รีวิว Derma B ดีจริงหรือแค่กระแส!??
ห่างหายจากการเขียนรีวิวไปพักใหญ่ คัมแบคแล้วค่า ความที่เห็นแบรนด์สกินแคร์ Derma:B จากเกาหลี พึ่งเข้ามาเปิดตัวและวางขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และตอนนี้ค่อนข้างเป็นกระแสอยู่ในโซเชียล ผักบุ้งเองใช้ตัวแฮนด์ครีมของเค้าอยู่แล้ว เลยถือโอกาสซื้อ Derma:B Oil ตัวที่กำลังดัง มาลองด้วยซะเลย (รีวิวเองแบบโนสปอนไปเลยจ้า อยากรู้ต้องซื้อ พลังชาวเน็ตป้ายยามันเกินต้านมาก)
วันนี้ก็ขอรีวิวทั้ง 2 ตัวเลยนะคะ เริ่มที่รีวิว Derma:B Intensive Barrier Multi Oil ก่อน เพราะกระแสมาดีมาก เห็นหลายๆ คนพูดถึงกันค่อนข้างเยอะ ซึ่งตัวนี้จะเป็นออยล์ทาผิว ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายเลย คือขวดนึงคุ้มแน่นอนค่ะ
ดูจากที่ขวดสิ่งเห็นชัดสุดเลยก็คือ โลโก้ MLE ที่ย่อมาจาก Multi-Lamellar-Emulsion เป็นเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรของเกาหลีแหละ เป็นตัวที่จะช่วยในเรื่องปกป้องเกราะป้องกันผิวและลดความระคายเคือง ซึ่งการที่แบรนด์จะเอาโลโก้นี้มาติดที่หน้าขวดได้ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ ต้องผ่านการทดสอบนู่นนั่นนี่ของทางเกาหลีพอสมควรเลยค่ะ Derma B มีโลโก้นี้ติดอยู่ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้ระดับนึงเลย
พอจะมาพลิกส่วนผสมอ่านเพิ่มก็คือเงิบไปเลย เพราะที่เหลือเป็นภาษาเกาหลีหมดเลย แงงง อ่านส่วนผสมไม่ได้เลยยยย อันนี้เซ็งมาก แต่ด้วยความที่อยากลองจริงๆ ก็เลยกดหาส่วนผสมมาอ่านเพิ่มเติม และเอาข้อมูลมาฝากเพิ่มๆ ด้วยค่ะ
จากส่วนผสมที่หลักเค้าจะเน้นเรื่อง Antioxidant จากออยล์หลากหลายชนิดที่เค้าใส่มา เช่น grape seed oil, Olive oil, Argan oil,safflower oil
ซึ่งถ้ารวมกับออยล์อื่นๆ ที่เค้าใส่มาเนี่ยก็ประมาณ 11 ชนิดผสมอยู่ในขวดนี้ ก็จุกๆ ไปเลยนะ
แต่พูดถึงออยล์ หลายคนก็คงกังวลเรื่องว่าน้องจะอุดตันผิวมั้ย ใช้แล้วจะเป็นสิวอุดตันรึเปล่า ผักบุ้งเองก็เลยลองมาไล่เช็คดูว่าออยล์ที่เค้าใส่มาเนี่ยมีค่า comedogenic rate เท่าไหร่ ใช้แล้วจะเสี่ยงอุดตันรึเปล่าค่ะ
ซึ่งจากที่ลองเช็คค่า comedogenic rate แล้วเนี่ย ส่วนใหญ่ Derma B ขวดนี้เค้าจะใช้ออยล์ที่มี comedogenic rate ค่อนข้างต่ำทั้งนั้นเลย (อยู่ที่ 0-1) แต่สุดท้ายแล้วการจะคอนเฟิร์มว่าใช้ได้เลยนะ ไม่อุดตัน มันก็เป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของเราด้วยว่าเป็นคนผิวอุดตันง่ายรึเปล่านะ ค่าเรตนี้ก็เป็นตัวเลขที่ช่วยให้เราตัดสินใจเบื้องต้นได้ค่ะ แต่จากที่ผักบุ้งลองใช้มายังไม่เจอปัญหานี้นะคะ ส่วนตัวถือว่าโอเคเลย
นอกจากเรื่องแอนตี้ออกซิแดนซ์แล้ว เค้าก็มาช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ปลอบประโลมผิว ต่างๆ ด้วยนะ งั้นเรามาพูดถึง ข้อดี-ข้อเสีย ของเจ้าออยล์ Derma B ขวดนี้กันค่ะ
ข้อดี
ข้อเสีย
เนื้อสัมผัส Derma:B Intensive Barrier Multi Oil
เป็นเนื้อออยล์เหลว ไม่เหนียวจนเกินไป มีกลิ่นหอมอ่อนๆ (มีน้ำหอมนะคะ แต่ไม่ได้หอมแรงขนาดนั้น)
รีวิว Derma:B Intensive Barrier Multi Oil ในมุมคนผิวแห้งนะคะ (ทาทั้งหน้าและตัว)
สำหรับทาหน้าทาเค้าตัวเดียวก็ไม่ได้ปังสุดอะไรเบอร์นั้น ต้องใช้ร่วมกับพวกมอยเจอร์ไรเซอร์อื่นๆ ด้วย และผักบุ้งก็ใช้ทาแค่ตอนกลางคืนอย่างเดียว ทากลางวันไม่ไหวแน่ๆค่ะ เยิ้มพอสมควรเลย
ส่วนสำหรับทาตัว ผักบุ้งก็คิดว่าค่อนข้างโอเคเลย แต่จะมีเหนอะหนะตัวไปบ้าง ต้องใช้ครั้งละน้อยๆค่ะ เป็นทางออกที่เวิร์คที่สุด เรื่องแก้ผิวหยาบกรา้นต่างๆ ถามว่าแก้ได้ทันทีทันใดเลยมั้
ย ก็ไม่ได้ทำได้ขนาดนั้น แต่คิดว่าถ้าใช้ต่อไปเรื่อยๆและมีวินัยในการดูแลผิว น่าจะเห็นผลดีขึ้นเลยค่ะ
ถ้าถามคุ้มค่าการซื้อมามั้ย ก็โอเคนะ ทาได้ทั้งหน้าและตัว ในราคา 499 บาท 135 ml ราคานี้น่าจะแพงกว่าร้านหิ้ว แต่บอกตรงๆกลัว เลยยอมซื้อร้าน Official ที่ดูน่าเชื่อถือดีกว่า
มาต่อที่ Derma:B Daily Moisture Hand Cream กันค่ะ หลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ใช้แฮนด์ครีมกันมากนัก แต่บอกเลยว่ายิ่งเป้นชาวออฟฟิศ หรือนั่งทำงานในห้องแอร์ทั้งวัน หรือยิ่งต้องล้างมือบ่อยๆ โอกาสมือแห้งเกิดขึ้นได้นะคะ อีกอย่างยิ่งถ้าเราดูแลผิวหน้าดีจนดูเด็กกว่าวัยได้ แต่ลืมดูแลผิวที่มือก็โป๊ะแตกเหมือนกันนะ หน้าสวยใสแต่มือเหี่ยวไม่ได้นะแม่ แงงง
ซึ่งข้างขวดเค้าก็เหมือนเดิมมีแต่ภาษาเกาหลีล้วนเลยจ้าา ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนผสมของเค้าก็จะมีออยล์อยู่ด้วยถึง 3 ชนิดด้วยกันเลย เรื่องเน้นความชุ่มชื้นถือว่าส่วนผสมทำมาค่อนข้างโอเคเลยค่ะ
เนื้อสัมผัสเค้าค่อนข้างซึมดีมาก ไม่เหนียว ไม่รู้สึกรำคาญเลย ทาแล้วรู้สึกว่ามือนุ่มนิ่มน่าจับ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะวางไว้บนโต๊ะทำงานหรือจุดที่หยิบใช้ง่ายเลยค่ะ ยิ่งมือแห้งๆ จนสัมผัสแล้วเริ่มรู้สึกสากจากแอลกอฮอล์ฆ่าเขื้อหรือการล้างมือ ก็หยิบทาเลย ชุ่มชื้นนุ่มนวล เกาหลีเกาใจมากๆ แต่ขนาดเค้าไม่ค่อยเหมาะกับการพกพานะ เพราะหลอดใหญ่จะเท่าโฟมล้างหน้าแล้วแม่ แต่มองมุมความคุ้มค่าคือยอมเลยจ้า
ความเห็นส่วนตัวเลยนะ Derma B Hand Cream คุ้มค่าแก่การซื้อสุดๆ ตั้งแต่ใช้มาคนข้างๆ ไม่บ่นเรื่องมือสากแล้ว จากปกติคนข้างๆบ่นตลอดว่ามือสาก ก็งงนะคะ ทำงานสายออฟฟิศ ไม่ได้ใช้มือไปทำงานบากบั่นอะไรเลย ฮรือออออ ซึ่งเราก็เดาว่าน่าจะเพราะขาดการบำรุงและความรักสะอาด (และกลัวโควิด) จนล้างมือตลอดเวลาแหละ ใครอยากมีมือนุ่มน่าจับ ก็ไปหาตำกันดูนะคะ
ถ้าให้สรุปว่า Derma B ดีจริงหรือแค่กระแส?
จากมุมมองที่ลองใช้มา 2 โปรดักส์ ผักบุ้งคิดว่าแบรนด์นี้ก็ไม่ได้ว้าวมากเป็นพิเศษขนาดนั้น แต่ก็อยู่ในระดับกลางๆ เป็นแบรนด์ฟีลพวกเวชสำอางค์ ใช้ง่าย ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ ส่วนผลลัพธ์หลังใช้ก็ไม่ได้หวือหวามาก แต่ก็คงเป็นแบรนด์ที่จะหยิบมาใช้ได้เรื่อยๆ ในทุกๆวัน เพราะความใช้ง่าย ใช้ได้ทุกโอกาสค่ะ
และยังมีอีกไอเทมของแบรนด์นี้ที่ผักบุ้งอยากลองแต่ยังไม่เห็นว่าร้านออฟฟิเชียลวางขายก้คือ กันแดด จ้าาา ขวดใหญ่สะใจ ราคาค่อนข้างเป็นมิตร ดูเหมาะกับการเอามาใช้ทาตัวในทุกๆ วันมาก แต่ขอรอให้ร้านออฟฟิเชียลเค้าวางขายก่อน และระหว่างนี้จะเคลียร์กันแดดในสต๊อกไปพลางๆด้วยค่ะ
ถ้าใครเคยใช้แล้วพิมพ์ป้ายยา มารีวิวกันได้เลยน้าา
ความคิดเห็น