รีวิว น้ำตบ d Program สีชมพู เติม Microbiome เพิ่มผิวแข็วแรง
ผักบุ้งเอง คนเดิมมม^^ รอบนี้ก็มาพร้อมรีวิวแบบโนสปอนเหมือนเดิม สิ่งที่จะหยิบมารีวิววันนี้เป็นน้ำตบค่ะ ผักบุ้งเองก็ใช้น้ำตบมาหลายตัวอยู่ ซึ่งน้ำตบ d program ก็เป็นอีกตัวที่หยิบใช้บ่อยๆ ด้วยความใช้ง่าย Texture โอเคเลย ไม่เหนอะหนะ แถมอ่อนโยนด้วย
ปกติผักบุ้งจะชอบใช้น้ำตบ d Program นี้ตอนช่วงเช้าค่ะ รู้สึกว่าน้องเค้าให้ความชุ่มชื้นได้ดีเลย เพราะช่วงเช้าปกติแล้วจะลดจำนวนเลย์เยอร์สกินแคร์ลง เน้นใช้น้อย แต่ต้องได้ผลมากหน่อย ยิ่งปัญหาของคนผิวแห้งแบบเราๆ ก็คงหนีไม่พ้นการเติมความชุ่มชื้นให้แน่นๆ และเพียงพอค่ะ
อย่างที่บอกว่าจากที่ลองใช้มาสักพักนึงแล้ว รู้สึกว่าเค้าเป็นน้ำตบอีกตัวที่อยากจะรีวิวจริงๆค่ะ งั้นเราตามไปดูความน่าสนใจจากเค้ากันก่อนเลยค่ะ
รีวิวน้ำตบ d Program ไลน์นี้มีหลายสูตรให้เลือกตามสภาพผิวเลยนะ
ผิวผักบุ้งคือโลชั่น d program ขวดสีชมพูจ้า ความผิวแห้งอ่ะเนอะ เลิฟการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นที่สุดดดด ซึ่งสูตรสีชมพูนี้เค้าก็มาช่วยแก้ปัญหาผิวขาดน้ำ ผิวแห้งมากแบบแห้งกร้าน จนดูไม่สดใส
ปกติแล้วขั้นตอนน้ำตบเตรียมผิวต่างๆ หลายคนอาจจะลืมๆไปบ้าง
แต่ผักบุ้งอยากแชร์ เป็นเคล็ดลับที่อ่านเจอมาจากบล็อกเกอร์ต่างประเทศค่ะ คือหลังล้างหน้าเสร็จ พอเราซับหน้าแล้ว ให้หยิบน้ำตบมาตบๆเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเลยทันที ผิวของเราก้จะไม่ต้องเจอกับการสูญเสียความชุ่มชื้นจากการทำความสะอาดหน้านาน
เพราะฉะนั้นน้ำตบก็เลยเหมาะกับการวางในห้องน้ำเลยเหมือนกัน เราจะได้ไม่ลืมหยิบน้องมาใช้ทันทีด้วยค่ะ
ต่อมาที่ขาดไม่ได้คือการพลิกดูส่วนผสม เพราะจะใช้สกินแคร์อะไรก็แล้วแต่การอ่านส่วนผสมสำคัญที่สุดน้าาา
เริ่มที่ส่วนผสมหลักตัวเด่นสุดในไลน์นี้ ที่เค้าใส่มาในทุกๆ สูตรเลย
Yeast extract complex เค้าเป็นอาหารของ beauty microbiome ซึ่งเจ้า beauty microbiome เป็นจุลินทรีย์ชนิดดีต่อผิวนั่นเอง การดูแล Microbiome บนผิวเป็นอีกเรื่องที่แสนสุดจะสำคัญ ChoiceCheceker เองก็ย้ำให้ฟังหลายต่อหลายครั้งมากๆ เพราะถ้า
เพราะน้องๆจุลินทรีย์เหล่านี้เค้ามีหน้าที่ในการช่วยเทรนด์ให้ระบบภูมิคุ้มกันของผิวเราแข็งแรงขึ้น ทำให้ลดโอกาสการแพ้ การระคายเคือง การอักเสบลงได้ และยิ่งใครที่อายุเริ่มมากขึ้น เริ่มหลุดเลข 3 ไปแล้ว จำนวนน้องๆเหล่านี้เค้าก็น้อยลงไปตามอายุเราด้วย
ฉะนั้นการตามหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Microbiome ก็เป็นเรื่องทำจำเป็นอีกอย่างนึงในสกินแคร์รูทีนเลยน้าาา
-Dipotassium glycyrrhizinate ช่วยปลอบประโลมผิวที่มี่แนวโน้มระคายเคือง
-DP complex ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวให้ดูแข็งแรงและกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น
-Tranexamic Acid ช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรงมากขึ้น
บอกเลยว่าส่วนผสมหลัก 4 ตัวเด็ดๆ ที่เค้ามีในทุกสูตร ช่วยดูแลงานผิวแข็งแรงกันแบบบครบๆ แถมใครที่เป้นสายแพ้ง่ายก็ไม่ต้องกังวล เพราะน้องเค้าปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน ด้วย ค่อนข้างอุ่นใจเลยค่ะ
มาต่อที่ส่วนผสมที่น่าสนใจของ d program ขวดสีชมพูกันบ้างดีกว่า
acetylated sodium hyaluronate เป็นกลุ่มให้ความชุ่มชื้นและช่วยกันเก้บน้ำในผิวเช่นเดียวกับ ไฮยาลูรอนนิค แอซิด เพียงแต่เป็นชนิดที่ถูกดัดแปลงโครงสร้างบางส่วน เพื่อให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นนั่นเอง
และส่วนผสมอื่นๆที่เน้นเฉพาะด้านมอยส์เจอร์ไรเซอร์เลย ไม่ว่าจะเป็น glycyrrhizinate ,XR Complex, Aqua In Pool
รีวิวแพคเกจก่อนเลย
น้ำตบ d Program ตัวนี้ผักบุ้งค่อนข้างชอบความหัวกดของเค้า ใช้ง่าย ความคุมปริมาณได้ ไม่หกเลอะเทอะแน่นอน ใช้เท่าไหนกดได้ดั่งได้ จุดนี้ให้คะแนนเต็ม มีฝาปิดมิดชิด แว๊บแรกเลย อย่าว่ากันนะ เห็นแล้วนึกถึงขวดนมน้อง สีชมพูใสๆ มุมิ คล้ายมาก น่ารักไปอีกแบบ
ถามว่าใช้เท่าไหนดี แบรนด์เขียนแนะนำไว้ว่ากด 1 ปั๊ม ลงบนฝ่ามือ สำหรับผักบุ้งเอง 1 ปั๊ม ก็ทั่วใบหน้า จริงไม่เกินที่เค้าแนะนำ
ในส่วนของเนื้อสัมผัสน้ำตบ d Program เนื้อมีลักษณะเป็นน้ำ ไม่ถึงกับใส มีความขุ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น
ความรู้สึกหลังจากตบลงบนผิว
รับรู้ถึงน้ำหนักของโลชั่นน้ำตบ d Program เค้าไม่ได้เบาเป็นน้ำเปล่าแบบทาเหมือนไม่ได้ เค้าจะเป็นฟีล มีน้ำหนักนิดๆแบบผิวรู้สึกได้ถึงการบำรุง มีความหนึบหน้านิดๆ แต่ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไร (อันนี้อาจจะเพราะเป็นคนทาครีมเนื้อหนักๆมาอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่า ตัวนี้ไม่ได้เหนอะหนะอะไรเบอร์นั้น) ได้งานผิวชุ่มชื้น แบบยังเบาสบายผิวอยู่ ซึ่งเหมาะมากกับการเติมน้ำให้ผิวช่วงเช้า หรือระหว่างวันมากๆค่ะ
อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่าปกติจะใช้ตัวนี้ในช่วงเช้าเลย เพราะความชุ่มชื้น เนื้อที่มีน้ำหนักแบบเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้แบบพอดีมากๆ ไม่ต้องเติมสกินแคร์อื่นเพิ่มหลายเลย์เยอร์ เพราะความใช้ตอนกลางวันมันก็อาจจะเสี่ยงหน้าเยิ้มจากอากาศร้อนมาก หรือใครที่ต้องเมคอัพอีกคนไม่อยากเสียเวลาเตรียมผิวนาน แนะนำตัวนี้ติดรูทีนไว้เลยคุ้มแน่นอนค่าา
ซึ่ง d Program ไลน์นี้เค้าไม่ได้มีแค่ Lotion นะ เค้ายังมีตัว Emulsion สำหรับเติมเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์อีกตัวนึง ใครที่อยากจัดมาใช้คู่กันก็จัดได้เลย ราคาไม่แรงมาก แต่ผักบุ้งได้ไปลองเทสมาแล้ว ยังแอบรู้สึกไม่ค่อยถูกใจเนื้อน้อง Emulsion สักเท่าไหร่ เพราะคาดหวังว่าน้องจะเบาสบายผิว แต่แอบทิ้งความมัน ความหนึบเอาไว้พอสมควร (ซึ่งเนื้อประมาณนี้ก็มีตุนที่บ้านอีกหลายตัวเลย) ไว้ถ้ามีโอกาสไปสอยน้องมาใช้ตอนไหนจะไม่ลืมหยิบมารีวิวนะคะ
เพื่อนๆ คนไหนเคยใช้ หรือมีคำถามอะไรคอมเมนต์ไว้ได้เลยน้าาา หรือใครที่อยากให้ผักบุ้งรีวิว หรือลองใช้อะไรก็บอกกันได้เลย ถ้ามีโอกาสจะเขียนรีวิวมาให้อ่านค่า
ความคิดเห็น