จบปัญหาโลกแตก สกินแคร์ตัวไหนลงก่อน ลงหลัง

โดย เภสัชกรประจำ choicechecker 03/05/2019

ก่อนอื่น!! ทำไมต้องเรียงสกินแคร์?? สกินแคร์ทาๆลงไปเลยไม่ได้หรอ …ไม่ได้ค่ะ

เพราะผิวถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมซึมเข้าร่างกาย เราจึงต้องดูแลรั้วของร่างกายเรา จากภัยอันตรายที่จ้องจะทำร้าย แต่การบำรุงผิวหนังของเรานั้นจะทำซี้ซั้วไม่ได้นะคะ มันมีขั้นตอนที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ดีที่สุด ทริคอยู่ตรงที่ขั้นตอนนั่นเองค่ะ

 

แล้ววิธีการเรียงสกินแคร์เรียงยังไง? วิธีจำง่ายๆ คือเรียงตามเนื้อครีม เนื้อบางสุดลงไปก่อน แล้วค่อยเอาเนื้อหนาๆ หนักๆ ลงทับ

 

การทาสกินแคร์

 

1. คลีนเซอร์ : ล้างหน้าก่อนนะคะ อย่าเพิ่งรีบโบกบำรุงลงไปตอนที่ผิวยังไม่สะอาด

(Choicechecker Tips : อาจจะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียว เพื่อให้เหลือสิ่งที่เราบำรุงผิวจากคืนที่ผ่านมาหลงเหลืออยู่ และจึงบำรุงด้วยขั้นต่อถัดไป)

2. โทนเนอร์หรือน้ำตบ : บางคนก็ใช้ บางคนก็ว่าไม่ต้องใช้ก็ได้ แล้วแต่ชอบ เนื้อน้ำๆ เบาๆ สบายๆ ไม่หนักหน้า สำหรับคนใช้ ก็ให้ใช้โทนเนอร์แล้วตามด้วยน้ำตบ ส่วนคนที่ไม่ใช้โทนเนอร์ ก็ลงน้ำตบได้เลยค่ะ

3. อายครีม : ควรทาอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง (แต่ถ้าจะดูแลแบบเต็มประสิทธิภาพให้ทาทั้งตอนเช้าและตอนเย็น)

4. เซรั่ม เจล เอสเซนส์ และบูสเตอร์ต่างๆ : ส่วนใหญ่สกินแคร์หมวดนี้จะมีเนื้อบางเบา และซึมเข้าผิวเร็ว จึงให้ลงบนใบหน้าเป็นขั้นตอนแรกๆ

5. มอยเจอร์ไรเซอร์หรือเดย์ครีม : เติมน้ำให้ผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือบางคนอาจจะใช้เดย์ครีมบำรุงในช่วงเช้า สกินแคร์จำพวกครีมมีเนื้อหนักสุด ควรลงเป็นอันดับหลังๆค่ะ

6. ครีมกันแดด : ฉาบลงไปปิดล๊อคและปกป้องผิวเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนเริ่มแต่งหน้าค่ะ

(Choicechecker Tips : วิธีการกะปริมาณครีกันแดดที่ควรทาในแต่ละวัน ให้หยอดลงบนฝ่ามือให้เท่าขนาดเหรียนสิบบาท และควรทาเพิ่มระหว่างวัน)

 

การทาสกินแคร์

 

1. คลีนเซอร์ 2 รอบ : รอบแรกล้างหน้าเพื่อล้างเครื่องสำอาง รอบสองล้างหน้าเพื่อชำระล้างสิ่งตกค้าง ต้องล้างสองรอบนะคะ ล้างรอบเดียวไม่สะอาดเชื้อโรคอุดตันเป็นสิวไม่รู้ด้วยนะ

2. โทนเนอร์หรือน้ำตบ : โทนเนอร์ไว้ทำความสะอาดขั้นสุดท้าย ถ้าสะอาดหมดจดจริงๆ สำลีควรที่จะไม่มีคราบอะไรติดแล้วนะ คนที่ไม่ใช่โทนเนอร์ก็ลงน้ำตบในขั้นนี้ได้เลยค่ะ ส่วนคนที่ใช้ทั้งโทนเนอร์กับน้ำตบก็ลงน้ำตบต่อจากโทนเนอร์นะคะ

3. อายครีม : ควรลงอายครีมก่อนทรีตเมนต์ต่างๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมที่แรงๆ ตัวอื่นชิงซึมลงไปบริเวณรอบดวงตาก่อน

4. เซรั่ม เจล เอสเซนส์ และบูสเตอร์ต่างๆ : เตรียมผิวมานาน เรามาเริ่มบำรุงผิวหน้าต่อด้วยเซรั่ม เอสเซน เจล หรือบูสเตอร์ในขั้นตอนนี้กันเลยค่ะ

5. มาร์คหน้าเพิ่มความชุ่มชื้น: สำหรับวันที่รู้สึกว่าหน้าแห้งเป็นพิเศษ หรือถูกแดดเผา ก็อย่าลืมมาส์กหน้าเพิ่มเติมนะคะ แนะนำว่าให้มาส์กทิ้งไว้สัก 20 นาที แล้วค่อยลงผลิตภัณฑ์บำรุงในขั้นตอนถัดๆไปค่ะ

(Choicechecker Tips : essence ที่เหลือในซองมาส์กเอามาทาคอเลยค่ะ เอาให้คุ้ม)

6. มอยส์เจอร์ไรเซอร์และไนท์ครีม : เป็นครีมที่หนักที่สุดและใช้เวลาซึมนานที่สุด เลยต้องลงหลังสุดค่ะ

7. ออยล์: สำหรับบางคนที่หน้าแห้งมากๆ อาจจะเพิ่มความเรียบเนียน หรือล๊อกความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการทาออยล์ซ้ำอีกทีค่ะ

(Choicechecker Tips : มือของเราหลังทำครบทุกขั้นตอนจะอุดมไปด้วยสารบำรุง ให้เอามาทาหลังมือเลยค่ะ)

 

หมายเหตุ ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช่ว่าทาทับๆกันลงไปแล้วมันจะได้ผลนะ!

ต้องรอให้ตัวก่อนหน้าซึมเข้าสู่ผิวเราสักประเดี๋ยวแล้วค่อยลงตัวถัดไปนะคะ...

อดทนรอคุณเค้าซึมหน่อยน้า ถือว่าซื้อมาแพง ให้คุณเค้าทำงานให้เต็มประสิทธิภาพเสียหน่อยค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


อ่านทุกขั้นตอนเลยค่ะ
06/02/2024 07:50
ผลิตภัณฑ์น่าสนใจค่ะ
01/09/2023 03:46
Less is more ใช้ที่ตอบโจืย์ปัญหาผิวพอค่ะ
21/06/2023 19:10
บทความดีค่ะ
29/03/2023 00:44
บทความดีมากเลยค่ะ
01/12/2022 23:14
ตอนนี้ลดขั้นตอนจาก5-6 ขั้นตอนเหลือ 3บ้าง2บ้างละค่ะ ทาครีมแบบมินิมอล
06/11/2022 22:28
น่าสนใจมากเลย
01/10/2022 22:09
ตอนนี้ใช้น้อยค่ะ เน้นมอยชุ่มชื่นไว้ก่อน
01/10/2022 22:09
เมื่อก่อนเป็นปัญหาโลกแตกมากค่ะ เพราะใช้เยอะมากซ้ำซ้อนสุดๆตอนนี้ลดขั้นตอนลง หน้าดีขึ้นเฉยเลย
08/09/2022 06:34