่อปกปิดแล้ว ยังพาให้หลาย ๆ คนรู้สึกขาดความมั่นใจ และต้องทนรอเป็นระยะเวลานานพอสมควรกว่าปัญหาสิวเหล่านั้นจะลดลงและจางหายไป ซึ่งหนึ่งไอเทมที่จะช่วยลดปัญหาสิวไปพร้อม ๆ กับป้องกันการเกิดสิวได้ดีเลยก็คือ การเลือกใช้ยาแต้มสิว หรือเจลแต้มสิวนั่นเอง แล้วจะมียี่ห้อไหนน่าสนใจ? ใช้แล้วสิวยุบจริง? เห็นผลไวบ้างนั้น? ตามมาอ่านกันได้เลย!

 

ทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย

• 5 ตัวยาลดสิวยอดฮิตที่นิยมใช้กัน
• รีวิว 10 ยาแต้มสิว & เจลแต้มสิว 2024-2025
• 1.Vitara Clinda Gel
• 2.Acnetin-A 0.025%
• 3.Acnetin-A 0.05%
• 4.Benzac AC 2.5%
• 5.Benzac AC 5%
• 6.Clindalin Gel
• 7.Aczee Gel 2.5%
• 8.Aczee-50 gel  5%
• 9.LA ROCHE-POSAY Effaclar A.I. Targeted Imperfection Corrector
• 10.Acne-Aid Spot Gel Anti-Acne

 

---

 

5 ตัวยาลดสิวยอดฮิตที่นิยมใช้กัน

ก่อนจะไปดูกันว่ามีผลิตภัณฑ์แต้มสิวยี่ห้อไหนฮอตฮิตกันบ้าง ขอพามาดูตัวยาลดสิวยอดนิยมกันก่อน ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะมีตัวยา 5 ชนิด ดังนี้

 

1. Benzoyl Peroxide

ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว พร้อมช่วยลดการอักเสบ และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้รูขุมขนสะอาด ลดการอุดตัน และป้องกันการเกิดสิวใหม่ มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน แต่ก็อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ จึงควรเลือกความเข้มข้นที่เหมาะสมกับสภาพผิว และทาครีมบำรุงผิวเพื่อลดอาการระคายเคือง

 

2. Clindamycin

ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acnes และช่วยลดการอักเสบของสิว มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวอักเสบ แต่หากใช้ Clindamycin เป็นเวลานานหรือใช้ซ้ำบ่อย ๆ ก็อาจทำให้เกิดการดื้อยาได้

 

3.Tretinoin

ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน และลดการอักเสบ มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบ พร้อมช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว แต่อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้

 

4.Azelaic Acid

ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย และมีปัญหาสิวอักเสบ แต่ก็อาจทำให้ผิวแห้งได้เล็กน้อย

 

5.Salicylic Acid

ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขนได้ดี เนื่องจากสารซาลิไซลิกสามารถละลายน้ำมันได้ดี จึงสามารถแทรกซึมเข้าไปในรูขุมขนที่อุดตัน พร้อมละลายไขมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรก จึงช่วยขจัดสิ่งสกปรกเหล่านั้นออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น และลดรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวหัวขาว สิวอุดตันแต่อาจทำให้ผิวแห้งได้

 

รีวิว 10 ยาแต้มสิว & เจลแต้มสิว 2024-2025

1.Vitara Clinda Gel

 

 

ยาแต้มสิวจากบริษัท บีริช (ประเทศไทย) จำกัด มาในรูปแบบสูตรเจล สีใส เนื้อสัมผัสบางเบา ใช้แล้วซึมซาบเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว อัดแน่นไปด้วยคลินด้ามัยซินความเข้มข้นสูง เพื่อช่วยลดการอักเสบของสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวหนองอย่างสิวหัวช้าง หรือสิวนูนแดงอักเสบไม่มีหัวก็สามารถช่วยให้ยุบตัวเร็วขึ้นได้ ที่สำคัญปราศจากส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ใช้แล้วไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งระคายเคือง

ส่วนผสมหลัก: คลินด้ามัยซินปริมาณ 10 มิลลิกรัม

เหมาะกับ:

• ผู้ที่เป็นสิวหัวหนอง
• ผู้ที่เป็นสิวหัวช้าง
• ผู้ที่เป็นสิวอักเสบ นูนแดง

วิธีใช้: หลังจากล้างหน้าแล้ว ให้ใช้สำลีแต้มเจล Vitara Clinda Gel บริเวณหัวสิวหรือบริเวณที่เป็นสิวโดยตรง วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

2. Acnetin-A 0.025%

 

ยาแต้มสิวจากบริษัทยา บีริช (ประเทศไทย) จำกัด มาในรูปแบบเนื้อครีมเข้มข้น ทว่าอ่อนโยนต่อผิว มีโอกาสระคายเคืองผิวต่ำ เนื่องจากมีส่วนผสมของ Tretinoin หรืออนุพันธ์วิตามิน A เพียง 0.025% มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน และป้องกันการเกิดสิวอุดตัน สิวเสี้ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังมีส่วนช่วยปรับสภาพผิวเรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำได้อีกด้วย

ส่วนผสมหลัก: Tretinoin ความเข้มข้น 0.025%

เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน
• ผู้ที่มีสิวเสี้ยน
• ผู้ที่มีปัญหาสิวไม่มีหัวและไม่อักเสบ
• ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวหน้าเรียบเนียน
• ผู้ที่เริ่มต้นใช้เรตินอลในการดูแลผิว เพราะมีโอกาสระคายเคืองต่ำ

วิธีใช้: บีบยาออกมาเพียงเล็กน้อย ประมาณเม็ดถั่วเขียว แล้วแต้มลงบนบริเวณที่เป็นสิว หรือทาให้ทั่วใบหน้าเบา ๆ วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน เพราะหากสัมผัสกับแสงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

3. Acnetin-A 0.05%

 

เพิ่มประสิทธิภาพในการยับยั้งการเกิดสิวอุดตันด้วยยาแต้มสิวอนุพันธ์วิตามิน A ที่มีความเข้นข้นสูงถึง 0.05% สามารถลดการอุดตันของรูขุมขนและลดการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิว เพียงทาบาง ๆ ก่อนนอน และใช้อย่างต่อเนื่องก็สัมผัสได้ถึงผิวที่มีความเรียบเนียน ปัญหาสิวอุดตันลดลงเห็นได้ชัด

ส่วนผสมหลัก: Tretinoin ความเข้มข้น 0.05%

เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน มีปัญหาสิวเสี้ยนรุนแรง หรือต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
• ผู้ที่ต้องการเพิ่มความเรียบเนียนแก่ผิว

วิธีใช้: บีบยาออกมาเพียงเล็กน้อย ประมาณเม็ดถั่วเขียว แล้วแต้มลงบนบริเวณที่เป็นสิว หรือทาให้ทั่วใบหน้าเบา ๆ วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน เพราะหากสัมผัสกับแสงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

4. Benzac AC 2.5%

 

เจลแต้มสิวจากบริษัทยา Galderma ที่ได้รับการรีวิวอย่างล้นหลามว่าสามารถช่วยรักษาสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อสิว ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนผิว จึงช่วยลดการอุดตันรูขุมขนที่เป็นสาเหตุการเกิดสิวได้ในตัว ที่สำคัญเป็นสูตรที่มีความเข้มข้นน้อย โอกาสระคายเคืองผิวต่ำ ผู้ที่เริ่มต้นใช้ยาแต้มสิวชนิดนี้สามารถใช้ได้

ส่วนผสมหลัก: Benzoyl Peroxide 2.5%

เหมาะกับ:

• ผู้ที่เป็นสิวอักเสบ สิวนูนแดง
• ผู้ที่มีความมันส่วนเกินบนผิว
• ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide หรือผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย

วิธีใช้:  ทา Benazc ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที ตรงบริเวณสิวอักเสบ วันละ 1-2 ครั้ง ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือโฟมล้างหน้า

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

5.Benzac AC 5%

 

ยาแต้มสิวรูปแบบเจลที่อัดแน่นไปด้วย Benzoyl Peroxide เข้มข้นสูงถึง 5% สามารถช่วยจัดการปัญหาสิวอักเสบ และลดการอุดตันของสิวได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้ด้วยความเข้มข้นตัวยาที่สูง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันอาการระคายเคืองผิว

ส่วนผสมหลัก: Benzoyl Peroxide 2.5%

เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบรุนแรง หรือผู้ที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มาแล้วและต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น
• ผู้ที่กังวลปัญหาความมันส่วนเกินบนผิว
• ผู้ที่ต้องการลดการเกิดสิวอุดตัน

วิธีใช้:  ทา Benazc ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที ตรงบริเวณสิวอักเสบ วันละ 1-2 ครั้งก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือโฟมล้างหน้า

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

6. Clindalin Gel

 

เจลแต้มสิวเนื้อสัมผัสบางเบา คนหน้ามันใช้ได้หายห่วง สามารถใช้รักษาสิวอักเสบ สิวหนอง หรือแม้แต่สิวฮอร์โมนที่มีโอกาสพัฒนาเป็นสิวหนองในอนาคต ก็สามารถใช้ยาแต้มสิวตัวนี้ทาบริเวณที่เป็นสิว หรือทาทั่วใบหน้า เพื่อลดการอักเสบของสิว และเร่งให้สิวยุบตัวลงได้เร็วขึ้นได้

ส่วนผสมหลัก: Clindamycin 1%

เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีปัญหาสิวหนอง สิวอักเสบ สิวหัวช้าง
• ผู้ที่มีปัญหาสิวฮอร์โมนอักเสบเป็นหนอง

วิธีใช้: หลังจากล้างหน้าแล้ว ให้ใช้สำลีแต้มเจล Clindalin Gel บริเวณหัวสิวหรือบริเวณที่เป็นสิว

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

7.Aczee Gel 2.5%

 

ยาแต้มสิวที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียสาเหตุการเกิดสิวไปพร้อม ๆ กับเร่งการผลัดเซลล์ผิว จึงสามารถช่วยลดการอักเสบของสิว และป้องกันการอุดตันรูขุมขนที่อาจพัฒนาไปเป็นสิวอุดตันในอนาคตได้ ซึ่งยาแต้มสิวสูตรนี้เป็นสูตรแนะนำสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ระคายเคืองง่าย และไม่เคยใช้ยา Benzoyl Peroxide มาก่อน เนื่องจากเป็นสูตรที่มีความเข้มข้นต่ำนั่นเอง

ส่วนผสมหลัก: Benzoyl Peroxide 2.5%

เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบ สิวหนอง
• ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide

วิธีใช้:  ทา Aczee Gel ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที ตรงบริเวณสิวอักเสบ วันละ 1-2 ครั้ง ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือโฟมล้างหน้า

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

 

8. Aczee-50 gel  5%

 

 

ยาแต้มสิวรูปแบบเจลที่จะช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดสิวอักเสบ เร่งให้หายเร็วโดยไม่ทิ้งรอย และสามารถช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้ เพียงทาให้ทั่วใบหน้า หรือบริเวณที่เป็นสิวเพียง 10 นาทีแล้วล้างออก และใช้อย่างต่อเนื่องก็สัมผัสได้ถึงผิวที่เป็นสิวน้อยลง มีความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมหลัก:

• Benzoyl Peroxide 5%

เหมาะกับ:

• ผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบทั้งในระดับปานกลางและรุนแรง
• ผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตัน

วิธีใช้:  ทา Aczee Gel ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที ตรงบริเวณสิวอักเสบ วันละ 1-2 ครั้ง ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือโฟมล้างหน้า

สอบถามเพิ่มเติมที่นี่

 

9. LA ROCHE-POSAY Effaclar A.I. Targeted Imperfection Corrector

 

 

เจลแต้มสิวตัวดังสัญชาติฝรั่งเศสสูตรอ่อนโยนพิเศษมาในรูปแบบของเนื้อครีมเจลบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิว อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมที่สามารถช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดการอักเสบของสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุการเกิดสิว ตลอดจนลดรอยแดง และรอยดำจากสิวได้อีกด้วย

ส่วนผสมหลัก:

• LHA ช่วยผลัดเซลล์ผิว
• Niacinamide ช่วยลดความมัน และช่วยให้รอยดำจากสิวจากลง

เหมาะกับ:

• ผู้ที่เป็นสิวอักเสบเฉพาะจุด หรือทั่วใบหน้า
• ผู้ที่มีปัญหารอยแดง รอยดำจากสิว
• ผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ระคายเคืองง่าย ต้องการใช้ยาแต้มสิวสูตรอ่อนโยน

วิธีใช้: หลังจากล้างหน้าให้แห้งสนิทแล้ว ให้ใช้ปลายนิ้วแต้มผลิตภัณฑ์ Effaclar A.I. ลงบนหัวสิว หรือบริเวณที่ผิวมีปัญหาจากสิวอักเสบ

ขนาด/ราคา: 15ml / 950 บาท

 

10.Acne-Aid Spot Gel Anti-Acne

 

 

อยากดูแลปัญหาสิวแบบเร่งด่วนต้องห้ามพลาดเจลแต้มสิวรุ่นนี้ ยี่ห้อนี้เด็ดขาด ที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดพิเศษทำงานแบบ Triple Action เพื่อฆ่าเชื้อสิว ลดการอักเสบสิว และลดรอยแดงรอยดำสิวได้ในขั้นตอนเดียว เพียงทาให้ทั่วบริเวณที่เป็นสิวอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องล้างออก

ส่วนผสมหลัก:

• Acnecare Bio ช่วยลดการอักเสบของสิว ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว
• Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน
• Zinc PCA ช่วยลดความมันบนใบหน้า และช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
• Tea Tree Oil ช่วยลดการอักเสบของสิว ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว

เหมาะกับ:

• ผู้ที่เป็นสิวอักเสบต้องการดูแลอย่างเร่งด่วน
• ผู้ที่ต้องการลดการอักเสบของสิว
• ผู้ที่ต้องการลดรอยแดงสิว

วิธีใช้: หลังจากล้างหน้าให้แห้งสนิทแล้ว ให้ใช้ปลายนิ้วแต้มผลิตภัณฑ์ทาบริเวณที่ผิวมีปัญหาจากสิวอักเสบ

ขนาด/ราคา: 10g / 235 บาท

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นยาแต้มสิว หรือเจลแต้มสิวยอดฮิตที่เราคัดมาให้ทำความรู้จักกัน บอกเลยว่าแต่ละตัวนั้นมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดการอักเสบของสิว ละลายหัวสิว ทั้งยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดสิวอุดตันตลอดจนลดเลือนรอยแดง รอยดำสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและสม่ำเสมอมากขึ้นได้อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยห่างไกลจากอาการระคายเคืองผิว ควรปรึกษาแพทย์เภสัชกรก่อนตัดสินใจใช้ยาแต้มสิวเหล่านี้จะดีที่สุด

 

---