เราอยู่ในยุคที่ไม่ว่าเพศไหนก็รู้จักดูแลตัวเอง แน่ล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าเติมแป้งที่ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป และเชื่อว่าหลายๆคนถ้าไม่ได้แต่งหน้า มันรู้สึกออกจากบ้านไม่ได้ ประหนึ่งว่าเหมือนเปลือยผ้าเลยทีเดียว (ใครๆก็อยากดูดีในแบบตัวเองที่สุด) นอกจากจะเสริมเรื่องความมั่นใจแล้ว ความสนุกในการแต่งหน้าก็คือเรื่องหนึ่งที่ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือชาวผิวแพ้ง่าย ก็ไม่อยากพลาด ทีนี้เราควรจะใช้แป้งอะไร แบบไหนถึงจะดี? หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักในศาสตร์สารเบสิคที่ก่อความระคายเคืองที่ควรรู้จัก และเราอาจจะบริโภคทุกวันแบบไม่รู้ตัวนั้นแล้ว อ่านต่อที่นี่ ก่อนอื่นอยากให้ทำความรู้จักอีกสักนิด ว่าแป้งที่เราใช้กันมีแบบไหนบ้าง
1. แป้งเด็ก (Baby Powder) หลายคนเชื่อว่าอ่อนโยนที่สุด เด็กใช้ได้ ทำไมเราจะใช้ไม่ได้ หรือบ้างก็ถึงขั้นแนะนำว่าเป็นสิวให้พักหน้า แพ้ง่าย ก็ไม่ต้องแต่งหน้าสิ ขอบอกเลยว่า ไม่จริงเสมอไป แป้งเด็กนั้นมีโมเลกุลที่เล็ก และดูดซับความชุ่มชื้น ซึ่งหากผิวเราขาดความชุ่มชื้น(ซึ่งชาวผิวมันก็ขาดความชุ่มชื้นได้เช่นกัน) อาจส่งผลให้หน้าแห้งขาดสมดุล ทำให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคือง คัน หรือเป็นผื่นได้ ในส่วนการควบคุมความมันนั้นไม่ได้เป็นผล และแป้งเด็กนั้นไม่ใช่แป้งสำหรับแต่งหน้าแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้
2. แป้งฝุ่น (Loose Powder) เนื้อโปร่งแสง บางเบา เนียนละเอียด เหมาะสำหรับลุคธรรมชาติ เนียนใส โชว์ผิว เนื่องจากแป้งฝุ่นสามารถช่วยดูดซับความมันได้ นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่หลายๆคนแนะนำให้เป็นแป้งที่เหมาะสำหรับชาวผิวอุดตันง่าย เนื้อบางเบา ง่ายต่อการทำความสะอาด แถมยังช่วยให้ติดทนตลอดวัน
3. แป้งแบบอัดแข็ง (Pressed Powder) แป้งที่อัดอยู่ในรูปแบบตลับ พกพาสะดวกอย่างที่เราทราบกันดี เนื้อแป้งนี้จะมีส่วนผสมที่ให้ความมันกับผิวได้มากกว่าแป้งฝุ่น มีความลื่น เกลี่ยได้ง่ายกว่าแป้งฝุ่น ทำให้มีความปกปิดได้สูงกว่า หากเป็นแป้งอัดแข็งแบบผสมรองพื้น จะสามารถปกปิดได้มากขึ้นไปอีก
4. แป้งคุชชั่น (Cushion CC Cream/BB Cream) แป้งที่รวมจุดเด่นของรองพื้น และเนื้อแป้งเข้าด้วยกัน ลักษณะเป็นเนื้อครีมที่ได้ออกแบบให้มีโมเลกุลที่เล็กขึ้น ง่ายต่อการใช้ สะดวกและเหมาะกับไลฟ์สไตล์เร็วๆแบบคนยุคปัจจุบัน ความปกปิดปานกลางถึงเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่เนื้อจะมีความมันสูง จึงไม่เหมาะกับชาวผิวมันหรือแพ้ง่าย
1. เลือกจากจุดประสงค์การใช้ ต้องการความปกปิดมากหรือน้อย เท่าไหร่ และเลือกจากส่วนผสมที่ไม่ก่อการระคาย และเหมาะกับสภาพผิวที่สุด ทุกครั้งที่เลือกผลิตภัณฑ์ใดๆใช้บนผิว เราควรอ่านฉลาก สังเกตตัวเอง สุขภาพผิว รวมทั้งขั้นตอนการทำความสะอาด
2. เลือกจากส่วนผสมที่เราได้คัดกรองแล้วว่าไม่แพ้ จากการสังเกตตัวเราเอง โดยตรวจสอบจากส่วนผสมบนฉลาก(ย้ำอีกครั้ง) และตรวจสอบขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า เรื่องสุขภาพผิวหน้าก็คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
ดังนั้นหากคุณเป็นชาวผิวมัน ผิวแพ้ง่าย หรืออาจจะเป็นสิวด้วย แต่เลิฟเมคอัพเป็นชีวิตจิตใจได้เวลาแล้วค่ะ
แป้งพัฟ เน้นสบายใจ ปกปิดเล็กน้อย PharmaPure Acne Solution Young Natural Powder
Skin Type Suitable: Normal to Oily skin types
Over All Comedogenic Rating: 0 (Very Good)
Key Ingredient Quality: Very Good
Overall Ingredient Quality: Good
Product Claims Vs. Ingredient: Good
ปริมาณสุทธิ : 11.5 กรัม ราคา : 304 บาท (แต่ร้านยาขายแค่ 260 กว่าๆ เอง)
แป้งดังแห่งวงการผิวเป็นสิวแพ้ง่าย ที่ว่ากันว่าหมอในคลีนิคชื่อดังต่างแนะนำกัน ลุคที่จะได้คือ ลุคกระจ่างใส แบบเบาๆ
ข้อดี:
- แป้งนี้ไม่ผสมรองพื้น การปกปิดบางเบา (มากๆ)
- ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด UVA UVB มีวิตามินอี ซี มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ ในการบำรุงไปในตัว
- คุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน
- ผ่าน Dermatologically Tested ที่ปลอดภัยต่อผิวบอบบาง ชาวผิวแพ้ง่ายไม่ต้องกังวล
- แป้งใช้ได้ทุกสีผิว เนื้อบางเบาโปร่งแสง ละเอียด
ข้อเสีย:
-แป้งนี้ไม่มีสีให้เลือก
-ตอนแรกจะขาว (ใช้เวลา set 10-15 นาที)
แป้งฝุ่น Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder
Skin Type Suitable: All skin types
Over All Comedogenic Rating: 0 (Good)
Key Ingredient Quality: Very Good
Overall Ingredient Quality: Good
Product Claims Vs. Ingredient: Good
ปริมาณสุทธิ : 17 กรัม ราคา : 1,950 บาท
แป้งฝุ่นที่ยอมรับว่าดังที่สุดของ Laura Mercier เลยทีเดียว
ข้อดี:
- แป้งเนื้อละเอียดที่มีให้เลือกมากกว่า 7 แบบ
- เนื้อมีความบางเบา โปร่งแสง เนียน ไม่ตกร่อง กระจายแสงและคุมความมันได้ดี เนื้อละลายเข้ากับสีผิว
- จุดเด่นคือไม่มีสารกันเสียพาราเบน น้ำหอมสังเคราะห์ ส่วนผสมที่ได้มาจากสัตว์ หรือแม้จะเป็น Mineral oil โดยสกัดจากส่วนผสมธรรมชาติทั้งสิ้น
ข้อเสีย:
-แป้งไม่ได้คุมมันมาก แต่ถือว่าได้ดีระดับนึง
-ราคาค่อนข้างสูง
แป้งอัดแข็งผสมรองพื้น ปิดเน้นๆ คุมมันแน่นๆ KAT VON D Lock-It Powder Foundation
Skin Type Suitable: All skin types
Over All Comedogenic Rating: 3 (Aware)
Key Ingredient Quality: Good
Overall Ingredient Quality: Good
Product Claims Vs. Ingredient: Good
ปริมาณสุทธิ : 9 กรัม ราคา : 1,300 บาท
ตีแผ่ความจริงได้เลย ว่าแป้งที่มีส่วนผสมของรองพื้น(เกือบ)ทุกรุ่น มีส่วนผสมของ Silicone ที่เคลือบผิวให้ smooth และ Mica ที่ช่วยกระจายแสงได้อย่างดี และดูดความมัน ซึ่งทั้งสองตัวนี้ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย อุดตันง่าย (และอย่างที่บอกไม่ใช่ทุกคนที่แพ้สารสองตัวนี้เสมอไป และเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการทำความสะอาดด้วย) และอย่างที่บอกอีกเช่นเคย ว่าชาวผิวแพ้ง่ายทุกคน อาจจะไม่ได้แพ้สารตัวนี้ เราจึงแนะนำสำหรับชาวผิวแพ้ง่ายที่ปกติ ชอบใช้แป้งผสมรองพื้น ชอบความปกปิด ความกริบ และไม่แพ้สารตัวนี้ (ย้ำซ้ำๆ) ตัวนี้คุมมัน และติดทนมาก ไม่มีน้ำหอม และส่วนผสมอื่นที่น่ากังวลนอกจากสองตัวที่บอก ก็ลองเลย
ข้อดี:
-ปกปิดดีเยี่ยม ติดทนนาน คุมมันได้ดีเยี่ยม มีให้เลือก 25 เฉดสีผิว
-เนื้อมีความเนียน ง่ายต่อการทา (เนื่องจากมีซิลิโคน) ใครที่อยากให้ดูไม่หนา ใช้แปรงแทนพัฟได้ค่ะ (อย่าลืมทำความสะอาดพัฟและแปรงบ่อยๆนะคะ)
-มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น rice powder ช่วยให้ได้ลุคเบลอๆฟุ้งๆผิวเนียน Kaolin และ Clay minerals ช่วยให้ได้ลุคที่ matte กริบมาก Vegan & Cruelty-free ไม่มีส่วนผสมที่ทำจากสัตว์ และไม่ทดสอบผลิตภัณฑ์จากสัตว์อีกด้วย
- ไม่มีน้ำหอมสังเคราะห์ (ใครที่เวลาใช้แป้งอัดแข็งแล้วอุดตันง่าย แพ้ง่าย อาจจะเป็นน้ำหอมก็ได้นะคะ)
ข้อเสีย:
-มีส่วนผสมที่ไม่น่าไว้วางใจเช่น Talc (แต่เชื่อว่าแบรนด์นี้ น่าจะใช้ Talc เกรดดี ซึ่งไม่น่ามีปัญหา), Silicone (ประมาณ 3-4 ตัว) และ Mica ซึ่งหากใครแพ้ก็ใช้ไม่ได้นะคะ หากไม่แพ้ก็ต้องเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด (ย้ำซ้ำๆเรื่อยๆ)
-ราคาค่อนช้างสูง
ไม่ว่ายังไงเครื่องสำอางส่วนใหญ่ มักมีส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการอุดตันต่างๆ หากอยากแฮปปี้กับการแต่งหน้า ให้สำรวจตัวเราว่าแพ้อะไร และหลีกเลี่ยงสารนั้น และใส่ใจดูแลผิว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกค่ะ
ข้อควรจำ: การล้างเครื่องสำอางออกให้ห
ความคิดเห็น