[mini Review] - IPSA Me Ultimate e สูตร 3 (9th Generation)

โดย iBoom_Style 31/10/2022

1667204053-635f83d5cbac0.jpg

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเราพูดถึงสกินแคร์จากแบรนด์ IPSA กันมาพอสมควร แต่อยากบอกว่าไอเทมที่สร้างความประทับใจให้เราตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้คือผลิตภัณฑ์ในไลน์ ME ULTIMATE ซึ่งก็ต้องย้อนความไปว่าครั้งแรกที่เราใช้น่าจะราวๆ 2 ปีทีแล้วในช่วงที่อากาศค่อนข้างเย็นและพบว่าช่วงนี้ใช้น้องคนนี้ผิวไม่แห้ง-ลอก แต่กลับนุ่ม ชุ่มชื้นและมีความยืดยุ่นจนอดไม่ได้ที่จับจะแก้มตัวเองเล่นบ่อยครั้ง และด้วยความที่ทางแบรนด์ได้ปรับสูตรใหม่เราเลยขอหยิบน้องคนนี้มาเล่าให้ฟังสั้นๆ แล้วกันฮะ


IPSA Me Ultimate E 3 (50ml./3,700.-)

1667204147-635f8433c1db2.jpg

IPSA Me Ultimate e ใน Generation นี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 สูตรซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนั้นจะเหมาะกับผิวที่มีระดับของน้ำมันที่น้อยลง สภาพผิวของเราในช่วงนี้ match กับสูตร 3 มากที่สุดเพราะผิวเริ่มขาดน้ำมันบนผิวจากอายุที่เพิ่มขึ้น


1667204165-635f8445e2ae1.jpg

Packaging (บรรจุภัณฑ์) ที่ทางแบรนด์เลือกใช้จะเป็นรูปแบบขวดปั๊มพลาสติกที่ค่อนข้างแข็งแรง และยังคงยึดดีไซน์เดิมที่ดูเรียบหรู ดูมินิมอลแต่เลอค่าสุดๆ





Texture (เนื้อสัมผัส) ถูกดีไซน์ออกมาในรูปแบบเจลที่ส่วนตัวเรามองว่าค่อนข้างบางเบา ซึมไว แต่ที่ผิดคาดคือการมอบความชุ่มชื้นที่ทำได้ค่อนข้างดีเลยหละ


1667204182-635f84561c855.jpg

เราลองวัด Moisture Level (ระดับความชุ่มชื้นบนผิว) ก่อนและหลังทาพบว่าหลังทา IPSA Me Ultimate e 3 ความชุ่มชื้นบนผิวเพิ่มขึ้นถึง 27% นับว่าทำได้ดีเลยทีเดียว


Active Ingredients

1667204200-635f8468c6b33.jpg


ด้าน Active Ingredients ยังคงองค์ประกอบหลักทั้ง 3 กลไกได้แก่ : 

  • การเพิ่มออกซิเจนในผิวด้วย Belamcanda Chinensis Root Extract เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมเซลล์ผิว
  • GN3 ที่ได้จากสารประกอบเชิงซ้อน 3 ตัวได้แก่ Retinol Acetate, Bupleurum Root Extract และ Pyrola Incarnata Extract ช่วยให้ผิวแน่นกระชับ ดูอ่อนเยาว์
  • ปิดท้ายด้วย AMINO5 GL ที่ยังคงไว้จากสูตรเดิมด้วยการผสมผสานกันของกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อผิวถึง 5 ถึงได้แก่ Glycine, Glutamic acid, Serine, Oxyproline, Arginine เพื่อเสริมในเรื่องความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างเซราไมด์ และช่วยเยียวยาบาดแผล


Before / Applied

1667204245-635f84959b5a9.jpg

จากส่วนผสมเรามองว่าหากใช้ต่อเนื่องในระยะยาวมีความเป็นไปได้สูงที่จะช่วยให้ผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้นไม่มากก็น้อย แต่ในแง่ของผลลัพธ์ระยะสั้นที่ได้หลังจากทาทันทีก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้นและจากที่เห็นในภาพด้านบนจะเห็นว่า...หลังทา IPSA Me Ultimate e และรอให้เซทตัว 2-3 นาทีผิวโดยรวมมีความชุ่มชื้นที่เพิ่มจนสังเกตุได้ด้วยตาเปล่า อีกทั้งยังไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้นและจากที่ทดลองใช้มาจนเกือบหมดขวด็ไม่พบอาการอุดตันบนผิวฮะ


1667204274-635f84b22fe66.jpg

เราเลยมองว่า IPSA Me Ultimate e ใน generation นี้เป็นมากกว่ามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ด้วยวัตกรรมต่างๆ ทั้งในแง่ของการกระตุ้นการสร้างเซราไมด์และเป็นองค์ประกอบในการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเซลล์ผิว การเพิ่มออกซิเจนในผิวและแน่นอนว่าสามารถมอบความชุ่มชื้นได้ดีแบบไม่มีข้อกังขา ทั้งนี้เราก็แนะนำว่าใครที่สนใจอยากลองใช้ IPSA Me Ultimate e ควรไปทดสอบสภาพผิวที่เคาน์เตอร์ IPSA เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวมากที่สุดขอรับ 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


น่าใช้มากมาก
14/03/2024 23:21
น่าลองมากค่ะ
01/11/2022 20:27