REVIEW ป้ายยา 3 สกินแคร์ ยืนหนึ่ง ซื้อซ้ำ ลูกรักของครึ่งปี 2023

แป๊บเดียวก็ผ่านครึ่งปี 2023 มาแล้ว อยากบอกว่าปีนี้เป็นปีที่เรา Happy กับการดูแลสุขภาพผิวหน้าที่สุด เพราะพวกรอยสิว-ผิวหมองคล้ำที่เคยแบกไว้หลายปีเริ่มลดเลือนจากใบหน้าแล้ว ผิวก็ดูใสขึ้น แถมปีนี้เรายังมีโอกาสได้ลองใช้สกินแคร์ตัวใหม่ๆ หลายตัวเหมือนกัน ใช้ดีบ้าง เฉยๆ บ้าง แต่ยังไม่เจอตัวที่ใช้แล้วแพ้นะ

วันนี้ เราเลยมาป้ายยาสกินแคร์ 3 ตัว ที่ลองใช้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2023 และซื้อซ้ำมาจนถึงกลางปีนี้ จริงๆ ยังมีอีกหลายตัวที่ชอบมาก ไว้จะทยอยเก็บมารีวิวครับ แต่ที่เลือก 3 ตัวนี้มาเล่าก่อน เพราะเป็นสกินแคร์ที่เด่นเรื่องการปลอบประโลมผิว เติมความชุ่มชื้น และฟื้นสมดุลผิวดีมากๆ ว่าแล้วก็ไปเจาะที่ละตัวกันเลยครับ

ป้ายยาตัวที่ 1
Sioris - MY FIRST ESSENER
เอสเซนเนอร์

เอสเซนเนอร์ตัวดังจากเกาหลี แบรนด์สกินแคร์ของ JYP เราเปิดใจลองตอนเขาจัดโปร 1 แถม 1 เมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนี้ใช้ขวดแรกหมดไปแล้ว กำลังเริ่มขวดสอง รู้สึกว่ามันเป็นเอสเซนส์เข้มข้นที่ปลอบประโลมผิวได้ดีมาก คอนเซ็ปต์ของตัวนี้ คือ เอสเซนส์ + โทนเนอร์ = ESSENER รวมประสิทธิภาพของเอสเซนส์กับโทนเนอร์เอาไว้ในขวดเดียว เอาจริงๆ สกินแคร์ทั้ง 2 ประเภทนี้ก็มีถกเถียงกันบ่อย ว่าเหมือนหรือต่างกันยังไง ส่วนตัวมองว่าสามารถใช้ทดแทนกันได้ เพราะเน้นช่วยเตรียมผิวให้พร้อม และบูสต์ชุ่มชื้นให้ผิวก่อนลงสกินแคร์อื่นๆ เหมือนกัน พอถูกเอามารวมกันเป็น “ESSENER” ก็คือน่าใช้ไปอีก หลังล้างหน้าสามารถใช้เอสเซนเนอร์ชโลมผิวได้ทันที แล้วค่อยใช้ฝ่ามือกดเบาๆ ให้เนื้อเอสเซนส์ซึมเข้าผิว ทิ้งไว้แป๊บเดียวก็สามารถลงสกินแคร์อื่นๆ ตามได้แล้ว

🤎 รีวิว Ingredients

ส่วนผสมตัวหลักของเขา คือ สารสกัดใบชาเขียว (Green Tea) จากแหล่งปลูกเมืองโบซอง ว่ากันว่าเป็นแหล่งผลิตชาเขียวคุณภาพดีที่สุดของเกาหลีใต้ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูผิวหลังเผชิญมลภาวะและ UV ได้ดี อีกตัวคือ สารสกัดจิงจูฉ่าย (Mugwort) ช่วยปลอบประโลมผิวอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้นผิว กระชับผิวและรูขุมขน

🤎 รีวิวหลังใช้

หลังใช้ต่อเนื่องมา 1 ขวด สังเกตว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น ยิ่งวันไหนอากาศร้อนๆ ไม่สบายผิวหน้า กลับบ้านมาบำรุงด้วยเอสเซนเนอร์ รู้สึกว่าผิวได้ผ่อนคลายจริงๆ แล้วลดโอกาสเกิดผดผื่นรอยแดง ผิวแพ้จากอากาศและมลภาวะที่แปรปรวนตลอดเวลาได้ ตัวนี้เราจะใช้เฉพาะตอนกลางคืนนะครับ สบายผิวดี ป้ายยา MY FIRST ESSENER สำหรับคนที่มองหาสกินแคร์ปลอบประโลมผิวแบบเนื้อน้ำบางบา ไม่หนักผิว และเน้นบูสต์น้ำเข้าสู่ผิวไปพร้อมกัน เพราะเขาใส่ส่วนผสมไฮยาลูรอนมาให้หลายตัวด้วย กลุ่มผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ผิวแพ้ง่าย น่าจะชอบครับ

ปริมาณ 100 ml
ราคา 1,290 บาท

ป้ายยาตัวที่ 2
SKIN1004 - CENTELLA CREAM
ครีมใบบัวบก

ตัวนี้เป็นหนึ่งในสกินแคร์แบรนด์ลูกรักของเรา SKIN1004 เราใช้สินค้าแบรนด์หลายตัวมาก สำหรับ Centella Cream เป็นเซตเดียวกันกับแอมพูลนางฟ้า (ขวดสีทอง) เน้นฟื้นบำรุงผิวแห้งเสีย ผิวหมอง มีรอยแดง ผิวขาดความชุ่มชื้น ให้กลับมาแข็งแรง ดูสุขภาพดี ตอนใช้แรกๆ ไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อะไรมาก เพราะเรามีมอยส์เจอไรเซอร์ใช้หลายตัวอยู่ แต่ที่ทำให้ปลื้มตัวนี้มากที่สุด คือเนื้อสัมผัสของครีมที่บางเบา กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบฟีลธรรมชาติ พอแล้วทาลงบนผิวก็ซึมดี เซ็ตตัวไว ไม่หนักหน้า ครีมเนื้อนุ่มละเอียด สบายผิวมาก เป็นข้อดีที่ทำให้อยากหยิบมาใช้ซ้ำๆ

💛 รีวิว Ingredients

ส่วนผสมตัวเด่นของเขา แน่นอนคือ สารสกัดใบบัวบก (Centella Asiatica) ช่วยบำรุงเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เสริมคอลลาเจน ต้านอนุมูลอิสระ Niacinamide เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว บำรุงผิวให้กระจ่างใสขึ้น อีกตัวที่ดีต่อผิวแห้งเสีย มีริ้วรอยง่าย คือ Adenosine ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว

💛 รีวิวหลังใช้

หลังใช้รู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้นทันที ใช้ไปสักระยะผิวเนียนนุ่นดีมาก รอยแดงจากสิวลดลง ถ้าใครอยากได้ครีมบำรุงกลางคืนที่เน้นความบางเบา ไม่หนักผิว แถมยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นผิวได้ดี ขอป้ายยา Centella Cream เลย อย่างเราเป็นคนผิวผสม เวลานอนตากแอร์กลางคืน ตื่นมาผิวบริเวณ T-zone จะมันมาก ส่วนแก้มจะค่อนข้างแห้ง พอลองทางเซนเทลล่าครีมบำรุงทุกคืน รู้สึกว่าตื่นเช้ามาผิวใสดี ดูไม่มันเยิ้ม ที่สำคัญคือมันช่วยปรับสภาพผิวเราให้ชุ่มชื้นสม่ำเสมอกันทั่วทั้งหน้า บริเวณจมูกก็อาจยังมันมากหน่อยเป็นธรรมดา ใครมีปัญหาแบบนี้เดียวกันแนะนำเลยครับ เพราะเราก็ซื้อซ้ำไป 3 หลอดแล้ว ใช้เพลินเกิน

ปริมาณ 75 ml
ราคา 890 บาท

ป้ายยาตัวที่ 3
JUV - Cream Anti-Acne Moisturizer
ครีมบำรุงลดสิว

เราโดนคอนเทนต์ของแบรนด์ป้ายยามาอีกที ตอนเขาบอกว่ามันคือ “ครีมบำรุงสำหรับคนเป็นสิว” ปกติเป็นคนหน้าเป็นสิวง่ายอยู่แล้ว ก็มักมองหาครีมลดสิวมาใช้ประจำ เราเลือกเอาตัวนี้มาลองเพราะเคยใช้ Cica Cream ของเขาแล้วชอบ แต่ครีมตัวนี้น่าดึงดูดใจกว่า ตรงที่ขาย Benefit เรื่องสิวมาเป็นหลักเลย แล้วช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไปพร้อมกันด้วย พอเอามาลองใช้อยู่ 1 สัปดาห์ คือ ชอบเลย สังเกตว่าสิวอักเสบดีขึ้นมาก สามารถใช้ร่วมกับครีมลดสิวอื่นๆ ได้แบบไม่ระคายเคืองผิว แล้วช่วยคงความชุ่มชื้นผิวได้ดี หน้าไม่แห้ง ไม่ลอกเหมือนตอนใช้ยารักษาสิว อันนี้คือดีเลยครับ ส่วนตัวเราใช้ร่วมกับเซรั่ม BHA อ่อนๆ ก็ไม่แสบผิวนะ

💜 รีวิว Ingredients

ส่วนผสมตัวหลักของครีมลดสิว JUV คือ DEFENSIL PLUS นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ได้มาจากสารสกัดธรรมชาติ 3 ตัวรวมกัน ได้แก่ Blackcurrant Seed Oil, Balloon Vine Extract และ Sunflower Oil เน้นผลลัพธ์การปลอบประโลมผิวอ่อนแอ ผิวอักเสบจากปัญหาสิวและแสงแดดทำร้าย บำรุงเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เติมความชุ่มชื้น ต่อต้านริ้วรอยและอนุมูลอิสระ ลดโอกาสเกิดผิวแพ้ ผดผื่นได้ด้วย

💜 รีวิวหลังใช้

หลังใช้สังเกตว่าครีมตัวนี้ช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้จริง สิวหายเร็วขึ้น ผิวชุ่มชื้นดีด้วย เราซื้อซ้ำไปแล้ว 1 หลอดเมื่อเดือนที่ผ่านมา ช่วงไหนรู้สึกว่าผิวเริ่มล้า หน้ามันๆ เหมือนจะเกิดสิว (อันนี้ว่ากันตามประสบการณ์ของตัวเองนะครับ) เราจะหยิบครีมตัวนี้มาบำรุงไปเลยทั้งเช้า-เย็น ถ้าบริเวณไหนปวดๆ เหมือนจะมีหัวสิวขึ้น เราก็จะโบกครีมแต้มสิวทับไปอีก ทำแบบนี้แล้วลดอาการปวดอักเสบได้โอเค เราเลยค่อนข้างติดใช้ครีมตัวนี้ ใครหน้ามันง่าย เป็นสิวง่าย อยากให้ลองหามาบำรุงดูนะครับ ว่ากันว่าการเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเพียงพอ เป็นหนึ่งในเทคนิคลดโอกาสเกิดสิวที่ดีมากๆ วิธีหนึ่ง ซึ่งครีมลดสิวของแบรนด์ JUV เขาออกแบบมาได้ตรงจุดเลย

ปริมาณ 30 ml
ราคา 790 บาท

รีวิว Texture ทั้ง 3 ตัว
เนื้อสัมผัสบางเบา สบายผิวทุกตัว

ทั้ง 3 ตัว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีเลย แถมเนื้อสัมผัสก็บางเบา สบายผิวทุกตัว เราลองใช้มาแล้ว ไม่มีตัวไหนที่อุดตันผิว แต่ทั้งนี้ก็อาจจะขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคนอีกทีครับ

🤎 เอสเซนเนอร์

เนื้อเอสเซนส์สีน้ำตาลไหม้ มีความข้นหนืด แต่ชโลมผิวแล้วบางเบา ไม่เหนียวเหนอะ ซึมผิวได้ดี มอบความชุ่มชื้นผิวได้ทันที

💛 ครีมใบบัวบก

เนื้อครีมบางเบา เนียนละเอียด ทาง่าย กู้ผิวแห้งกร้านได้ดี ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว กลิ่นอ่อนๆ สบายผิวทุกครั้งที่ใช้

💜 ครีมบำรุงลดสิว

ครีมเนื้อแมตต์ เกลี่ยง่าย ไม่ทิ้งความมันบนผิว ล็อคผิวชุ่มชื้น ลดการเกิดสิว และปลอบประโลมผิวอักเสบได้ดี ไม่แสบหรือระคายเคืองผิวเลย

ถ้าใครชอบสกินแคร์ที่เน้นฟื้นบำรุงสมดุลผิว ปลอบประโลมผิวให้แข็งแรง ควบคู่ไปกับการเติมความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างเพียงพอ เราว่าสกินแคร์ลูกรักทั้ง 3 ตัวที่หยิบมารีวิว คงจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเราเองก็ซื้อซ้ำไปเรียบร้อยแล้วทุกตัว เลยยกให้เป็นสกินแคร์ที่ชอบมากของครึ่งปีนี้ครับ