วิตามินเอ (Vitamin A) ในสกินแคร์ หรือเรตินอล เรตินอยด์ หรืออีกหลายๆ ชื่อที่ทุกคนคงคุ้นเคย ซึ่งรู้รึเปล่าว่า เรตินอยด์เป็นส่วนผสมที่ถ้าได้ใช้จะจึ้งมาก งานวิจัยใดๆ ก็ยกให้นางเป็นที่สุดแห่งการลดริ้วรอย (รวมทั้งคุณสมบัติดีๆอีกมากมาย) แต่จะเอามาใส่ในรูทีนก็มีข้อควรระวังเยอะอยู่เหมือนกัน แล้วใครบ้างที่ควรใช้เจ้าสกินแคร์กลุ่มวิตามินเอนี้ ไปดูกันเลย
**กลุ่มคนที่ตั้งครรภ์หรือมีแพลนกำลังจะมีน้อง ต้องหยุดใช้เรตินอลไปก่อนนะคะ**
ทางลัดไปอ่านหัวข้อที่สนใจกันเลย
ก่อนจะไปเจอเรตินอล มาเริ่มรู้จักกับคำว่า Retinoid (เรตินอยด์) กันก่อน เรตินอยด์ คือคำที่ใช้เรียกอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอทั้งครอบครัวทั้งหมด(ซึ่งที่เราเรียกกันว่า เรตินอล เรตินัล หรือวิตามินเอจะเป็นการเรียกเจาะจงไปที่ตัวใดตัวหนึ่งนั่นเอง) ได้แก่
ที่เห็นว่า กลุ่มวิตามินเอ มีเยอะขนาดนี้ เพราะเรตินอยด์ถูกเอามาแปลงร่างให้เป็นรูปฟอร์มอนุพันธ์ที่หลากหลาย ให้มีความอ่อนโยนมากขึ้น ซึ่งค่อนข้างมั่นใจเลยว่าเมื่อพูดถึง Retinol สิ่งแรกที่หลายคนกังวลคงไม่พ้นเรื่องระคายเคืองผิวแน่นอน ซึ่งการที่เค้าเอามาปรับเป็นรูปอนุพันธ์ต่างๆ ก็เพื่อให้สามารถทาลงผิวแล้วรู้สึกระคายเคืองน้อยลงนั่นเอง
แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าสารอนุพันธ์ทั้งหลายจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม ในตอนจบทุกตัวจะต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็น Retinoic Acid ในผิวทีหลัง เพื่อให้ออกฤทธิ์ได้จริง ผิวเอาไปใช้งานต่อได้ ด้วยกลไกเสต็ปนี้… Retinyl Ester → Retinol → Retinaldehyde → Retinoic Acid (ไม่งงนะ? ถ้างงก็ข้ามช่วงนี้ไปดูที่เราอธิบายรายละเอียดทีละตัวได้เลย)
1.ช่วยลดสิว โดยเฉพาะสิวอุดตันต้องจบที่ตัวนี้ ที่บอกว่าใช้แล้วสิวผุดไม่ใช่แค่ข่าวลือ เพราะความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวที่ AHA ยังแพ้ ทำให้เซลล์ผิวเรียงตัวสวย เท็กซ์เจอร์ผิวเนียนเรียบขึ้น สิวอุดตันก็น้อยลง
2.ช่วยลดริ้วรอย ต้านความแก่ คอนเฟิร์มด้วยผลวิจัยรองรับมากที่สุด (เฉพาะ Retinoic Acid, Tretinoin) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ได้ แต่ต้องทาต่อเนื่อง 6 เดือนขึ้นไป+
3.ช่วยอัพผิวกระจ่างใส ด้วยการบล็อคเม็ดสีผิว(melanin) รอยดำจางลงเร็วขึ้นเพราะเซลล์ผิวเรียงตัวผลัดเซลล์ผิวเก่าที่หมองคล้ำออกไป
4.ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนัง กระเนื้อ
Retinyl Ester → Retinol → Retinaldehyde → Retinoic Acid
■ Retinyl Ester - ✔︎ ซื้อใช้ได้เอง เป็นชนิดที่อยู่ในสกินแคร์ทั่วไป
เป็นเรตินอยด์ชนิดที่อ่อนโยนที่สุด เมื่อทาลงไปบนผิวจะใช้ 3 steps ในการเปลี่ยนรูป ซึ่งเจ้าตัวนี้เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย หรือเพิ่งเริ่มลองใช้วิตามินเอ Retinyl Propinoate, Retinyl Palmitate น่าจะเป็นตัวที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในกลุ่ม Retinyl เรื่องช่วยลดริ้วรอยและสร้างเม็ดสี สำหรับ Retinyl Acetate และ Retinyl Linolate ควรใช้ร่วมกับเรตินอยด์ตัวอื่นที่แข็งแรงกว่า ต้องใช้ 3-6 เดือนขึ้นไปถึงจะเริ่มเห็นผล
ไอเท็มแนะนำ : A+ High-Dose Retinoid Serum
■ Retinol - ✔︎ ซื้อใช้ได้เอง เป็นชนิดที่อยู่ในสกินแคร์ทั่วไป
เป็นเรตินอยด์ที่ใช้ 2 step ในการเปลี่ยนรูปเห็นผลชัดกว่า Retinyl ester ช่วยเรื่องริ้วรอยจากแสงแดด ปรับปรุงความยืนหยุ่นของผิว มีประสิทธิ มีความระคายเคืองมากกว่า Retinyl ester ยิ่งเข้มข้นมากยิ่งระคายเคืองมากช่วงการเห็นผล 3-6 เดือน
ไอเท็มแนะนำ : The Inkey List Retinol
■ Retinaldehyde - ✔︎ ซื้อใช้ได้เอง เป็นชนิดที่อยู่ในสกินแคร์ทั่วไป
เป็นสารตั้งต้นของ Retinoic acid ตัวนี้อาจจะสร้างความระคายเคืองผิวได้มากกว่า Retinyl ester และ Retinol แต่ช่วยซ่อมแซมความเสียหายจากรังสี UVA ช่วยลดริ้วรอยได้ ถ้าใช้คู่กับไฮยาลูรอนจะช่วยเรื่องสิวได้ ใช้ความเข้มข้นแค่ 0.05% 4 เดือนครึ่งก็เริ่มเห็นผลเรื่องริ้วรอย ผลลัพธ์จะชัดที่สุดช่วง 11 เดือน
ไอเท็มแนะนำ : Herbitage The Concentrate 25.8
■ Retinoic Acid - ✘ ซื้อใช้เองไม่ได้ ถูกจัดให้เป็นยาควบคุมโดยเภสัชกรหรือแพทย์เท่านั้น
อย่างที่บอกว่านี่คือสารที่ออกฤทธิ์ในผิวเราจริงๆ พอทาไปแล้วผิวเราจะดูดซึมไปใช้งานได้เลย ที่จริงก็หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปนะ แต่ต้องให้คุณเภสัชจ่ายยาให้หรือซื้อใช้ตามใบสั่งแพทย์ เพราะผลข้างเคียงเยอะ
มีประสิทธิภาพที่สุดเรื่องลดผิวเสื่อมสภาพจากรังสียูวี ใช้ที่ความเข้มข้น 0.05% 4 เดือนครึ่งก็เริ่มเห็นผลเรื่องริ้วรอยและความแห้งกร้าน ผลลัพธ์จะชัดที่สุดหลังใช้ไป 11 เดือน
■ Bakuchiol - ✔︎ ซื้อใช้ได้เอง เป็นชนิดที่อยู่ในสกินแคร์ทั่วไป
เป็นสารสกัดจากเมล็ด Psoralea corylifolia(Babchi) ถึงหน้าตาโครงสร้างทางเคมีจะไม่ได้เลียนแบบเรตินอล แต่นางทำได้เหมือนเรตินอลเป๊ะ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในผิว ผลัดเซลล์ผิว ยับยั้งเม็ดสี ลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระได้ ที่สำคัญคือมีความอ่อนโยนแทบจะไม่มีผลข้างเคียง ต้องใช้อย่างน้อย 4 เดือน+
ไอเท็มแนะนำ : Miraculum Bakuchiol Anti-Aging Regenerating Day and Night Face Serum
ทาตอนไหนยังไง? ใช้ได้เฉพาะช่วงก่อนนอนเท่านั้น โดยควรมอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนได้ แล้วค่อยทาโปรดักส์เรตินอยด์ของคุณก่อนจะปิดไฟนอนสวยๆ และที่สำคัญถ้าใช้เรตินอลแล้วต้องไม่ลืมทากันแดดปกป้องผิวให้เต็มที่ในทุกๆ วันด้วยนะคะ
เรามาดูกันว่า เรตินอลใช้กับส่วนผสมอะไรแล้วยิ่งดี ผิวยิ่งปัง
Retinol + Peptides - ช่วยฟื้นฟูชั้นผิว เติมความชุ่มชื้น
Retinol + Hyaluron - ช่วยเติมความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
Retinol + Allantoin - เติมความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
Retinol + Niacinamide - ลดการระคายเคือง ฟื้นฟูชั้นผิว
Retinol + Green Tea - ลดการอักเสบ
Retinol x Benzoyl Peroxide - เพราะจะทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
Retinol x AHA/BHA - ใช้พร้อมกันจะยิ่งทำให้ผิวบาง เสี่ายงต่อการระคายเคือง
Retinol x Vitamin C - ออกฤทธิ์ขัดกันเอง เสี่ยงเกิดการระคายเคือง
สุดท้ายนี้ กลุ่มคนที่ตั้งครรภ์หรือมีแพลนกำลังจะมีน้อง ต้องหยุดใช้เรตินอลไปก่อนเลยนะคะ
👩⚕️คอนเทนต์นี้จัดทำโดยเภสัชกรวิชาชีพประจำ ChoiceChecker👩⚕️
Reference
ความคิดเห็น