ยกให้เป็นครีมคุมสิว คุมมัน ประจำรูทีนช่วงนี้ไปแล้วครับ สำหรับ DERMA E - Acne Oil-Control Matte Moisturizer ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ Tea Tree Oil และ Salicylic Acid คู่หูปราบสิวของวงการสกินแคร์
ครีมแมทมอยส์เจอไรเซอร์ตัวนี้ เราตัดสินใจซื้อมาลองใช้ทันทีที่เห็นคนรีวิว เพราะส่วนตัวมีปัญหาสิวเม็ดเล็กกวนใจประจำ แล้วรอยสิวก็หายยาก เลยชอบหาครีมช่วยลดสิวและรอยสิวมาใช้อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งครีมตัวนี้ของ DERMA E เขาดึงดูดความอยากใช้ของเรามาก ตรงที่มีคุณสมบัติ “ช่วยปรับสมดุลผิว” เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ที่สำคัญคือเป็นแบรนด์ดังเก่าแก่แบรนด์หนึ่งของอเมริกา หน้าตาแพคเกจจิ้งแอบวินเทจนิด ๆ แต่รู้มาว่าของเขาเป็นที่นิยมในอเมริกาด้วย เลยตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
ความที่แบรนด์เขาเคลมความเป็นธรรมชาติแบบสุด ๆ ต้องบอกว่า กลิ่นเนื้อครีมแมทมอยส์เจอไรเซอร์ก็มีความเป็นธรรมชาติมากเหมือนกัน ดมครั้งแรกรู้เลยว่า ปรุงแต่งกลิ่นมาน้อยมาก เป็นกลิ่นน้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil) ถ้าใครชอบใช้สกินแคร์กลิ่นหอมอาจไม่คุ้น แต่เราใช้ทีทรีบ่อยเลยชิน เนื้อครีมเข้มข้น แต่บางเบามาก ๆ ป้ายนิดเดียว เกลี่ยทาได้ทั่วหน้า
🟠 รีวิวส่วนผสม (Ingredients) 🟠
ในครีมแมทมอยส์เจอไรเซอร์ มีส่วนผสมที่ดีกับผิว แล้วก็เน้นแก้ปัญหาสิวหลายตัวมาก อย่างตัวหลัก ๆ หรือ Active Ingredients ของเขา ก็บอกชัดมาบนกล่องเลย 3 ตัว ได้แก่
Salicylic Acid กรดซาลิไซลิก หรือ BHA ของ DERMA E เป็นซาลิไซลิกจากธรรมชาติ คือสกัดมาจากเปลือกต้นวิลโลว์ (ถ้านึกหน้าตาไม่ออก มันคือต้นไม้จอมหวดประจำฮอกวอตส์ ในเรื่อง Harry Potter นั่นเอง) ตัวนี้ช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว เคลียร์สิ่งสกปรกและไขมันในรูขุมขน เรียกว่าแก้ปัญหาสิวจากต้นตอเลย
Tea Tree Oil น้ำมันทีทรี ตัวนี้คิดว่าสายสิวน่าจะคุ้นเคยกันดี มันช่วยรักษาอาการอักเสบจากสิว ลดแบคทีเรียก่อสิว แล้วยังช่วยควบคุมความมันด้วย
Aloe vera สารสกัดว่านหางจระเข้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย แล้วก็เป็นตัวช่วยลดการระคายเคือง เดาว่าเป็นตัวที่เข้ามาช่วยให้เราใช้ซาลิไซลิกดูแลผิวได้ดีขึ้น ไม่แสบ ไม่ยิบ
นอกจากนี้ เขายังมีส่วนผสมรองอีกหลายตัวที่น่าสนใจ เช่น น้ำมันเมล็ดโจโจบา ให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย รอยสิว น้ำมันลาเวนเดอร์ ช่วยปลอบผิว ลดการระคายเคือง และ Panthenol (วิตามิน B5) ช่วยผิวกักเก็บความชุ่มชื้น และเสริมความแข็งแรงให้ชั้นผิวหนัง ซึ่งส่วนผสมหลายตัวของเขามีการรับรองด้วยนะว่า “Organic” และก็เป็นสกินแคร์ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ เพราะว่าปลอดภัยและเห็นผลจริง อันนี้ก็เล่าไปตามฉลากและข้อมูลของแบรนด์เขานะครับ
🟠 รีวิวความรู้สึกตอนใช้ 🟠
ถึงแม้ดูภายนอกเนื้อครีมจะเข้มข้นมาก แต่พอทาลงบนผิว จะรู้ว่าเนื้อเขาบางเบามาก ๆ เราใช้ทาหน้าทุกเช้า ป้ายขึ้นมาประมาณ 1 ข้อนิ้ว (ไม่ต้องพูนมากนะครับ) แต้ม ๆ จุด ๆ ไปบนหน้าแล้วเกลี่ยทีเดียว เนื้อครีมซึมผิวดีมาก ทาง่าย สบายผิว หลังทาไม่เหนอะ ไม่มัน สามารถลงครีมกันแดดต่อได้ทันที
หลังทารู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้น แห้งกร้านน้อยลง จริง ๆ สามารถทาได้ทั้งช่วงเช้า และก่อนนอนนะครับ แต่เรามีครีมทาก่อนนอนแล้ว เลยใช้เฉพาะช่วงเช้า แล้วเขาให้มาแบบจุก ๆ เลย 56 กรัม เราใช้มาครึ่งเดือนแล้วเนื้อครีมแทบไม่พร่อง ถูกใจตรงนี้ เพราะถือว่าคุ้มค่าสำหรับเรามาก (ราคาหนึ่งกระปุก 790.-)
🟠 รีวิวความรู้สึกหลังใช้ (อีกนิด) 🟠
หลังใช้รู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้นจริง ระหว่างวันหน้าไม่เยิ้ม ช่วยคุมมันดีมากครับ แล้วสิวก็ลดลงจริง เราใช้ไม่นานนะ แต่สังเกตผิวแล้วเห็นว่าสิวใหม่น้อยลง ส่วนรอยสิวจางลงนิดหน่อย เราว่าอาจต้องใช้เวลาเพิ่มถึงจะเห็นผลชัดเจน ซึ่งเรายังคงทาครีมตัวนี้ทุกเช้านะ ชอบมาก คิดว่าใครที่มีปัญหาสิว หรือหน้ามันมาก ๆ ถ้าได้ลองใช้ตัวนี้แล้วน่าจะชอบเหมือนกัน เพราะมันช่วยให้สมดุลความมันผิวดีขึ้นจริง พอผิวมันน้อยลง สิวก็น้อยตาม ทาแล้วสบายผิวด้วย ถือว่าเป็นไอเทมที่ตำเขามาแล้วไม่เฟล เลยอยากหยิบมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าใครอยากลองมอยส์เจอไรเซอร์ตัวนี้ครับ
ความคิดเห็น