ไขข้อข้องใจ ทำไม La Mer ถึงราคาแรง!

ถ้าพูดถึงสกินแคร์สุดแพงแสน Hi-End ละก็ ไม่มีชื่อของ La Mer ไม่ได้เลยค่ะ เพราะแค่ขนาด 15 ml. ของ Crème de la Mer ตัวดังของคุณเขากระปุกเดียวราคาก็พุ่งไปถึง 3,800 บาท!!! (มือทาบอก) ราคาแรงแซงทุกกระปุกบนโต๊ะขนาดนี้ คงจะทำเอาสาวๆ อดสงสัยไม่ได้เลยใช่มั้ยล่ะคะว่ามันมีอะไรพิเศษกว่าครีมทั่วไปหรือเปล่า? คำตอบอยู่ที่คุณ “Miracle Broth” นี่เองค่ะ

Miracle Broth เป็นหัวใจหลักในทุกๆ โปรดักส์ของ La Mer และทำให้แบรนด์นี้เป็นที่โด่งดังขึ้นมาค่ะ คุณคนนี้เขาก็คือน้ำสกัดจากสาหร่ายซีเคลป์ ซึ่งความว้าวของเขาอย่างแรกเลยก็คือคุณสมบัติที่ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยขจัดปัญหาผิวสารพัดสิ่งได้แบบ Miracle สุดๆ เพราะในน้ำมหัศจรรย์นี้อุดมสารอาหารมากมาย ทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม เลซิติน วิตามิน C, E, B12 และธาตุเหล็ก ผสมด้วยน้ำมันซิตรัส ยูคาลิปตัส อัลฟัลฟา เมล็ดทานตะวัน และจมูกข้าวสาลี ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว บำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น เปล่งประกาย และยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวกระชับ ดูอ่อนเยาว์อีกด้วย

อีกหนึ่งความว้าวของคุณ Miracle Broth ก็คือ “สตอรี่” ของเขานั่นเอง ตั้งแต่ที่อยู่ของเขาบนเกาะแวนคูเวอร์ ไปจนถึงการเก็บเขาขึ้นมาด้วยมือ ผสมกับเปลือกมะนาวที่ปอกด้วยมืออีกเช่นกัน แถมพอสกัดออกมาแล้วยังมีการเปิดเพลงกล่อมเพื่อเร่งปฏิกิริยาของส่วนผสมแต่ละตัวอีก! เรื่องราวเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโปรดักส์ สร้างความเลอค่า เสริมความแพงให้กับ La Mer จนราคาพุ่งแรงอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ

กล่าวโดยสรุปก็คือ ความแพงของ La Mer ไม่ได้มาจากแค่ส่วนผสมสูตรพิเศษที่ช่วยขจัดปัญหาผิวได้แบบครบเครื่องเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวของมันที่มีความเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร เป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ทำให้ La Mer เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ดูเลอค่า ยิ่งแพง และยิ่งกลายเป็นที่ถวิลหาของบรรดาสาวๆ นั่นเอง  แล้วคุณล่ะ? อยากมีสักกระปุกไว้ประดับโต๊ะมั้ยล่ะคะ