ทาสแมวต้องระวัง รอยดำสุดช้ำใจจากเจ้าเหมียว (+ทิปส์ในการรักษา)

ชาวทาสแมวอย่างเรา เจอน้องเหมียวที่ไหนก็อยากจะเข้าไปลูบหัว ลูบหาง เจ๊าะแจ๊ะ พูดคุยด้วยเสียงสองซะทุกครั้ง แต่ถ้าไม่ระวังให้ดี ไปเล่นกับน้องๆ แบบสุ่มสี่สุ่มห้า อาจได้เซย์ goodbye ให้งานโชว์ผิวไปยาวๆ เพราะรอยแผลเป็นได้เลยค่ะ

แผลเป็นที่เหล่าทาสแมวจะมีกันได้บ่อยๆ ก็มาจากการโดนแมวข่วนนั่นเอง ยิ่งข่วนลึก แผลก็ยิ่งลึก ทิ้งรอยแผลเป็นและรอยดำไว้ทิ่มแทงใจ กับอีกหนึ่งรอยแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นได้กับทาสแมวก็คือแผลเป็นจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งความร้ายก็คือน้องแมวเขาจะไม่แสดงอาการให้เราเห็นเลย แต่เราสามารถติดเชื้อจากน้องๆ ได้เวลาไปสัมผัสน้องหรือโดนน้องข่วน ทำให้เกิดผื่นแดง คัน หรือต่อมน้ำเหลืองบวมและมีตุ่มขึ้น แม้ว่าผื่นพวกนี้จะหายไปได้เองเมื่อได้รับยา แต่ก็อาจทิ้งรอยดำไว้ให้ช้ำใจได้ด้วยเหมือนกันค่ะ

วิธีป้องกันง่ายๆ สำหรับเหล่าทาสแมวก็คือห้ามชะล่าใจเด็ดขาด!!! ใครเลี้ยงแมวเองก็ต้องคอยตัดเล็บน้องบ่อยๆ และเป่าตัวน้องให้แห้งหลังอาบน้ำทุกครั้ง ส่วนใครที่ชอบเล่นกับแมวไปทั่ว ไม่ว่าจะแมวเพื่อน แมวคาเฟ่ หรือแมวข้างถนน เล่นกับน้องๆ เสร็จแล้วก็ต้องรีบทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสตัวน้องทุกครั้ง และถ้าโดนแมวข่วนเมื่อไหร่ต้องรีบทำความสะอาดและฟอกสบู่ทันทีเพื่อป้องกันเชื้อโรคด้วยนะคะ

สำหรับใครที่พลาดท่าจนเกิดรอยแผลเป็นและรอยดำไปแล้ว ChoiceChecker มีทิปส์มาแนะนำสำหรับการรักษาให้ค่ะ

1. ทาครีมกันแดด

แสงแดดคือตัวการที่ทำให้รอยแผลเป็นและรอยดำทั้งหลายเข้มขึ้นและลึกลงไปในชั้นผิวมากขึ้น ดังนั้นครีมกันแดดคือสิ่งที่ขาดไม่ได้! ทางที่ดีลองเลือกครีมกันแดดแบบ mineral จะช่วยบล็อกรังสียูวีทุกรูปแบบรวมถึงแสงสีฟ้าด้วย

2. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

คอยเติมน้ำให้ผิวอย่างสม่ำเสมอและบำรุงด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิวและทำให้รอยแผลเป็นอ่อนนุ่มลง

3. ผลัดเซลล์ผิว

การผลัดเซลล์ผิว หรือ Exfoliation จะช่วยเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป จึงช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้นได้ แต่แนะนำว่าให้ใช้ Chemical Exfoliation จะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าเพราะไม่ต้องขัดลงไปโดยตรง

4. ใช้สกินแคร์ลบรอยดำ

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามิน A, E, C, Niacinamide หรือ Retinoid เพราะคุณๆ เหล่านี้เขาจะช่วยให้จุดด่างดำดูลดเลือนลง โดยเฉพาะคุณ Retinoid ที่ช่วยลดจุดด่างดำหลังการเกิดผื่นแพ้ได้อย่างดี