CLEAN INGREDIENTS ในสกินแคร์ ดีจริงหรือจกตา?

โดย เภสัชกรประจำ choicechecker 24/01/2020

Clean Ingredients หรือ Clean Beauty เห็นแค่ชื่อก็รู้สึกอุ่นใจ~ แล้วความหมายของมันจริงๆ คืออะไร…ใช้แล้วจะเวิร์คมั้ย? น่าเชื่อถือพอรึเปล่า? ตามติดเทรนด์สกินแคร์ที่กำลังบูมในต่างประเทศ สำหรับบ้านเราเริ่มมีให้เห็นกันแว๊บๆ

ที่สำคัญเราเจอข้อมูลน่าสนใจที่อยากแชร์ให้ชาว ChoiceChecker รู้ก่อนใครว่า...สารต้องห้ามที่ทุกคนกลัวกันนักหนา มันอันตรายจริงหรอ? (บอกชื่อไปหลายคนน่าจะคุ้นหู เช่น Parabens, Sulphate, Phthalates ชื่อต้นๆ ที่คุณเซย์ no no no! กันตอนซื้อใช่มั้ยคะ) เลิกรับฟังข้อมูลด้านเดียวแบบ มาเปิดใจหาคำตอบว่า Clean Beauty ดีจริงหรือจกตา...แล้วตอบคำถามนี้ด้วยตัวคุณเองกันค่ะ

Clean = Safe?

จำกันได้มั้ยคะว่ามีช่วงนึงที่ Clean Food บูมมาก (บางคนก็ยังกินมาจนทุกวันนี้) อาหารคลีนก็คืออาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ แทบจะไม่ปรุงแต่งรส และต้องเลือกเครื่องปรุงหรือส่วนผสมที่ปราศจากอันตรายต่อร่างกาย (หรืออันตรายน้อยที่สุด) เช่น Low Sodium, ไม่มีคลอเรสเตอรอล อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งเจ้า Clean Beauty ก็คล้ายกันกับหลักการของอาหารคลีนเลยค่ะ คือเป็นสกินแคร์ (รวมถึงเมคอัพ) ที่ไม่มีส่วนผสมอันตรายต่างๆ แบ่งเป็นข้อๆ ให้ดูง่ายขึ้นประมาณนี้

*เห็นความคลุมเครือที่เกิดขึ้นใช่มั้ยคะ แต่ละแบรนด์เคลมไม่เหมือนกัน บางแบรนด์มีข้อนั้น บางแบรนด์ขาดข้อนี้ เพราะ Clean Beauty ยังไม่มีกฎเกณฑ์ที่ออกมาเป็นข้อกำหนดที่แน่ชัด

มันดูดีที่สุดเลยเว้ยแกร~ (จริงดิ?)

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณอาจจะรู้สึก ว้าว! Clean Beauty ดีงามจนกระเป๋าตังสั่น แต่ใจเย็นนะคะสาวๆ ก่อนจะรีบพุ่งตัวไปเคาน์เตอร์แบรนด์ หยุดอ่านคำถามสำคัญ...ที่ช่วยเตือนสติก่อนเสียตังกันก่อน

• เป็นแค่เทคนิคการตลาด (แบบเดิมๆ) ที่ใช้อัพราคารึเปล่า?

เทคนิคแบบเดิมๆ ที่เราหมายถึงก็เหมือนกรณีโปรดักส์อะไรที่แปะป้ายว่าตัวเองเป็น Organic หรือ Natural ราคาก็จะพุ่งปรี๊ดดดนั่นแหละค่ะ มารอดูกันว่าโปรดักส์ที่เคลมว่าเป็น Clean Beauty (หรือใช้คำว่าคลีนบลาๆๆ แบบอื่น) จะถูกอัพราคาให้แพงเว่อร์~ อีกแล้วรึเปล่า...

• แล้วจะเชื่อได้ยังไงว่าที่เคลมมามันคลีนจริง?

มีอะไรมาช่วยคอนเฟิร์ม...มีตรารับรองมั้ย? มีหน่วยงานไหนออกมาตรวจสอบรึยัง?

ข่าวร้ายก็คือ ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาตรวจสอบ ทำให้ยังไม่มีตรารับรองอย่างเป็นทางการ นอกจากตราสัญลักษณ์ที่แบรนด์ทำขึ้นมาเคลมตัวเอง เช่น The ZeroList™ จาก PAÑPURI, Clean at Sephora™ (เซโฟร่าไทยยังไม่มีนะจ๊ะ มีแต่ที่อเมริกา) ก็อาจจะไม่ต่างกับเคสของ Natural Beauty ที่ทุกวันนี้แบรนด์ต่างๆ ก็ทำเอง เคลมเอง ไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการ แต่เราก็หวังจะให้เป็นเหมือนกรณี Organic Beauty ที่มีหน่วยงานกลางที่น่าเชื่อถือจัดตั้งขึ้นเพื่อเทสโปรดักส์ที่แบรนด์ต่างๆ ส่งเข้าไปขอตรารับรอง เช่น USDA, Ecocert, NaTure เป็นต้น ฉันมันแค่วายร้าย เป็นได้ก็แค่นั้น~

ChoiceChecker ขอยกตัวอย่าง 3 สารสังเคราะห์ตัวท็อปที่ใครๆ ก็พากันแอนตี้

สารกันบูดพาราเบน

สารทำความสะอาด SULFATES

สารช่วยทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์นุ่มขึ้น PHTHALATES

จริงๆ แล้วไม่ว่าจะสารสังเคราะห์หรือสารสกัดจากธรรมชาติเอง ก็มีหัวใจสำคัญในการใช้ให้ถูกต้องและปลอดภัยแบบเดียวกัน คือ ปริมาณ ความเข้มข้น และระยะเวลา อย่าลืมว่าไม่ใช่ว่าสารอะไรที่มาจากธรรมชาติทุกอย่างจะปลอดภัย 100% นะคะ เพราะส่วนผสมบางอย่างก็ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือมีความเป็นพิษได้ไม่ต่างกัน (เช่น ลาเวนเดอร์ระคายเคืองต่อผิวง่าย บางคนแพ้กลูเตน หรือแม้แต่แพ้น้ำ!) สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับ ‘คุณ’

เราไม่ได้มาต่อสู้แทนสารสังเคราะห์เหล่านี้ ไม่ได้เรียกร้องให้คุณกลับมาใช้น้องๆ เค้านะคะ Choicechecker เพียงแต่จะมาแชร์ให้ฟังว่า... ในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานหรืองานวิจัยที่เยอะพอ (โดยเฉพาะที่ทำในมนุษย์) และหลายงานวิจัยที่อ้างมาก็ยังไม่มีข้อสรุปว่า สารเหล่านี้ที่เราแอนตี้เค้านักหนา มันเลวร้ายขนาดนั้นจริงหรอ? เราไม่อยากให้คุณเลือกดูเฉพาะข้อเสียแล้วรีบแอนตี้ ลองเปิดใจอ่านข้อมูลอีกมุมนึงอย่างเป็นกลาง แล้วตัดสินใจ ‘เลือก’ สิ่งที่ดีที่สุดในแบบของคุณเองค่ะ~

3 เซรั่มสายคลีนบิวตี้ที่น่าใช้ที่เราอยากแนะนำ

PAÑPURI Lotus Defense™ Brightening Serum (30 ml / 2,950 Baht)

ขอแนะนำแบรนด์ไฮเอนด์ของไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก นอกจากจะผ่านการทดสอบออแกนิคสุดเข้มจนได้ตรา NaTure และ BioAgriCert มาครอบครอง ยังสร้างมาตรฐานใหม่ด้วย The ZeroList™ ที่เคลมว่าแบนส่วนผสมกว่า 2,300 ตัว! มากกว่าที่เกาหลีกับยุโรปแบนด์กันอยู่ตอนนี้อีก (จะเหลืออะไรให้ใช้บ้างเนี้ย?) มาพูดถึงเซรั่มของเค้ากันบ้างดีกว่า นางเอกของขวดนี้จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากสารสกัดจากดอกบัวออแกนิค (ตามชื่อคอลเลคชั่น) โดดเด่นในการทำให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็น Antioxidant ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ, Linoleic acid และวิตามิน B & C ที่สำคัญใช้ส่วนผสมออแกนิค+สารสกัดจากธรรมชาติมากถึง 99.7%! เรียกได้ว่าคลีนหมดจด แน่นอนว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว ทางแบรนด์เคลมว่าผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ แต่เราขอเถียง เพราะในส่วนผสมยังมีสารก่อภูมิแพ้อย่างลาเวนเดอร์, โรสแมรี่, Benzyl Alcohol และน้ำหอม (Limonene, Linalool)

Facebook : @panpuriofficial | Instagram : @panpuriofficial

Herbivore Bakuchiol Retinol Alternative Smoothing Serum (30 ml / $54)

มาดูโปรดักส์ออกใหม่จาก Herbivore กันบ้าง ไม่อยากแก่ต้องรีบช้อป เพราะเซรั่มตัวนี้เค้าเก่งในการลดริ้วรอย Anti-Aging ได้อย่างอ่อนโยนสุดๆ ผ่านเข้ารอบสวยๆ ได้เป็นหนึ่งใน Clean at Sephora™ ไปเลยจ้า จากชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Bakuchiol เป็นนางเอกของงานนี้ เพราะนางเป็นแฝดคนละฝาของ Retinol (ซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการ Anti-Aging) แต่ดีงามที่อ่อนโยนกว่า ทดสอบแล้วว่าไม่ทำให้ระคายเคือง และที่สำคัญเป็นมาจากธรรมชาติ 100% นอกจากนี้ยังผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปด้วย PHAs 1% และที่เนื้อเซรั่มมีสีม่วงก็เพื่อสื่อถึงสารสกัดจาก Amethyst (พลอยสีม่วงๆ อ่ะค่ะ) ที่เค้าใส่มาด้วย ดังนั้นเซรั่มตัวนี้เราขอยกให้เรื่องความอ่อนโยน เพราะนางสามารถใช้กับทุกสภาพผิวจริงๆ แม้แต่ผิวแพ้ง่ายก็หายห่วง เพราะไม่มีส่วนผสมที่จะระคายเคืองผิวหรือก่อการแพ้ได้เลย เลิ้ฟมวั๊ก!

Facebook : @herbivorebotanicals | Instagram : @herbivorebotanicals

Purito Centella Green Level Buffet Serum (60 ml / $20.50)

เซรั่มที่รวมบุฟเฟ่ต์ส่วนผสมที่ผิวต้องการไว้ในหนึ่งเดียว ทั้งปลอบประโลมผิว, คงความชุ่มชึ้น, ฟื้นฟู Skin Barrier, ทำให้ผิวกระจ่างใส และลดเรือนริ้วรอย การันตีด้วยตรารับรอง EWG-certified จากองค์กรเพื่อสิ่งแวดล้อมแบบไม่แสวงหากำไรในอเมริกา โดดเด่นด้วยสารสกัดจากใบบัวบกที่ใส่มาจัดเต็มถึง 49%! ช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวแข็งแรง คงความชุ่มชื้น ช่วยเรื่องสิว และเป็น Antioxidant นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของเปปไทด์ถึง 4 แบบ, Adenosine และ Panthenol ที่ช่วยในการลดริ้วรอย หน้าเด็กใสปิ๊ง พร้อมปรับให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย Niacinamide และ Pancratium Maritimum Extract ใช้ส่วนผสมวีแกน 100% จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แต่คนผิวแพ้ง่ายอาจจะต้องระวังน้ำมันลาเวนเดอร์และมะกรูดที่อาจจะระคายเคืองได้นะคะ

Facebook : @puritokorea | Instagram : @purito_official