น้ําตบจําเป็นแค่ไหน? ควรลงทุนกับน้ำตบเคาน์เตอร์แบรนด์เลยมั้ย?

โดย เภสัชกรประจำ choicechecker 06/05/2021

รีวิวน้ำตบ

ทำไมถึงใช้ ‘น้ำตบ’ กันคะ? อยากลดสิว อยากเตรียมผิว ก็มันใช้ง่ายเย็นๆสบายผิวดี ...แล้วน้ำตบเป็นไอเท็มที่ต้องมีสำหรับทุกคนจริงรึเปล่า? และถ้าอยากลงทุนซื้อน้ําตบระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ดังๆ เริ่มต้นยังไงดี? คอนเทนต์นี้มีคำตอบให้ค่ะ


 

‘น้ำตบ’ มักจะทํามาในรูปแบบใสๆ หนืดน้อยมากๆ เหนียวนิดหน่อย แน่นอนว่าพลิกหลังกล่องก็มีส่วนผสมของ ‘น้ํา’ เป็นหลัก และสารบำรุงต่างๆที่ผสมเข้ากับน้ําได้ดี แล้วเคยสงสัยไหมว่า มันจําเป็นหรือเปล่า? 

 

งั้นมาดูกันว่าเราได้อะไรจากการทาน้ำตบ?

หน้าที่ของน้ำตบคือการปรับสภาพผิวให้พร้อมรับสารแอคทีฟที่จะเข้าไปทำงานต่อ วิธีการก็คือน้ำตบจะทำให้ผิวชุ่มชื้นแบบเร็วๆ เพื่อเปิดทางให้สารบำรุงต่างๆซึมเข้าผิวง่ายขึ้น ลึกและทั่วถึงกว่า สารบำรุงที่เราต้องการก็จะทำงานได้ประสิทธิภาพสูงกว่า ช่วยให้มั่นใจขึ้นนิดว่าจะคุ้มกับเงินและเวลาที่ทาไป

 

รีวิวน้ำตบ

 

สรุปง่ายๆ ผิวที่ชุ่มชื้นจะรับการบำรุงได้ดีกว่า และยังทนต่อสารแอคทีฟแรงๆได้ดีขึ้นด้วย เพราะบางคนอาจจะมีผิวระคายเคืองง่าย ต้องการใช้สารแอคทีฟที่แรงขึ้นแต่บางครั้งก็ทนใช้ไม่ไหว 

 

แล้วน้ำตบจำเป็นจริงมั้ย?

เราได้คำตอบว่ามันมีปัจจัยหลายเลยล่ะ มาส่องทีละประเด็นกันค่ะ

หน้าที่ของน้ำตบ ปรับสภาพผิวให้พร้อมรับสารแอคทีฟที่จะลงต่อไป

สภาพผิว (ผิวมัน/ผิวแห้ง/ผิวผสม) ‘คนผิวแห้ง’ ส่วนใหญ่ทาเท่าไหร่หน้าก็ไม่ชุ่ม น้ำตบอาจจะเป็นตัวช่วยเปิดให้ผิวชุ่มชื้นก่อนลงตัวอื่นๆตามมา ส่วน ‘คนผิวมัน’ ให้ใช้เนื้อแน่นๆหนักตึ๊บทายังไงก็เหนอะ ไม่แฮปปี้ ชอบความบางเบา ซึมง่ายสไตล์น้ำตบถึงได้โดนใจ ด้วยเนื้อสัมผัสในแบบที่ทุกสภาพผิวชอบได้ไม่ยาก

สกินแคร์เดิม หากสกินแคร์เดิมที่มีอยู่ หากมีสารที่ปูทางความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ น้ำตบช่วยคุณได้!! การใช้น้ำตบเพิ่มเข้ามาก็เป็นอีกตัวเลือกนึงค่ะ

ความต้องการของคุณเอง ถ้าหน้าที่ของน้ำตบให้ได้ในสิ่งที่คุณต้องการคุณก็มีสิทธิเลือกที่จะใช้เค้าค่ะ

ต่อไปเราจะพาไปตามหาน้ำตบที่คู่ควรจะวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง

 


 

รีวิวน้ำตบ 3 เคาน์เตอร์แบรนด์ตัวดัง

รีวิวน้ำตบ

รีวิวน้ำตบล็อกซิทาน: L'Occitane Immortelle Reset Triphase Essence Spray (150 ml / ฿2,600)

น้ำตบรีเซ็ตภูมิคุ้มกันผิวความพิเศษคือเนื้อสัมผัส 3 ชั้น ไม่ได้มีแค่ ‘น้ำ’ แต่มี ‘น้ำมัน’ การเติมน้ำมันเข้าผิวชั้นในก่อนจะทำให้ผิวนุ่ม และเป็นตัวพาสารบำรุงจากสกินแคร์ตัวอื่นที่มีน้ำมัน/ไขมันดีๆเข้าสู่ชั้นผิวได้เต็มที่มากกว่าน้ำตบทั่วไปที่มีแค่น้ำ (นึกภาพเวลาน้ำเจอกับน้ำมันจะแยกชั้นกัน) ทำให้ผิวชุ่มชื้น ดูอิ่มฟูแน่นขึ้น 
ล็อกซิทานเค้าขึ้นชื่อเรื่องออยล์ที่ไม่อุดตันผิว น้ำตบสูตรนี้ถึงได้มี 3 เลเยอร์ ชั้นน้ำ 70% และน้ำมัน 30%

ชั้นที่ 1 Oil | Castor Oil และ Rapeseed Oil ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการอักเสบ และมอบความชุ่มชื้น

ชั้นที่ 2 Oil | สารสกัด Beetroot & Immortelle Essential Oil ช่วยลดสารอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยชะลอริ้วรอย

ชั้นที่ 3 Prebiotic Water | Prebiotic Beetroot Extract & สารสกัดจากดอก Acmella ช่วยเติมสารอาหารให้แก๊ง Microbiome ที่อยู่บนเกราะป้องกันผิว ปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรง และช่วยปรับผิวสมูทเรียนเนียนขึ้นด้วยดอก Acmella 

เนื้อสัมผัส: เห็นว่ามีออยล์แต่เนื้อน้ำเบาสบายผิวกว่าที่คิด ซึมง่าย ตบแล้วผิวฉ่ำเนียนนุ่ม 

แพ็คเกจ: มาเป็นหัวสเปรย์อณูเล็กๆละเอียดยิบ ฉีดแล้วแท็บเบาๆนิดนึงช่วยให้น้องซึมเข้าผิว

 

รีวิวน้ำตบเห็ด: Origin Mega-Mushroom Relief & Resilience Treatment Lotion (200ml / ฿1,800) 

น้ำตบเห็ดในตำนาน ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ใส่มาเน้นในงานปลอบประโลมผิว เป็นด่านแรกในการเติมน้ำให้ความชุ่มชื้น

มีสารสกัดจากเห็ดหลายชนิดผสมกัน เห็ดหลินจือ เห็ดถั่งเฉ้า เห็ด Chaga และเห็ด Coprinus ที่ผ่านกระบวนการหมัก ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น และปลอบประโลมลดผิวระคายเคือง

ซีบัคธอร์น&แลคโตบาซิลลัส ช่วยกู้ความชุ่มชื้นให้ผิว

เนื้อสัมผัส: เนื้อน้ำเบาๆ หนืดนิดเดียวแทบไม่รู้สึก ซึมไวแต่ไม่มีแอลกอฮอล์นะ

แพ็คเกจ : เป็นฝาเปิดเทลงมือ
 

รีวิวน้ำตบลาแมร์: La Mer The Treatment Lotion (150ml / ฿5,700)

น้ำตบเตรียมผิวอัพความชุ่มชื้นด้วยคุณค่าจากทะเล สำหรับสาวกลาแมร์ที่ชอบส่วมผสมในตำนานสุดพิเศษ

มี Liquid Energy ที่ช่วยให้เนื้อทรีทเมนท์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ชุ่มชื้นขึ้นทันทีที่ใช้แบบรู้สึกได้

The Revitalizing Ferment ที่มีสารสกัดจากสาหร่าย Marine Algae และแร่ธาตุจากทะเลสูตรลับเฉพาะในตำนานของลาแมร์ ช่วยเติมความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน และปรับสภาพผิวให้สมดุล

ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอีกหลายชนิดที่มาช่วยเรื่องการปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง

เนื้อสัมผัส&กลิ่น: น้ำๆใสๆ หนืดนิดๆ ทำให้ผิวนุ่มขึ้น ชุ่มฉ่ำ

แพ็คเกจ : เป็นฝาหมุนเปิด เทลงบนมือก่อนแท็บบนผิวหน้า

 

รีวิวน้ำตบเห็ด

ทั้ง 3 แบรนด์เป็นน้ำตบที่มีส่วนผสมเด่นแตกต่างกัน ด้วยความที่เค้าเป็นแบรนด์ระดับโลกอ่ะเนอะ ก็เลยมีงบลงทุน R&D ทำวิจัยของตัวเอง สร้างนวัตกรรมใหม่ๆมาใช้พัฒนาโปรดักส์อยู่ตลอด บวกกับกลิ่นลักซ์ชูวหอมๆเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะของแต่ละแบรนด์ด้วย

 

สรุปสั้นๆ น้ำตบแต่ละแบรนด์เหมาะกับใครบ้าง?

งานบำรุงผิวครบจบในตัวเดียว มีทั้งน้ำ+น้ำมัน+พรีไบโอติกส์ เตรียมงานผิวชุ่มฉ่ำปรับสมดุล เน้นผิวแข็งแรงทั้งระยะสั้นและยาวยกให้ L'Occitane Immortelle Reset Triphase Essence Spray สำหรับคนที่ต้องการงานผิวชุ่มฉ่ำเนื้อเบาๆ ได้ฟีลเฟรชเหมือนหลังล้างหน้า ต้องน้ำตบเห็ด Orgin เป็นอะไรที่เข้าถึงง่าย หรือจะฟินกับทรีทเมนท์โลชั่นเพิ่มผิวอิ่มฟูสายหรูก็ต้อง La Mer The Treatment Lotion

 


บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น


ผลิตภัณฑ์น่าสนใจมากค่ะ
10/07/2023 00:41
ขอบคุณที่มาแชร์กันค่า
23/01/2023 06:54
ชอบมากขาดไม่ได้เลยค่ะ
29/11/2022 15:24
ชอบใช้มากๆลยค่ะ
15/10/2022 20:53
ชอบมาก เนื้อเบาสบายซึมเข้าได้ดีค่ะ
15/10/2022 20:53
สำหรับเรา เราชอบนะคะใช้ตบเพื่อเตรียมผิวสู่การบำรุงเป็นขั้นแรกที่ให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่น
13/10/2022 04:49
ดราชอบนะ เนื้อเบาสบายผิว
05/06/2022 12:29