ตอบคำถามยอดฮิต รอยสิว-รอยดำ ใช้เซรั่มตัวไหนดี? Kiehl’s Dark Spot Vs Eucerin Thiamidol™

ตอบคำถามยอดฮิต รอยสิว รอยดำ ใช้ตัวไหนดี? กับเซรั่ม 2 ไอเท็มอัพผิวไบร์ทที่มีคนถามหามากที่สุด งั้นก็จับมาเทียบกันหมัดต่อหมัดเลยแล้วกัน! ตัวเลือกไหนที่เหมาะกับคุณ?

เซรั่ม Kiehl's Clearly Corrective™ Dark Spot Solution (30ml / ฿2,700)

ประสิทธิภาพ: เบลอจุดด่างดำ ปรับปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอ ผิวสว่างสดใสเป็นประกาย 

เหมาะกับผิวแบบไหน: ทุกสภาพผิว

เนื้อสัมผัส&กลิ่น: เนื้อเซรั่มใสกิ๊ง หนืดนิดๆ ดรอปแล้วไม่ไหลเป็นน้ำ ซึมง่าย กลิ่นไม่หอมไม่เหม็น ทำให้ใช้ค่อนข้างง่าย

ขนาด/ราคา: 30 มล. 2,700 บาท / 50 มล. 3,550 บาท / 100 มล. 4,420 บาท

ชำแหละสูตรเซรั่ม Kiehl's Dark Spot

ส่วนผสมปังๆ: 

• อนุพันธ์วิตามินซี 3-O-Ethyl Ascorbic Acid เป็นร่างแปลงของวิตามินซีที่สเถียรมาก ยังยับยั้งการทำงานของเม็ดสีเมลานินได้ดีเหมือนเดิม ช่วยเบลอจุดด่างดำและความหมองคล้ำให้สีผิวดูสม่ำเสมอ

• Salicylic Acid อีกหนึ่งส่วนผสมแก้ปัญหาผิวสุดปัง จุดเด่นอยู่ที่การผลัดเซลล์ผิวลึกถึงรูขุมขน เอาเซลล์ผิวเก่าที่ปนเปื้อนความหมองคล้ำออกไป เผยผิวใหม่ดูเนียนละเอียด และช่วยลดการอักเสบได้ดีด้วยล่ะ

• Pro-Xylane เติมความชุ่มชื้น&คืนผิวเฟิร์ม ด้วยการฟื้นฟูเซลล์ผิวจากส่วนผสมสิทธิบัตรของทางลอรีอัล

• สารสกัดธรรมชาติจาก White Birch ช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นและสารอาหารผิว และดอกโบตั๋น ช่วยซัพพอร์ตการทำงานของวิตามินซีในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวที่มากเกินไป

งานวิจัย: 

• งานวิจัยทดสอบความสเถียร การซึมลงผิว และผลข้างเคียงของวิตซี 3-O-Ethyl Ascorbic Acid คลิก

• งานวิจัยทดสอบประสิทธิภาพของเซรั่มฟื้นฟูริ้วรอย&อัพผิวไบร์ทที่มีส่วนผสมของ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid คลิก

• งานวิจัยกลไกการทำงานผลัดเซลล์ผิวของ Salicylic Acid คลิก1  คลิก2

• งานวิจัยการทำงานของ Salicylic Acid ในผิวชั้นหนังกำพร้า คลิก

• งานวิจัยประสิทธิภาพการป้องกันแสงยูวีของ วิตามิน C + E คลิก

เซรั่ม Eucerin Spotless Brightening Booster Serum (30ml / ฿2,100)

ประสิทธิภาพ: ปรับโทนสีผิวหมองคล้ำให้ดูกระจ่างใส เบลอจุดด่างดำ รอยดำจากสิว กระ ฝ้าแดด เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู หน้าเด้ง เปล่งประกาย

เหมาะกับผิวแบบไหน: ทุกสภาพผิว

เนื้อสัมผัส&กลิ่น: เนื้อเซรั่มหนืด ตบบนมือแล้วยืดหยุ่นให้ความชุ่มชื้นดีมาก แต่ก็แอบหนึบผิวนะ คนผิวมันน่าจะรำคาญนิดๆ มีน้ำหอมกลิ่นเบาๆ แต่เป็นน้ำหอมที่ไม่ก่อภูมิแพ้ยังถือว่าได้อยู่

ขนาด/ราคา : 30 มล. 2,100 บาท

ชำแหละสูตรเซรั่ม Eucerin Thiamidol 

เทคโนโลยี: เทคโนโลยี Micro Target ช่วยให้สารสำคัญซึมลงผิวได้ดีขึ้น เข้าจัดการปัญหาตรงจุด

ส่วนผสมปังๆ: 

• Thiamidol™ สารไวท์เทนนิ่งสิทธิบัตรเฉพาะของยูเซอริน ช่วยลดฝ้าแดดหนาลึกและจุดด่างดำที่ต้นตอได้ดี โดยไม่ทำให้ผิวไวต่อการเกิดจุดด่างดำ และลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีก 

• Hyaluron ไฮยาลูรอนสองขนาด โมเลกุลเล็กซึมเข้าผิวง่าย ช่วยเติมน้ำเข้าเซลล์ผิวเหมือนลูกโป่งที่เป่งบวมน้ำจะดูผิวกระจ่างใส ได้ลุคกลาสโกลว์

• Licochalcone A สารลดการอักเสบ อีกหนึ่งส่วนผสมลูกรักของยูเซอริน จับมาทำงานร่วมกับ Glucosylrutin และ Isoquercitrin ช่วยปกป้องผิวที่ถูกสารอนุมูลอิสระทำร้าย 

• Sodium Ascorbyl Phosphate เป็นร่างแปลงของวิตามินซีที่ทำให้สเถียรขึ้น

งานวิจัย: 

• Thiamidol สารไวท์เทนนิ่งตัวใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในบรรดาส่วนผสม 50,000 ชนิดที่ทำการทดสอบการต่อต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสของมนุษย์ (ไม่ได้ทดลองแค่ในเอนไซม์ของเห็ดอย่างที่ส่วนใหญ่มักทำกัน) เป็นเอนไซม์ตัวสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน คลิก1 l  คลิก2

• เทียบประสิทธิภาพการลดเลือนรอยฝ้าแดดของ Thiamidol 2% VS Hydroquinone 2% ในผู้หญิงอเมริกา คลิก

• ทดสอบประสิทธิภาพ Thiamidol ในการลดเลือนรอยดำจากสิว คลิก

• ทดสอบประสิทธิภาพ Thiamidol 0.15% VS Thiamidol 0.15%+Hyaluronic Acid ในการลดรอยฝ้า คลิก

• เคลมประสิทธิภาพในการลดอนุมูลอิสระของ Licochalcone A คลิก

• สิทธิบัตรของสาร Glucosylrutin เคลมประสิทธิภาพในการลดอนุมูลอิสระ คลิก1 คลิก2

• สิทธิบัตรของสาร Isoquercitrin เคลมประสิทธิภาพในการลดอนุมูลอิสระ คลิก

• Licochalcone A + Glucosylrutin สองส่วนผสมที่ใช้ด้วยกันจะช่วยลดอาการเบิร์นแดด คลิก

เซรั่ม Kiehl's Dark Spot

สรุปจุดเด่น: ด้วยประสิทธิภาพของไวท์เทนนิ่งระดับตำนานอย่าง วิตามินซี+กรดซาลิไซลิก คู่ดูโอ้สุดฮิต เชื่อใจเรื่องความกระจ่างใสได้เลย เห็นขวดใสปิ๊งแบบนี้เพราะเค้าใช้วิตามินซีชนิดที่สเถียรมากๆ พร้อมส่วนผสมจากธรรมชาติสไตล์คีลส์ แอบชอบตรงที่มีหลายไซส์ ใครชอบคุ้มๆนะ ขวด 100 ml จุใจมว๊าก

สรุปจุดด้อย: ใช้วิตามินซีก็จริงแต่เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่งานวิจัยน้อยกว่าวิตามินซีเพียวๆ ถ้าใช้วิตามินซีอนุพันธ์พันธ์ตัวเดี่ยวๆ อาจเห็นผลน้อยกว่าใช้วิตามินซีเพียวๆ Kiehl's Dark Spot มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ดีเนเจอร์ที่น่าจะใส่มาทำละลายส่วนผสมอื่น และมีลาเวนเดอร์ออยล์ดอกไม้สีม่วงกลิ่นรีแลกซ์ แต่พอมาอยู่ในสกินแคร์นี่ยังเป็นส่วนผสมที่พบการแพ้ค่อนข้างเยอะ ใครที่ผิวแพ้ง่ายให้เทสก่อนนะคะ

เซรั่ม Eucerin Thiamidol 

สรุปจุดเด่น: ส่วนผสมสิทธิบัตรของตัวเองแน่นจุกๆ เป็นแบรนด์ที่ลงทุนในการรีเสิร์ชเก่ง คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆออกมาให้เราเซอร์ไพร์ซกันได้เสมอ นางเอกของเซรั่มตัวนี้คือ ไทอามิดอล™ ไวท์เทนนิ่งสายสตรองจัดการจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยดำจากสิว ปรับสีผิวสม่ำเสมอได้ดี ปีนี้เค้าปรับสูตรใหม่ชุ่มชื้นกว่าเดิม รัก♥︎

สรุปจุดด้อย: กับจุดด่างดำที่ไม่เข้มมากเห็นผลไว แต่กับฝ้าเข้มลึกนี่ต้องอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปเลยล่ะ ในสูตรมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์(ใส่มาเป็นตัวละลายไทอามิดอล™ให้ซึมเข้าผิวดีขึ้น) และมีน้ำหอมชนิดที่ไม่ก่อภูมิแพ้มาทำให้เนื้อเซรั่มหอมน่าใช้ แต่ชาวผิวแพ้ง่ายเทสก่อนใช้ด้วยน้า

ความรู้สึก เจ้มิ้นต์ ต่อ thiamidol

เป็นสาวกยูเซอรีนตั้งแต่สมัย 10 ปี สมัยก่อนลองเกือบทุกโพรดักยูเซอรีน กับ thiamidol ลองมาแล้ว 2 แท่งได้แก่ eucerine white spot corrector และล่าสุดกับยูเซอรีนตัวนี้ที่ลองมาได้สัก 5 วันแล้วด้วยเหตุผลที่ว่าโดนคนรอบข้างป้ายยามาเยอะมาก ส่วนตัวคิดว่าสูตร thiamidol ออกแนวเหมาะกับคนใจเย็น รักผิว มันจะเริ่มเห็นผลต่อเมื่อมีความสม่ำเสมอ และที่บอกว่าเหมาะกับรักผิว เพราะสูตรของยูเซอรีน คิดเผื่อ ไม่ใช่แค่เรื่องฝ้ากระ จุดด่างดำ แต่พวกความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง ยูเซอรีนเขาก็เน้นไปพร้อมๆกัน

ความรู้สึก เจ้มิ้นต์ ต่อ วิตามินซี

ลองมาทุกวิตามินซี ทั้งวิตามินซีเพียวๆ วิตามินซีอนุพันธ์มาทุกรูปแบบ ที่เหมาะกับหน้าเรา และเห็นผลมากที่สุดก็หนีไม่พ้นสูตรวิตามินซี (อนุพันธ์วิตามินซี+กรดผลัดเซลล์ผิว) หรือวิตามินซีเพียวๆ % เยอะๆ แต่ปัญหาที่เจอบ่อยเวลาลองเพียวๆ คือแสบหน้า เวลาใช้วิตามินซี เราจะเน้นพวกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามอีกรอบ

สรุปใช้อะไรดี

Kiehl’s ก็ใช้วิตามินซี+กรด BHA ไวท์เทนนิ่งในตำนานเป็นตัวชูโรง ทาง Eucerin ก็งัดไทอามิดอล™+ไฮยาลูรอนที่มีงานวิจัยแน่นปึ๊ก! มาเอาใจสายวิทย์ จุดเด่นของแต่ละแบรนด์เค้ากินกันไม่ลงจริงๆ มีแอลกอฮอล์และแต่งกลิ่นเหมือนกันทั้งคู่ค่ะ ในส่วนของประสิทธิภาพ ChoiceChecker คงตัดสินว่าอะไรดีกว่าให้ไม่ได้ เพราะไม่ว่าใครจะพูดว่าเธอดีเท่าไหร่ แต่เข้ากันไม่ได้ก็ต้องไปอยู่ดี~   ต่อให้กี่ร้อยเปเปอร์บอกคุณว่าส่วนผสมนั้นดียังไง ถ้าผิวคุณไม่รับ ก็เท่ากับใช้ไม่ได้ เพราะสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีใครรู้จักผิวเราเท่าตัวเราเองนะคะ ต้องลองเองถึงจะรู้!!