ฝืนอะไรก็ฝืนได้ แต่ฝืนอายุไม่ได้เนี่ยสิ ถึงจะหยุดริ้วรอยไม่ได้ แต่เราชะลอความแก่ได้ค่ะ! งานนี้ต้องจัดเต็มทั้งภายในและภายนอก เติมความชุ่มชื่นให้เพียงพออย่างที่ผิวเราต้องการ ก็จะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เกราะป้องกันผิวได้แล้ว ‘เกราะป้องกันผิว’ หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษให้เก๋ว่า ‘Skin Barrier’ นางคือบอดี้การ์ดประจำผิว ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเสื้อเกราะคลุมปกป้องผิวสวยๆ ของเรา
แล้วคุณเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เค้าสำคัญยังไง?
• เป็นด่านตรวจคัดกรองสารอะไรก็ตามที่พยายามซึมผ่านเข้าผิว เช่น แบคทีเรีย ฝุ่น หรือสกินแคร์ที่เราทา
• ตรวจเช็คยีนของจุลินทรีย์หรือเชื้อโรคที่ไม่รู้จักแล้วกำจัดทิ้งไป และด้วยความที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ทำให้แบคทีเรียและยีสต์ตัวร้ายมีชีวิตอยู่บนผิวเราไม่ได้ ตายไปก่อนจะสร้างปัญหา
• มีความสามารถคล้ายๆแอนตี้ออกซิแดนซ์ ลดความเครียดของผิวจากสารอนุมูลอิสระที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพไวขึ้นจนผิวเหี่ยวแก่ ป้องกันไม่ให้ริ้วรอยมาหาก่อนวัยอันควร
• มีระบบภูมิคุ้มกันคอยตรวจจับสารก่อภูมิแพ้ที่ตั้งใจจะเข้ามากระตุ้นให้ผิวระคายเคือง
• ปกป้องผิวจากแสงแดด เหมือนทาครีมกันแดดให้ผิวไว้ชั้นนึงแล้ว ลดเมลานินที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ หรือความหมองคล้ำ ป้องกันไม่ให้ผิวแก่เหี่ยวจากแสงแดด และสะท้อนแสงให้ออกไปจากผิว
ถ้าเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) อ่อนแอ = ผิวก็ไม่แข็งแรง : แพ้ง่ายระคายเคืองเก่ง เป็นสิว ผดผื่น โรคผิวหนัง ริ้วรอยถามหา ผิวหมองคล้ำไม่สดใส ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สารหรือเชื้อโรคก็จะซึมเข้าผิวง่ายๆโดยไม่มีอะไรกั้น
สรุปคือเกราะป้องกันผิว (skin barrier) เป็นทุกอย่างให้คุณแล้ว เก็ทรึยังคะว่าทำไมต้องดูแลเอาใจใส่คุณเค้า
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) นี่อยู่ตรงไหนนะ?
ผิวมีลักษณะเป็นชั้นๆ เกราะป้องกันผิวอยู่ชั้นบนสุดที่เรามองเห็นด้วยตานี่ล่ะ เป็นผิวบางๆ ชั้นนึงที่มีหน้าตาเหมือนผนังอิฐก่อด้วยปูน ก้อนอิฐบล็อกคือเซลล์ผิวที่เรียงสลับกัน ฉาบด้วยปูนที่เป็นไขมันยึดเกาะอิฐแต่ละก้อนไว้ ผิวชั้นนี้เรียกว่าชั้นหนังกำพร้าหรือชั้นขี้ไคล เมื่อเวลาผ่านไปเซลล์อิฐแต่ละก้อนที่หมดอายุแล้วจะหลุดออกเป็นขี้ไคลยังไงล่ะคะ
การให้ความชุ่มชื่นเกี่ยวข้องยังไง กับการทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงละ?
เพราะความชุ่มชื่นที่ไม่ว่าจะเป็นน้ำ หรือน้ำมัน/ไขมัน เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิวไงล่ะ แต่สิ่งเหล่านี้ลดลงอัตโนมัติตามวัย
■ ภายในเซลล์ผิวที่เป็นอิฐแต่ละก้อนมีส่วนประกอบสำคัญคือมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติผิวเรียกว่า Natural Moisturizing Factor (NMF) และเมื่อไหร่ที่เติมความชุ่มชื่นเข้าไปให้กับผิวโดยการเติมน้ำ พวกนางจะอุ้มน้ำไว้จนเซลล์อิฐแต่ละก้อนบวมเป่ง ผิวก็จะดูอิ่มฟูเต่งตึง ริ้วรอยตื้นๆ เล็กๆ จะถูกดันให้ดูจางลงได้ค่ะ
■ ส่วนปูนที่เป็นน้ำมัน/ไขมันเชื่อมอิฐแต่ละก้อนไว้ ประกอบด้วย เซราไมด์ (Ceramides 40-50%), คอลเลสเตอรอล (Cholesterol 25%), และกรดไขมัน (Fatty Acids 10-15%) อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเจ้าไขมันนี้เป็นตัวการที่ทำให้หน้ามันนะคะ ความจริงแล้วไขมันที่เป็นเกราะป้องกันผิวถูกผลิตที่ผิวชั้นหนังกำพร้าด้านใน ส่วนไขมันที่ทำให้หน้ามันเยิ้มชื่อ Sebum สร้างมาจากต่อมไขมัน คนผิวมันคือคนที่มี Sebum เยอะ แต่อาจจะมีไขมันที่ skin barrier น้อยก็ได้ สองอย่างนี้ไม่เกี่ยวกันนะ
สรุปแล้ว ความชุ่มชื่นคือส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงเมื่อนางแข็งแรง นางก็จะป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น รักษาระดับน้ำ และอื่นๆ จริงๆแล้วบนเกราะป้องกันผิวก็มีจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ไว้ปกป้องผิวอีกทีด้วย คำว่าจุลินทรีย์ฟังดูน่ากลัวใช่มั้ย? แต่จริงๆ แล้วน่าสนใจมาก อ่านเพิ่มที่นี่
ดังนั้น Skin Barrier ที่แข็งแรงคือ Keyword สำคัญของการมีผิวที่ดีจริงๆ นะ
การดูแล skin barrier ก็ไม่ยาก แค่เติมความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยน้ำและน้ำมัน/ไขมันอย่างสม่ำเสมอ วิธีเติมความชุ่มชื่นจากภายในมีหลายแบบไว้มาพูดให้ฟังตอนหน้านะคะ ไม่งั้นจะยาวเกิ๊นนน
ส่วนการบำรุงจากภายนอกงานนี้สกินแคร์ช่วยได้ค่ะ เคล็ดลับคือเน้นเติมไขมันอย่าง เซราไมด์, คอลเลสเตอรอล (ใช้ Phytosterol แทนได้สำหรับสาย Vegan) หรือ Fatty Acids ก็ได้ โดยเฉพาะ Ceramide เป็นอะไรที่เวิร์คมาก เพราะอย่าลืมว่าเซราไมด์คือไขมันตัวสำคัญที่มีอยู่ถึง 40-50%
ตอบโจทย์สำหรับคนผิวแห้ง ความน่าสนใจอยู่ที่การใส่เซราไมด์มาถึง 3 ชนิดที่คัดมาแล้วว่าเวิร์คทุกตัว รวมทั้ง MVE เทคโนโลยีเฉพาะที่กักเก็บเซราไมด์ ไฮยาลูรอน และสารสำคัญอื่นๆวางสลับกันเป็นชั้นๆ ตอนทำงานจะค่อยๆ ปล่อยสารออกมาทีละชั้นเหมือนปอกหัวหอม ทำให้ผิวมีเวลาดูดซึมไปใช้งานนานขึ้น เห็นเนื้อครีมข้นๆตอนแรกคิดว่าจะเหนียวเหนอะแต่ไม่เลยค่ะ ไม่มีน้ำหอมแต่กลิ่นก็ไม่แย่นะ โดยรวมอ่อนโยนดี ไม่มีแอลกอฮอล์และส่วนผสมแพ้ง่ายอื่นๆ ที่สำคัญราคาน่ารักกก
ถึงคิวเรลของคนผิวมันและสภาพผิวอื่นๆ ด้วยความที่เซราไมด์บางชนิดสลายตัวง่ายอยู่ได้ไม่นาน ทางแบรนด์ก็เลยใช้สารสังเคราะห์ที่ทำงานได้เหมือนเซราไมด์แทน และสารที่เคลมว่าช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ได้อย่างสารสกัดจากใบยูคาลิปตัส นอกจากนั้นก็มีส่วนผสมรักษาความชุ่มชื้นหลายตัว เช่น Glycerin, Squalane, Allantoin แอบเห็นพาราเบนเป็นสารกันบูด (สกินแคร์ฝั่งญี่ปุ่นเค้าไม่แบนด์พาราเบน) เนื้อครีมเข้มข้นฟูๆ เกลี่ยง่ายซึมไวสบายผิวอยู่นะ ไม่มีกลิ่นอะไร โดยรวมถือว่าอ่อนโยนดีงามไม่ไก่กา
Reference
ความคิดเห็น